หนึ่งในแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดยุคสมัยใหม่ เดนิส เออร์วินเป็นหนึ่งในความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสโมสรและประเทศ เขาเล่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ แสดงให้เห็นถึงการทำงานทางฝั่งแบ็คซ้ายของเขาและหลักแหลมในการทำประตู
อดีตเด็กปั้นของลีดส์ยูไนเต็ด ย้ายไปอยู่กับโอลด์แฮม แอธเลติกในปี 1990 สร้างความประทับใจในช่วงปีนั้นในการลงเตะเอฟเอคัพพบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เขาเริ่มซีซั่นกับปิศาจแดงในฤดูกาล 1990/1991 โดยลงเตะเวิร์ดคัพรอบก่อนรองชนะเลิศกับแจ็ค ชาร์ลตัน ไอร์แลนด์ เขามีสง่าราศีอย่างมาก
แต่ในฤดูกาล 1992/1993 เขายอมรับการเป็นผู้ชนะอย่างแท้จริง เขาทำไปแล้ว 5 ประตู และเป็นนายใหญ่ทันทีที่ยิงประตู 30 หลากับโคเวนทรี
ตลอดเวลาเขาเป็นคนสันโดษในระหว่างที่ทีมเป็ดับเบิลแชมป์ในฤดูกาล 1993/1994 เป็นรากฐานที่สำคัญในการที่จะลงมือทำแบบนี้อีกในปี 1996 เขาพลาดลงสนามในเอฟเอคัพปี 1999 และเขาก็กลับมาได้ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกพบกับบาเยิร์น มิวนิคที่สนามคัมป์ นู และเขาก็สามารถเย้ยเสือใต้ด้วยการเป็นแชมป์ในวัย 34 ปี
ต่อเนื่องมาจนถึงปี 2000 เดนิสยืดเวลาในการค้าแข้งให้กับทีมชาติเอาไว้ให้นานที่สุด
500 นัดสำหรับเหล่าเรดส์ เดินทางมาถึงปีที่ 10 ในปี 2001 ช่วงเวลาที่เหมาะสมเกิดขึ้นในวันเซนต์แพทริก เมื่อเขาได้เป็นกัปตันเปิดบ้านเอาชนะเลสเตอร์ ซิตี้ เขาได้รับปลอกแขนอีกครั้งในเกมสุดท้ายในบ้านกับดาร์บี้เคาน์ตี้ และยกถ้วยแชมป์ เป็นครั้งที่ 7 ของเขา
มีการขยายสัญญาออกไปอีก 12 เดือน ในที่สุดเขาก็ปิดฉากการค้าแข้งที่สวยงามลงรวมเป็นระยะเวลา 12 ปีในนัดที่พบกับชาร์ลตัน แอธเลติก ที่สนามโอลด์ แทรฟฟอร์ดเมื่อเดือนพฤษภาคม 2002 เขาเป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่เป็นอันดับสองของยูไนเต็ดกับเหรียญแห่งชัยชนะ 13 ครั้ง
แปลโดย kapoonz
06/09/13