มอยส์ เริ่มต้นด้วยการเป็นนักเตะเยาวชนของ ไอบีวี เวสต์แมนเนย์จาร์ ในปี 1978 ก่อนจะโยกไปอยู่กับดรัมเชพเพิ่ล อเมเตอร์ส ในเวลาต่อมา กระทั่งปี 1980 เด็กหนุ่มจากสกอตแลนด์ เซ็นสัญญาอาชีพกับยักษ์ใหญ่แดนขี้เมาอย่าง เซลติก อย่างไรก็เส้นทางการค้าแข้งของ มอยส์ ไม่ได้โรยไปด้วยกุหลาบ เมื่อเจ้าตัวต้องเร่ร่อนไปอยู่ทีมอื่นๆในเวลาถัดมา ไม่ว่าจะเป็น เคมบริดจ์ ยูไนเต็ด, บริสตอล ซิตี้, ชรูว์บิวรี่ และดันเฟิร์มลิน

     ดาวเตะผมทองยุติชีวิตการค้าแข้งของตัว เองไว้กับทีมเปรสตัน ในปี 1999 พร้อมกับรับงานผู้จัดการทีมต่อจาก แกรี่ ปีเตอร์ส ในวัยเพียง 34 ปี หลังจากที่เคยมีชื่ออยู่ในทีมสต๊าฟฟ์โค้ชมาแล้วก่อนหน้านั้น ซึ่งปีดังกล่าวเขาสามารถทำให้ทีมอยู่รอดในลีก ทู ได้สำเร็จ

     ซีซั่นถัดมา มอยส์ พาทีมบินสูง ไปเตะรอบเพลย์ออฟเลื่อนชั้น แต่ไปไม่ถึงดวงดาว เมื่อพลาดท่าแพ้ต่อจิลลิ่งแฮม อย่างไรก็ดี การทำทีมของมอยส์ในตอนนั้นได้รับคำชื่นชมจากทั่วสารทิศ กะทั่งในปี 2000 เปรสตันก็เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นในระดับดิวิชั่น 1 ได้สำเร็จ ด้วยการเป็นแชมป์ลีก ทู ซึ่งนับว่าเป็นการเล่นในลีกระดับนี้เป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 20 ปีของเปรสตัน เลยทีเดียว

มอยส์ ได้รับงานที่ท้าทายกว่าเดิม ด้วยการขยับขึ้นไปคุมทีมในพรีเมียร์ลีกอย่าง เอฟเวอร์ตันในเดือนมีนาคม 2002 สิ่งหนึ่งที่ ทำให้เอฟเวอร์ตันเลือกเขามาคุมทีมก็เพราะว่าเขาเคยทำทีมเปรสตันด้วยงบประมาณ ที่น้อยนิดจนประสบความสำเร็จมาแล้ว

     เพียงในฤดูกาลต่อมา เขาก็ถูกเลือกเป็นผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปี หลังจากที่เกือบพาทีมไปเตะถ้วยยุโรป อย่างไรก็ตามใน ปีถัดมา "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" กลับดำดิ่งอย่างน่าใจหาย เมื่อรอดพ้นการตกชั้นไปเพียงแค่อันดับเดียวเท่านั้นในฤดูกาล 2003-2004 แถมยังเสียดาวยิงประจำทีมอย่าง เวย์น รูนี่ย์ ให้กับแมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงซัมเมอร์ด้วย

ฤูดูกาล 2004-2005 มอยส์เปลี่ยนเอฟเวอร์ตันจากหน้ามือเป็นหลังมือ เริ่มจากดอดไปดึงตัวทิม เคฮิลล์ กับ มาร์คัส เบนท์ เข้ามาเสริมทัพ โดยเฉพาะรายแรก นับเป็นการเซ็นสัญญาที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์การคุมทีมของ มอยส์ เลยทีเดียว

อีกทั้งเคฮิลล์ ยังมีส่วนสำคัญด้วยการพา "ทอฟฟี่เมน" จบอันดับ 4 พร้อมกับกดไปถึง 15 ตุง ในซีซั่นแรก ที่เล่นให้เอฟเวอร์ตัน และมอยส์ก็คว้ารางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปีไปครองได้เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 ปี

อย่างไรก็ตามด้วยประสบการณ์อันน้อยนิด ทำให้มอยส์ พาทีมตกรอบคัดเลือกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ไปอย่างช็อกแฟนๆ จากเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้มอยส์ตกอยู่ในสถานการณ์กดดัน ถึงขนาดมีการลือกันว่า เจ้าตัวอาจจะต้องลาออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีม เทว่าท้ายที่สุดก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ในฤดูกาลดังกล่าวพวกเขาจบอันดับที่ 11 บนตาราง และมอยส์ก็ตัดสินใจอยู่ต่อ

ในปี 2012 เทรนเนอร์จอมเฮี๊ยบ ได้รับการจารึกชื่อว่าคุมทีมในถิ่นเมอร์ซี่ย์ไซด์เป็นเวลาครบทศวรรษ (10 ปี) แต่มีตำหนิเล็กน้อย ตรงที่ไม่เคยพาทีมเป็นแชมป์แม้แต่รายการเดียว เคยใกล้เคียงที่สุดก็คือนัดชิงดำเอฟเอ คัพ ปี 2009 แต่ก็อกหักเป็นเพียงรองแชมป์ ด้วยการพ่ายต่อเชลซี

ในซีซั่น 2013-2014 กราฟชีวิตของมอยส์ พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ประกาศวางมือจากการเป็นผู้จัดการทีมแมนฯ ยูไนเต็ด ส่งผลให้บอร์ดบริหาร "ปิศาจแดง" เห็นด้วยกับคำแนะนำของ เซอร์ อเล็กซ์ ด้วยการแต่งตั้ง เดวิด มอยส์ เข้ามาทำหน้าที่แทน มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 กรกฏาคม พร้อมกับสัญญาระยะเวลา 6 ปี

มอยส์ถูกปลดออกจากตำแหน่งเมื่อวัน อังคารที่ 22 เมษายน 2014 หลังจากทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ในฤดูกาลนี้