ประวัติส่วนตัว ดาบิด เด เคอา

          เด เกอา เกิดในปี 1999 ณ กรุงมาดริด และเป็นผลผลิตจากระบบเยาวชนของ แอตเลติโก มาดริด ด้วยความที่มีรูปร่างสูงและเล่นลูกเท้าได้เป็นอย่างดี ทำให้เขาก้าวขึ้นมาจากทีมเยาวชน มาอยู่กับทีมชุดใหญ่ของสโมสรได้อย่างรวดเร็ว โดยฤดูกาล 2008-09 เขาเริ่มต้นด้วยการลงเล่นให้กับ

          ทีมสำรองของสโมสร และในฤดูกาลถัดมา เขาได้ประเดิมสนามนัดแรกกับทีมชุดใหญ่ ด้วยการเป็นตัวสำรองในเกมยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกที่พบกับปอร์โต้ ซึ่งในเกมนั้น เขาได้สัมผัสเกมชุดใหญ่ครั้งแรกด้วยการถูกเปลี่ยนตัวลงไปแทนนายทวารรุ่นพี่ หลังจากนั้นเขาก็มีโอกาสได้โชว์ฝีมือมากขึ้นเรื่อยๆ และได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างมากจากการที่เป็นผู้เล่นตัวหลักในชุดที่ทีม สามารถคว้าแชมป์ยูโรป้าลีกได้เป็นครั้งแรกในรอบห้าสิบปี
 
          หลังจากนั้น เขาก็ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์มากขึ้นเรื่อยๆจนในที่สุดก็มีข่าวลือว่า ยูไนเต็ดแสดงความสนใจในตัวเขา ซึ่งข่าวลือที่ว่านี้เริ่มขึ้นตั้งแต่มกราคม 2010 และในเดือนกันยายนปีเดียวกัน  อิริค สตีลลิวอส โค้ชผู้รักษาประตูของยูไนเต็ดได้เดินทางไปดูฟอร์มการเล่นของเขาถึงสเปนเลยที เดียว
 
          เมื่อฤดูกาล 2010-11 จบลง เด เกอา ตกเป็นข่าวอย่างหนาผู้ว่าเป็นตัวเลือกอันดับแรกของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในการที่จะหาผู้รักษาประตูมือดีมารับช่วงต่อจากน้าซาร์ แม้ว่าการเจรจาในครั้งนี้จะยังไม่คืบหน้าเนื่องจาก เด เกอา ยังติดภารกิจรับใช้ชาติใน ยูโร ยู21 ที่เดนมาร์ค นายทวารดาวรุ่งชาวสเปนผู้นี้ ย้ายมาอยู่กับยูไนเต็ดหลังจากที่เพิ่งได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่ของ แอตเลติโก้ มาดริด มาเพียงแค่สองฤดูกาลเท่านั้น ทำให้เขาถูกมองว่ายังเป็นผู้รักษาประตูที่ยังด้อยประสบการณ์อยู่พอสมควร แต่ในทางตรงกันข้าม เขาก็ถูกยกย่องว่าเป็นนายทวารที่เต็มไปด้วยคุณภาพใกล้เคียงกับ เอ็ดวิน ฟาน เดอ ซาร์ ผู้ซึ่งแสดงให้ชาวโลกได้เห็นว่า ผู้รักษาประตูฝีมือดี สามารถลงเล่นในเกมระดับสูงได้จนอายุสี่สิบปี  ซึ่งถ้าเราอนุมาน เด เกอา ว่ามีคุณภาพเฉกเช่นเดียวกับ ฟาน เดอ ซาร์ แล้วล่ะก็ เราก็อาจเห็นเขาอยู่กับยูไนเต็ดไปอีกยี่สิบปีเลยทีเดียว

          ในการให้สัมภาษณ์ครั้งแรกในฐานะผู้เล่นของยูไนเต็ด เขากล่าวว่า “ผมภูมิใจมาก และรอแทบไม่ไหวที่จะได้ลงเล่นที่นี่” และยังกล่าวทิ้งท้ายอีกว่า “เมื่อสโมสรระดับแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดแสดงความสนใจในตัวคุณ แน่นอนที่สุดว่ามันทำให้คุณมีความสุขมากๆ”

          ในช่วงครึ่งฤดูกาล 2011 เราได้เห็นการจัดการของสโมสรสำหรับการมาแทนที่ของฟาน เดอร์ ซาร์ และ เด เกอา ได้รับความสนใจอย่างมาก หลังจากนัดเทสติโมเนียลของแกรี่ เนวิลล์กับยูเวนตุสเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม เซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ผู้จัดการทีมอ้างว่าต้องการได้ตัวเด เกอามาร่วมทีมแต่ถูกแอตเลติโก มาดริดปฏิเสธ แต่ทางต้นสังกัดของ เด เกอา ดูยังไม่ไดเจรจาถึงอนาคตของเขา กระทั่งการแข่งขันยูฟ่าชุดอายุไม่เกิน 21 ปีหลังจากสเปนคว้าชัย  เด เกอาพบแพทย์ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในวันที่ 27 มิถุนายน ในวันรุ่งขึ้นมีรายงานว่ายูไนเต็ดยื่นข้อเสนอในวันที่ 29 มิถุนายน ด้วยค่าตัว 17.8 ล้านปอนด์สำหรับผู้รักษาประตูทีมชาติสเปนรายนี้
 
         เด เกอาสร้างผลงานแรกในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกกับเอฟซี บาเซิลที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดเมื่อ 27 กันยายน 2011 การแข่งขันจบลง 3-3  ในวันที่ 23 ตุลาคม 2011 เด เกอา เสียประตูทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดล้มเหลวกับเกมในบ้านที่เลวร้ายที่สุดตั้งแต่ปี 1995 และการแพ้แมนฯ ซิตี้ 6-1 ในเดือนมกราคม 2012 ทำให้ถูกมองว่าเขาเสียประตูมากไป
 
        ฤดูกาล 2012-2013 เพราะมีการแข่งขันโอลิมปิก 2012 เด เคอาพลาดทัวร์กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด  แต่อย่างไรก็ตามเข้าก็เริ่มทีมกับการพบเจอเอฟเวอร์ตัน ถึงแม้จะทำผลงานได้โดดเด่น เด เคอาและยูไนเต็ดแพ้ 1-0 ในเกมถัดไปชนะฟูแล่มในบ้าน 3-2 เขาทำการเซฟลูกยิงของ มาเดน เปตริช, มุสซ่า เด็มเบเล่และไบรอัน รุยซ์ พยายามครอสบอลจากแมทธิว บริกจ์ 
  
         ผลงานของ เด เกอา ได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมทีม ในการถูกโหวตให้ได้รับรางวัล PFA Premier League Team of the Year เด เกอาจบฤดูกาลแรกด้วยเหรียญของแชมป์กับยูไนเต็ด ลงเล่นทั้งหมด 28 นัด 11 คลีนชีท เขามีส่วนร่วมในรางวัลถุงมือทองคำ ซึ่งสามารถปาดหน้าโจ ฮาร์ทที่เป็นเจ้าของรางวัลนี้ถึงสามสมัยซ้อน
 
        ฤดูกาล 2012-2014 เด เกอาเริ่มฤดูกาลกับยูไนเต็ดในนัดไปเยือนสวอนซี ที่ลิเบอร์ตี้ สเตเดี้ยม 1-4
 
 
 
Last Update : 2016-08-16