หลังจากที่เมื่อวานเราได้พูดถึง 2 นักเตะของปีศาจเเดงที่เอาชนะเสียงก่นด่าจนกลายเป็นคำชื่นชมจากแฟนบอลได้สำเร็จ .... วันนี้เราจะมาพูดถึงอีก 3 อันดับที่เหลือกันครับ
3. ดาบิด เค เคอา
การเข้ามาทำหน้าที่แทนโคตรผู้รักษาประตูอย่าง เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ใช่แค่ฝีมือเท่านั้นที่ต้องพิสูจน์สำหรับตำแหน่งนี้ แต่ใครก็ตามที่ก้าวเข้ามาต้องแสดงให้แฟนบอลและเหล่าเเนวรับของทีมเห็นว่าเขานั้น "ไว้ใจได้"
"เด เคอา" ก้าวเข้ามาสู่รั่วโอลด์ แทรฟฟอร์ด ด้วยค่าตัว 18 ล้านปอนด์จาก แอตฯ มาดริด แม้ว่าเขาจะพกพาชื่อเสียงจากสเปนมาไม่น้อย แต่ก็อย่างที่บอกไปว่าพรีเมียร์ลีกไม่ใช่ขี้ๆนะครับ!!
เป็นธรรมดาที่ความคาดหวังมากมายจะถาโถมใส่เขา ไม่ว่าจะด้วยอะไรก็เเล้วแต่ในช่วงเวลาตั้งไข่ของเขากับแมนฯ ยูไนเต็ดต้องนับว่า เด เคอา ออกอาการ "แป๊ก" อย่างหนักเลยทีเดียว
เริ่มกันตั้งแต่เกม คอมมิวนิตี้ ชิลด์ กับ คู่แข่งร่วมเมืองอย่างแมนฯ ซิตี้ เด เคอา ไม่รอช้าปล่อยไก่ด้วยการออกมาตัดบอลพลาดหลายๆครั้ง รวมถึงการปล่อยลูกยิงไกลของ เอดิน เซโก้ เข้าประตูแบบ "หมูหก" อย่างไรอย่างนั้น
แต่ก็นั้นล่ะครับท่ามกลางความกดดันทั้งในและนอกสนาม(ข่าวลือต่างๆมากมาย) เด เคอา ยังไม่ยอมแพ้จน เอริค สตีล โค้ชผู้รักษาประตูของยูไนเต็ดในเวลานั้นต้องออกมายกย่องหัวจิตหัวใจนักสู้ของเขาสำหรับการสู้ตายถวายชีวิตทั้งในสนามซ้อมและสนามแข่ง
จากความพยายามแรมปี ตอนนี้เราทุกคนหมดความสงสัยในความสามารถของ เด เคอา เป็นที่เรียบร้อย และพูดได้เต็มปากว่าเขาคือผู้สืบทอดตำนานโคตรผู้รักษาประตูของ ฟาน เดอร์ ซาร์ ได้อย่างไร้รอยต่อ!
4. ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์
"ไอ้กุ้งเเห้งนี่ใคร?" ผมจำคำที่ผมสบถถึงเฟล็ทเชอร์ได้ตอนที่เขาได้เปิดตัวเกมแรกๆกับยูไนเต็ด ผมได้รู้คร่าวๆว่าเขาได้ฉายาว่า เดวิด เบ็คแฮ่ม ของทีมเยาวนปีศาจเเดง แน่นอนว่าตอนนั้น เฟล็ทเชอร์ เปิดตัวด้วยตำแหน่งปีกขวา!!
