สวัสดีครับพี่น้องแฟนผีทุกท่านหลังจากเกมเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาคงทำให้หลายท่านคงผิดหวังกันไม่น้อยเพราะการเสมอ 1-1 แบบน่าชนะในเกมที่สแตมฟอร์ด บริดจ์
ในความผิดหวังที่โคตรน่าเสียดาย หลายๆ ท่านใช้ความโกรธทั้งหมดโยนใส่เเพะประจำทีมอย่าง เมมฟิส เดอปาย เจ้าเก่าเจ้าเดิมที่เล่นผิดพลาดจนเป็นจุดเริ่มต้นของการเสียประตู
... แน่ล่ะครับในสถานการณ์ที่ทีมหลุดสวนกลับมา 4 คนเขาควรจะทำได้ดีกว่านี้ อย่างน้อยๆ ต้องไม่เสียง่ายจนคนดูทั่วโลกต้องเกาหัวและสบถคำหยาบออกมาพร้อมๆ กันแบบออโต้เช่นนี้
จบเเล้วให้จบไป .... ผลการเเข่งขันแก้อะไรไม่ได้เเล้ว แต่สิ่งที่แก้ได้คือนักเตะของเรานี่แหละครับ บทเรียนครั้งนี้คงเป็นครั้งที่เจ้าตัวจะจดจำไปอีกยาวนานแน่ๆ สิ่งนี้นี่แหละที่จะทำให้สติสัมปชัญญะของ เมมฟิส ตื่นขึ้นจนตาสว่างเสียที
เรื่องของเรื่องวันนี้ผมจะมาบอกว่ามีนักเตะของเราหลายรายที่เคยได้รับความกดดันในเเบบที่เมมฟิสเคยได้รับ ... บางคนอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำไป แต่ท้ายที่สุดเเล้วพวกเขาใช้แรงกดดันพวกนั้นแปลเปลี่ยนเป็นความมุ่งมั่นที่ทำให้ท้ายที่สุดเเล้วเขาเหล่านั้นกลับมาซื้อใจแฟนบอลของยูไนเต็ดได้อีกครั้ง
1. เวส บราวน์
ในยุคของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน หลังจากการคว้าทริปเปิ้ลแชมป์ในปี 1999 มีดาวรุ่งตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ 1 คนที่มักจะได้สอดแทรกมีชื่อเข้ามาในทีมอยู่เรื่อยๆ นั่นคือ เวส บราวน์ ของเรานั่นเอง
บราวน์ เติบโตมาในยุคที่ ยูไนเต็ด ขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดของสโมสร การที่เขาเป็นดาวรุ่งในช่วงนั้นย่อมได้รับความกดดันอย่างมาก ... ทั้งหมดนี้อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาดูโฉ่งฉ่างและลนลานในทุกจังหวะการเล่นจนแฟนบอลร้องยี้อารมณ์ประมาณว่า "กูไม่เอาไอ้นี่เเล้วโว้ยยย!!"
น้องน้ำตาล ผู้มากับความหลอนในทุกโอกาสที่ลงสนามใช้เวลาสู้กับเสียงก่นด่าอยู่นาน ก่อนจะระเบิดพลังกลบทุกเสียงวิจารณ์ในช่วงปี 2007 เป็นต้นมา จุดพีคสุดๆ ต้องยกให้ฤดูกาล 2008-09 ที่ บราวน์ ยึดตำแหน่งแบ็คขวายาวๆ ทั้งฤดูกาล ผสานงานกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ในฝั่งขวาอย่างเข้าขาแบบสุดๆ ท้ายที่สุดแล้วในฤดูกาลนั้นปีศาจเเดงเถลิงดับเบิ้ลแชมป์ไปครองอย่างสวยงาม!
2. อันโตนิโอ วาเลนเซีย
ปีกขวาหน้านิ่งย้ายมาจาก วีแกน ด้วยค่าตัวกว่า 20 ล้านปอนด์ ... เช่นกันกับนักเตะใหม่ของยูไนเต็ดทุกคนที่ความกดดันจะต้องถาโถมใส่ แต่อันโตนิโอต้องรับมันเพิ่มเป็น 2 เท่าเพราะเขาได้รับเสื้อหมายเลข 7 ต่อจากคริสเตียโน่ โรนัลโด้ โคตรแข้งที่ย้ายออกไป
เวลาผ่านไปเรื่อยมาฉายาซ้ายเล็บขบก็ตกเป็นของเขาอย่างรวดเร็ว ด้วยสไตล์การเล่นที่พุ่งเป็นเส้นตรงไปทางขวา 90% (อีก 10% ส่งคืนหลัง) ทำให้แฟนบอลพร้อมใจสวดยับ "นี่หรือคนที่จะมาแทนไอ้โด้!"
เหมือนเขาจะยอมแพ้ไป 1 ครั้งหลังจากจบฤดูกาลแรกกับปีศาจเเดงเพราะเขาตัดสินใจเปลี่ยนเสื้อจากหมายเลข 7 ไปเป็นหมายเลข 25 เบอร์เดิมที่เขาใช้สมัยฟอร์มฮอตๆ กับวีแกน ทำให้เขาดูผ่อนคลายมากกว่าเดิม
ในฤดูกาลต่อมากับบทบาทแบ็คขวา วาเลนเซีย ใช้สไตล์ถนัดของเขาได้ถูกจังหวะมากขึ้น การกระชากแล้วครอส ส่งให้เวย์น รูนี่ย์ คว้ารางวัลรองดาวซัลโวของพรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2011-12 ด้วยการซัดไปถึง 29 ประตู ฟอร์มในฤดูกาลนั้นส่งให้แฟนบอลเริ่มลดอคติในตัวเขาลงเรื่อยๆ จนเริ่มเปลี่ยนเป็นคำชื่นชมบ้างแล้ว
หลังจากนั้น วาเลนเซีย รักษาฟอร์มการเล่นของเขาได้ดีเสมอมา แม้จะมีแย่ๆ ไปบ้างแต่ความทุ่มเทเเละสปิริตของเขายังคงยอดเยี่ยม ระยะหลังอาจจะต้องถอยมาเล่นแบ็คขวาบ่อยๆ แต่เขาก็ยังไม่ปริปากบ่น รับหน้าที่ตามที่ได้รับการมอบหมายได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้เชื่อว่าแฟนผีหลายคนคงคิดถึงเขาบ้างแล้วในช่วงที่เขาต้องห่างสนามไปนาน