เป็นที่แน่นอนแล้วว่าในฤดูกาลหน้าเราจะไม่ได้เห็นชายที่ชื่อหลุยส์ ฟาน กัล มาคุมทัพปีศาจแดง หลังจากโดนสโมสรบอกยกเลิกสัญญาไปเมื่อเช้าของวันนี้ตามเวลาประเทศไทย ทำให้ฟาน กัล อยู่ไม่ครบสัญญา 3 ปีที่ได้จดไว้ตั้งแต่ตอนแรก ซึ่งผลจากการที่ฟาน กัล ออกจากสโมสรไปนั้น ก็เป็นที่ยินดีของแฟนแมนฯ ยูฯหลายๆ คนอาจจะด้วยผลงานที่ไม่เข้าตา สไตล์การเล่นที่น่าเบื่อไม่เร้าใจเหมือนยุคท่านเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ทั้งอาจขัดใจที่แกไม่ยินดียินร้ายมัวแต่นั่งจดๆ อยู่ข้างสนาม พร้อมทั้งนี้แมนฯ ยูฯ ก็ใกล้ได้ โชเซ่ มูรินโญ่ ยอดกุนซือโปรตุกีสที่การันตีแชมป์ให้กับทุกทีมที่ไปคุมทัพมาเป็นกุนซือคนต่อไปก็ยิ่งทำให้แฟนผีหลายๆ คนเนื้อเต้นตั้งแต่ฤดูกาลใหม่ยังไม่เปิดขึ้น อย่างไรก็ตามวันนี้ผมจะลองมาคุยบางประเด็นให้ฟังว่าสองปีที่ผ่านมานั้น ฟาน กัล กับงานที่แมนยูเป็นอย่างไรบ้างในมุมมองของผม
ความสำเร็จ? - แน่นอนว่าสิ่งแรกที่แฟนแมนฯ ยูฯ ทุกๆ คนอยากเห็นก็คือโทรฟี่แชมป์รายการเมเจอร์สักรายการ กลับมาอยู่ยังตู้โชว์ที่โอลด์แทรฟฟอร์ด ซึ่งก็เป็นที่แน่นอนว่าในสองปีนี้เราได้มา 1 ถ้วยนั้นก็คือแชมป์ FA คัพนั่นเอง ถ้ามองในมุมผมถามว่าฟาน กัล ทำทีมล้มเหลวมั๊ย ผมก็คงตอบได้ว่าไม่ถึงกับล้มเหลวสะทีเดียว เพราะแม้ว่าเราจะไม่ได้เจอทีมที่แข็งแกร่งมากใน FA คัพ
แต่ก็อย่าลืมว่าบอลแต่ละนัดนั้นทีมเล็กสามารถล้มทีมใหญ่ได้ตลอดเวลา การที่คุณสามารถพาทีมฝ่าฟันทุกๆ ทีมเข้ามาตั้งแต่รอบสามจนเป็นแชมป์ได้ ก็การันตีได้ระดับหนึ่งว่าฝีมือคุณไม่ธรรมดาเลย รวมถึงการจัดตัวผู้เล่นให้เหมาะสมกับการแข่งขันในแต่ละสัปดาห์ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ใครทำได้ก็ควรได้รับเครดิตไปเต็มๆ อันที่จริงแล้วฤดูกาลนี้จะเพอร์เฟกต์มากถ้าเราได้ไปเล่นถ้วย UCL แต่ดันมาตกม้าตายแพ้กับ West Ham สะงั้น เลยกลายเป็นสิ่งที่ทำให้แฟนผีหลายๆ คนผิดหวังในตัวฟาน กัลตรงจุดนี้ แต่ถ้าว่ากันตามจริงผมก็ยังรับได้เพราะดูอย่างทีมแชมป์ปีที่แล้วอย่างเชลซีก็ยังหล่นไปอยู่ตั้งเกือบอันดับ 10 ก็แสดงให้เห็นว่ามันมีหลายๆ ปัจจัยที่ทำให้ทีมนั้นเป็นแชมป์หรือมีลุ้นแชมป์ได้
ใช้เงินไม่คุ้ม? - ประเด็นเรื่องการใช้จ่ายเงินไปกับการซื้อนักเตะเกือบ 300 ล้านปอนด์ของฟาน กัลแต่ผลงานกลับไม่เข้าเป้า ตรงจุดนี้ผมเองเข้าใจว่าการซื้อนักเตะหลายๆ คนส่วนนึงต้องการทำการตลาดด้วยทั้งราดาเมล ฟัลเกา, อังเคล ดิ มาเรีย ซึ่งล้วนแต่ตอบแทนสโมสรด้วยยอดการจำหน่ายเสื้อในจำนวนที่งดงาม ซึ่งตรงข้ามกับผลงานในสนามไม่ได้ส่งอิทธิพลกับทีมมากนัก คนที่ดูแล้วคุ้มค่าแก่การซื้อมาสำหรับผมตอนนี้ก็มีแค่อองโตนี่ มาซิยาล กับ ลุค ชอว์แค่นั้น
สำหรับผลงานในสนามแล้วดูท่าว่าการใช้ผู้เล่นเดิมเป็นแกนหลัก บวกกับนักเตะเยาวชนสายเลือดใหม่ทั้ง ดาบิด เด เกอา, คริส สมอลลิ่ง, เจสซี่ ลินการ์ด, มาคัส แรสฟอร์ด และอีกหลายๆคน มีส่วนกับเกมส์ในสนามมากกว่าพวกที่ทุ่มเงินซื้อมาทั้งสิ้น ซึ่งเท่าที่กล่าวมาทั้งหมดนั้น ต้องตอบว่าฟาน กัล อาจจะยังใช้เงินมากไปกับการซื้อนักเตะมากมายแต่ได้มาแค่แชมป์ FA cup ถ้วยเดียวก็อาจดูไม่ค่อยคุ้มจริงๆ เราก็ได้แต่หวังว่าคนที่ซื้อมาทั้ง อันเดร เอเรร่า, มอร์แกน ชไนเดอลิน, มัตเตโอ ดาเมี่ยน และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมมฟิส เดอปาย จะสามารถเค้นฟอร์มออกมาให้มากกว่านี้เพื่อยกระดับทีมของเราได้