ต้องยอมรับเลยว่าตอนนั้นผมก็เกิดความสงสัยและผมคิดว่าท่านอื่นๆก็คงเห็นเป็นเช่นเดียวกันว่าปีกขวาอะไรกัน ทำไมมันถึงได้ไร้มิติขนาดนี้ ... ครอสบอลธรรมดา , แรงปะทะน้อย เรื่องสปีดและสกิลการเลี้ยงบอลไม่ต้องพูดถึง! เหตุผลทั้งหมดนี้ทำให้หลายๆคนเริ่มจะยี้เจ้าเฟล็ทกันเต็มที่จนถึงขึ้นยัดเยียดเขาให้เข้าไปอยู่กลุ่มจตุรเทพที่มีกัน 5 คน(ริชาร์ดสัน , ซิลแวสตร์ , บราวน์ , โอเชีย , เฟล็ทเชอร์)
เหมือนป๋าเฟอร์กี้เองก็คงเห็นอะไรในตัวเขาบ้างจึงลองขยับเฟล็ทเชอร์เข้ามาเล่นตรงกลางดู แม้จะไม่โดดเด่นแต่ผลงานของเขาก็ดูเป็นรูปธรรมมากขึ้นโดยเฉพาะในแง่ของความขยัน วิ่งไม่มีหมดตลอดทั้งเกม
ขวบปีผ่านไปเรื่อยๆ เฟล็ทเชอร์ เริ่มสั่งสมประสบการณ์มากขึ้น เขาเริ่มพัฒนาอาวุธเด็ดของตัวเองขึ้นมาอีก ไม่ว่าจะเป็นการตัดบอล , การจ่ายบอลง่ายๆที่ได้คุณภาพ , การหาจังหวะเติมขึ้นไปยิงประตู รวมถึงอาวุธเดิมอย่างความขยันของเขาก็ถูกนำไปปรับมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เมื่อทุกอย่างที่กล่าวมาพุ่งถึงจุดสุดยอด รวมถึงความเป็นเด็กปั้นของสโมสรโดยตรงทำให้เขาก้าวขึ้นสู่ 11 ตัวจริงของทีมอย่างน่าภูมิใจ ... ยูไนเต็ดในช่วงเวลานั้น 2007-2010 ฟาดแทบทุกแชมป์ที่ขวางหน้า นั่นเพราะผู้ปิดทองหลังพระอย่าง เฟล็ทเชอร์ ที่เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จในยุคนั้น
5. คริสเตียโน่ โรนัลโด้
ในตอนที่โรนัลโด้มาถึงใหม่ๆ เขาสร้างความวูบวาบไม่น้อย และแน่นอนว่าด้วยความคล่องตัวและเทคนิคของเขาทำให้กองหลังในพรีเมียร์ลีกที่ยังไม่เคยเจอทรงบอลประเภทนี้ต้องปวดหัวในการไล่หวดไล่ประกบเขา
เขาไม่ต้องรอนานนักสำหรับประตูแรก เพราะเพียงเเค่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน เปลี่ยนตัวเขาลงสนามมาแทน นิคกี้ บัตต์ ในเกมกับ โบลตัน โรนัลโด้ ก็สามารถตะบันประตูแรกของเขาได้ทันที
แม้ว่าจะเปิดหัวได้สวย แต่ช่วงเวลาหลังจากนั้นก็เหมือนว่าเขาจะโชว์มากไปหน่อย และเป็นการเเสดงเทคนิคที่มีแต่น้ำไม่ค่อยได้ประโยชน์อะไรนัก จนทำให้หลายครั้งเขาต้องนั่งดูเพื่อนในม้านั่งสำรองเสียส่วนใหญ่ และแฟนๆเริ่มมองว่านักเตะสไตล์บ้าเทคนิคเช่นนี้อาจไม่เหมาะกับทีมของเราเหมือนที่เราเคยมีนักเตะสไตล์ปีกโบราณแบบเดวิด เบ็คแฮ่ม
ความโหดของเขาเริ่มฉายเเววหลังจากจบศึกฟุตบอลโลก 2006 ตอนนั้นไม่มีใครคิดว่าเขาจะกลับมาอยู่ในประเทศอังกฤษได้เพราะเขาได้ทำแสบแบบสุดๆเอาไว้ด้วยการยั่วยุเวย์น รูนี่ย์จนตบะแตกโดนใบเเดงในเกมที่โปรตุเกส เจอกับ อังกฤษ จนท้ายที่สุดเเล้วอังกฤษก็ต้องตกรอบไป ... เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้พี่น้องประชาชนชาวอิงค์แลนด์โมโหและเเค้น "เจ็ทโด้" จนถึงขั้นผีไม่เผาเงาไม่เหยียบเลยทีเดียว
บนเส้นทางสายนักเลงที่มีแต่เสียงโห่ในทุกๆสนามที่ไปเยือน โรนัลโด้ เติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งอย่างเหลือเชื่อ ... ยิ่งโห่ = ยิ่งเก่ง , ยิ่งกดดัน = ยิ่งโหด คือคำนิยามที่เหมาะกับ โรนัลโด้ มากที่สุด อย่าว่าแต่แฟนบอลของยูไนเต็ดเลยครับ ณ ตอนนั้นไม่ว่าแฟนทีมไหนก็ยอมเสียค่าตั๋วเพื่อเข้าไปชมโคตรบอลอย่าง โรนัลโด้ ให้เห็นด้วยตาตัวเอง
ทั้งหมดที่เรากล่าวถึงโรนัลโด้ มันช่วยทำให้เห็นว่า หากใจคุณยังไม่แพ้ และคุณยังทำงานหนัก ไม่มีทางที่คุณจะกากตลอดไป! .... ความยิ่งใหญ่จะมาเยือนคุณเข้าซักวันแน่นอน