ทิม เคฮิลล์ มิดฟิลด์ตัวเก่งของทีม "ท๊อฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน ทีมฟอร์มแรงในศึกพรีเมียร์ชิพอังกฤษ ประกาศกร้าวว่า จะพาต้นสังกัดเปิดบ้าน กูดิสัน พาร์ค ฮึดคว่ำ 1 ในยอดทีมที่ดีที่สุดในโลก อย่าง "ไอ้ปืนใหญ่" อาร์เซน่อล ทีมรองจ่าฝูงของตาราง ในวันเสาร์ที่ 29 ธ.ค. นี้ ให้จงได้

             ยอดทีมแห่งเมอร์ซี่ย์ไซด์ ซึ่งทำผลงานบินชิ้วทั้งในศึกพรีเมียร์ชิพ, ยูฟ่า คัพ และ คาร์ลิ่ง คัพ เพิ่งจะเสียสถิติไม่แพ้ใครมา 13 นัดติด ในเกมที่ออกไปแพ้ให้กับ "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไป 2-1 เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนที่จะเปิดบ้านอัด โบลตัน ลงได้ 3-0 ในเกมบ็อกซิ่ง เดย์ เมื่อวันพุธที่ผ่านมา และในเกมสุดสัปดาห์นี้ อดีตดาวเตะ มิลล์วอลล์ ก็มั่นใจว่า เอฟเวอร์ตัน มีดีพอที่จะล้ม "เดอะ กันเนอร์ส" ได้

             "นี่เป็นเกมที่เหล่านักเตะตั้งตารอ พวกเราเล่นท่ามกลางเสียงอื้ออึงมาแล้วในเกมกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่อหน้าผู้คนมากมาย และเราก็กำลังได้เล่นท่ามกลางเสียงแบบนั้นอีกครั้ง กับทีมที่ยอดเยี่ยมที่สุดทีมหนึ่งของโลกในวันเสาร์นี้ เราจะลงสนามไปพร้อมกับไหวพริบ เพื่อต่อกรกับเหล่าผู้เล่นที่ดีที่สุดในโลก และคอยดูว่าเราจะสู้ได้ดีแค่ไหน"

             "เรามีโอกาสดีแล้วที่จะทำบางสิ่งบางอย่างที่ยิ่งใหญ่ ในเกมกับ อาร์เซน่อล ได้ มันขึ้นอยู่ที่ว่า เราจะปรับมันมาใช้ได้อย่างไร มีความเป็นไปได้สูงที่เราจะไม่เห็นบอลมากนักเหมือนในเกมที่พบกับ เชลซี แต่ถ้าเรามีโอกาสแล้วล่ะก็ เราจะทำให้พวกเขารู้ว่า การมาเล่นที่นี่จะต้องเจองานหนักหนาสาหัสแน่" ดาวเตะวัย 28 ปี ที่ซัดไปแล้ว 8 ประตู จากการลงสนาม 14 นัด ให้กับ เอฟเวอร์ตัน กล่าว ขู่

             ลูกทีมของ เดวิด มอยส์ กำลังรั้งอยู่อันดับ 6 ของตาราง โดยมีแต้มตามหลังกลุ่มท็อปโฟร์อยู่เพียงแค่ 3 แต้ม แต่ สตาร์ทีมชาติออสเตรเลีย ซึ่งเพิ่งกลับมาลงสนามอีกครั้ง หลังหายเจ็บกระดูกฝ่าเท้าซึ่งได้รับมาตั้งแต่ เมื่อเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา ก็เชื่อว่า โปรแกรมอันหฤโหดในช่วงคริสต์มาส จะช่วยให้พวกเขาขยับอันดับขึ้นไปสูงได้อีกจนมีลุ้นคว้าโควตาไปเตะยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือก ได้เหมือนเมื่อปี 2005

             "นี่คือช่วงเวลาสำคัญของปีที่สามารถจะชี้ได้ว่า คุณจะประสบความสำเร็จ หรือล้มเหลวในฤดูกาลแข่งขันของตัวเอง และคุณก็จะเห็นว่าผลที่ออกมามันจะเป็นยังไง เราจำเป็นต้องพยายามเก็บแต้มให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และพาทีมขยับอันดับขึ้นไป ถ้าหากเราพยายามทำอย่างที่เราเคยทำ และโฟกัสไปที่เป้าหมายหลักแล้วล่ะก็ เราเดินไม่ผิดทางแน่" เคฮิลล์ กล่าวทิ้งท้าย