พรีวิวเกม เอฟเอ คัพ รอบชิงฯ : คริสตัล พาเลซ -vs- แมนฯยูฯ

เวลาการเเข่งขัน : คืนวันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม เวลา 23.30 น.

สนาม : เวมบลี่ย์

ความพร้อมล่าสุดของทั้งสองทีม

คริสตัล พาเลซ

       โจ เล็ดลี่ย์ กระดูกหน้าแข้งหักไม่มีชื่อในเกมนี้แน่นอน ขณะที่ วีลฟรีด ซาฮา เป็นเพียงคนเดียวที่ยังต้องรอเช็คความฟิตจากอาการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังแต่คาดว่าเขาน่าจะกลับมาสมบูรณ์ทันเล่นนัดชิงในวันนี้ ส่วน มารูยาน ชามัคห์ ยังคงไม่มีชื่อจากปัญหาอาการบาดเจ็บที่ท้อง

แมนฯ ยูไนเต็ด

       หลุยส์ ฟาน กัล ตัดชื่อ เมมฟิส เดอปาย และ บอร์ธวิค แจ็คสัน ออกจากทริปลอนดอน เช่นเดียวกับ อัดนาน ยานาไซ และ โฟซู-เมนซาห์ ที่ยังไม่ฟิต ขณะที่ ลุ๊ค ชอว์ ที่กลับมาซ้อมได้แล้วก็ยังไม่พร้อมสำหรับเกมนี้ อย่างไรก็ตาม มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน, มาร์กอส โรโฮ หายเจ็บเรียบร้อย เช่นเดียวกับ มอร์กาน ชไนเดอร์ลิน ที่สลัดอาการป่วยพร้อมกลับมาเป็นตัวเลือก ทว่าก็ต้องแย่งตำแหน่งกับ เฟลไลนี่ ที่พ้นโทษแบน 3 นัดพอดี

นักเตะที่น่าจับตามอง

คริสตัล พาเลซ : ยานนิค โบลาซี่

       ปีกรายนี้สร้างปัญหาให้กับแนวรับที่อ่อนยวบของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมาแล้วในการเจอกันฤดูกาลนี้ ด้วยความเร็วที่มีประกอบกับความแข็งแกร่งน่าจะยังเป็นตัวอันตรายที่ พาเลซ ยังฝากความหวังเอาไว้

แมนฯ ยูไนเต็ด : อองโตนี่ มาร์กซิยาล

       ทุกครั้งที่มีบอล มาร์กซิยาล ยังคงสร้างความกดดันให้กับคู่แข่งได้เสมอ โดยเฉพาะเมื่อประจำการทางกราบซ้าย การครองบอลที่ติดเท้า จังหวะกระชากที่รู้งานช่วยให้แมนฯยูฯได้ประตูมาแล้วมากมาย วันนี้การขึ้นเกมของ "ปีศาจแดง" ก็ยังจะมีหัวหอกฝรั่งเศสรายนี้เป็นกำลังสำคัญแน่นอน

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด

คริสตัล พาเลซ

15/05/16 แพ้ เซาท์แฮมป์ตัน 1-4 (เยือน)
07/05/16 ชนะ สโต๊ค ซิตี้ 2-1 (เหย้า)
30/04/16 แพ้ นิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด 0-1 (เยือน)
24/04/16 ชนะ วัตฟอร์ด 2-1 (สนามกลาง-เอฟเอ คัพ)
21/04/16 แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-2 (เยือน)

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

18/05/16 ชนะ บอร์นมัธ 3-1 (เหย้า)
11/05/16 แพ้ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-3 (เยือน)
07/05/16 ชนะ นอริช ซิตี้ 1-0 (เยือน)
01/05/16 เสมอ เลสเตอร์ ซิตี้ 1-1 (เหย้า)
24/04/16 ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-1 (สนามกลาง-เอฟเอ คัพ)

สถิติที่น่าสนใจ

- แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แพ้เพียงหนเดียวตลอด 20 ครั้งหลังสุดที่พบกันในทุกรายการ
- คริสตัล พาเลซ มีสิทธิ์ได้แชมป์ระดับเมเจอร์เป็นครั้งแรกและมีโอกาสได้ไปเล่นถ้วยยุโรปเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
- ตลอด 5 เกมในศึก เอฟเอ คัพ ฤดูกาลนี้ "ปราสาทเรือนแก้ว" เสียประตูเพียงแค่ 3 ลูกเท่านั้น

11 ตัวจริงที่คาดว่าจะลงสนาม

คริสตัล พาเลซ (4-2-3-1) : เวย์น เฮนเนสซี่ - โจเอล วอร์ด, สกอตต์ แดนน์, ดาเมี่ยน เดลานี่, ปาเป้ ซูอาเร่ - โยอัน กาบาย, เจมส์ แม็คอาร์เธอร์ - วิลฟรีด ซาฮา, เจสัน พันเชียน, ยานนิค โบลาซี่ - คอนเนอร์ วิคแฮม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-5-1) : ดาบิด เด เกอา - อันโตนิโอ วาเลนเซีย, คริส สมอลลิ่ง, ดาลี่ย์ บลินด์, มาร์กอส โรโฮ - เจสเซ่ ลินการ์ด, มารูยาน เฟลไลนี่, ไมเคิ่ล คาร์ริค, เวย์น รูนี่ย์, อ็องโตนี่ มาร์กซิอัล - มาร์คัส แรชฟอร์ด

ทรรศนะ

       งานนี้ไม่ง่ายแน่สำหรับแมนฯยูฯ พาเลซเองก็เตรียมตัวเต็มที่สำหรับค่ำคืนนี้ อย่างไรก็ตามการเจอกันมาส่วนใหญ่ทีม "ปราสาทเรือนแก้ว" มักแพ้ทางคู่แข่งรายนี้ ฟอร์มลูกทีม หลุยส์ ฟาน กัล ในเกมนัดล่าสุดก็เรียกว่าเล่นกันไหลลื่น โดยเฉพาะเมื่อให้ รูนี่ย์ ถอยไปเล่นเป็นมิดฟิลด์ แนวรุกผีแดงที่จัดมารับรองจัดจ้านสร้างปัญหาให้ พาเลซ ได้เยอะอย่างไม่ต้องสงสัย ยิ่งแมนฯยูฯปีนี้ล้มเหลวมาทุกอย่างเหลือรายการนี้อย่างเดียวก็คงเล่นถวายหัวเพื่อซิวแชมป์ให้ได้ ศักยภาพมีแรงจูงใจสูงเชื่อว่าจะเป็นแมนฯยูฯที่แกร่งกว่าเก็บชัยชนะไปได้

ผลที่คาด : แมนฯยูฯ ชนะ 2-1