สไตล์ทำทีม? - ข้อนี้ต้องยอมรับว่าฟาน กัล เป็นคนที่น่าหมั่นไส้ที่สุดคนนึงในโลก คือไม่ว่าทีมจะนำ จะตาม ใกล้หมดเวลายังไง แกก็ยังนั่งจดอยู่ข้างสนามตลอดเวลา อันนี้ผมก็รำคาญและโมโหไม่ต่างจากแฟนผีหลายๆ ท่านหรอกครับ คือมาคิดตามความเป็นจริงว่าเราเป็นนักเตะ บางทีตอนเราท้อๆ เล่นไม่ออก การได้เห็นผู้จัดการทีมออกมาสั่งอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย หรือคอยตะโกนกระตุ้นนักเตะจนเสียงนกหวีดจะหมดเวลาก็เป็นสิ่งที่สร้างกำลังใจให้นักเตะเป็นอย่างดี
กระนั้นแล้วก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในโลกนี้คงมีแกคนเดียวที่ทำแบบนี้ และการออกมาข้างสนามของแกแต่ละทีจะต้องมีอะไรให้เราได้อมยิ้มกันเลยทีเดียวเหมือนเกมส์กับอาเซน่อล ซึ่งผมคิดแล้วว่าอย่างน้อยที่สุดเราก็คงคิดถึงแกที่จะไม่ได้เห็นภาพแบบนี้อีกในฤดูกาลหน้า ส่วนการเล่นของทีมที่มัวแต่เคาะบอลไปมาไม่กล้าเล่น direct ball เพื่อทำประตู อันนี้ก็คงแล้วแต่ความคิดแกจริงๆ สำหรับผมมันก็น่าเบื่อแต่ถ้าทีมสามารถชนะได้ก็คงไม่เป็นไร เพียงแต่ผลที่ออกมามันไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ แถมพอนักเตะหมดมุขก็เอาแต่โยนไปข้างหน้า ซึ่งก็เป็นอย่างที่รู้ๆกันว่าเราไม่ค่อยจะได้ประตูจากลูกโหม่งเท่าไหร่ ฟาน กัลเองก็ต้องยอมรับไปว่าเค้าทำได้ไม่ดีพอจริงๆ ในการปรับสไตล์การเล่นของทีมให้เข้ากับบอลพรีเมียร์ลีค
สามประเด็นที่พิมพ์ไปเป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวของผมเองครับ ผมเองก็คงจะคิดถึงหลุยส์ ฟาน กัล อยู่เหมือนกัน เพราะใจจริงผมก็อยากให้แกทำทีมจนหมดสัญญา 3 ปีนั่นแหละครับ แต่ในเมื่อสโมสรตัดสินใจแล้วว่าการแยกทางกันดีที่สุดผมก็คงจะไม่คัดค้านอะไร อย่างน้อยฟาน กัลเองก็ออกจากสโมรไปอย่างผู้ชนะด้วยแชมป์ FA Cup นั่นเอง สุดท้ายสิ่งที่ผมอยากจะฝากบอกแฟนผีทุกๆคนก็คือหากเราคาดหวังที่จะได้ยอดกุนซือที่สามารถทำทีมให้ใกล้เคียงกับเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันทำนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้ แม้แต่มูรินโญ่เองก็อาจจะสามารถทำทีมให้ประสบความสำเร็จได้แต่จะให้ใกล้เคียงกับท่านเซอร์นั้นคงจะยาก
และการที่จะมาฤดูกาลแรกแล้วได้แชมป์เลยนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่ใครๆก็ทำได้ ถ้าผมจำไม่ผิดคนที่ทำได้ก็มีแค่มูริญโย่ตอนคุมเชลซีครั้งแรก, รานิเอรี่ และเปเญกรินี่ ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับหลายๆปัจจัยทั้งนักเตะเรารวมถึงทีมคู่แข่งด้วย เลยอยากจะบอกว่าแฟนผีทุกๆคนอดทนให้ได้ ทีมฟุตบอลที่ดีไม่ใช่ได้แชมป์แปปๆแล้วก็ตกบัลลังค์ไป แต่คือการอยู่อย่างมั่นคงด้วยนักเตะที่มาจากศูนย์เยาวชนของเราเองรวมถึงนักเตะวัยรุ่นกลุ่มใหม่ๆที่จะสามารถคงความสำเร็จของสโมสรไว้ได้นานหลายๆ ปีต่อไป ก็อยู่ที่ว่าแฟนผีจะทนได้ไหมแค่นั้นเองหละครับ ยังไงก็ต้องเชียร์ต่อไปเพราะหัวใจพวกเราเป็นปีศาจแดงกันทุกคนครับ