แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กลับขึ้นรั้งตำแหน่งยอดทีมมหาเศรษฐีของเมืองผู้ดีอีกครั้ง ภายหลังบอร์ดบริหาร "ปีศาจแดง" ระบุว่าสโมสรมีรายได้จากผลประกอบการรวมเมื่อฤดูกาล 2006-07 มูลค่ากว่า 245 ล้านปอนด์ (ประมาณ 17,150 ล้านบาท) ซึ่งสูงขึ้นกว่าปีก่อนหน้านั้นถึง 27 เปอร์เซนต์ ส่งผลให้ยอดทีมจากค่าย โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แซง อาร์เซน่อล เจ้าของตำแแหน่งเมื่อปีกลายที่มีรายได้ 200.8 ล้านปอนด์ (ประมาณ 14,056 ล้านบาท) ขึ้นเป็นอันดับ 1 ของเกาะอังกฤษตามการคาดการณ์ของหลายฝ่าย แต่ยังเป็นรอง รีล มาดริด ทีมรวมดาราโลกแห่งศึกลา ลีกา สเปน ที่มีรายได้ 263 ล้านปอนด์ (ประมาณ 18,410 ล้านบาท) ในช่วงเวลาเดียวกัน
รายงานระบุว่ากว่า 93 เปอร์เซนต์ของผลกำไรในปีล่าสุดจากมูลค่ารวมสุทธิ 59.6 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,172 ล้านบาท) นั้นได้มาจากการที่ แมนฯยูไนเต็ด สโมสรที่มีแฟนบอลทั่วโลกกว่า 333 ล้านคน ผงาดขึ้นครองแชมป์ลีกสำเร็จ
นอกจากนั้นการทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของศึกเอฟเอ คัพและรอบตัดเชือกของศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ช่วยให้ทีมมีรายได้จากลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดและค่าโฆษณาราว 61.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,305 ล้านบาท) ด้วย
เดวิด กิลล์ ประธานบริหารของ แมนฯยูไนเต็ด เชื่อว่าการที่แฟนบอล "เร้ด อาร์มี่" เดินทางเข้ามาชมเกมที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เต็มความจุของสนามเกือบทุกนัด บวกกับรายได้จากผู้สนับสนุนและสื่อ รวมถึงความสำเร็จของทีมต่างเป็นตัวแปรสำคัญช่วยให้สภาพการเงินของทีมดีขึ้นในครั้งนี้ โดยทางบอร์ดบริหารรู้สึกพอใจกับผลกำไรที่เติบโตขึ้นกว่าเมื่อปีกลายถึง 43.6 เปอร์เซนต์ อย่างไรก็ตาม ตระกูลเกลเซอร์ ตั้งเป้าระยะยาวว่าในอนาคตต้องขยายกำไรให้ถึง 50 เปอร์เซนต์ให้ได้
พร้อมกันนั้นทาง แมนยู ระบุว่าหลังจากที่สโมสรแต่งตั้ง ริชาร์ด อาร์โนลด์ เข้าดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการด้านการเงินได้ไม่นานก็สามารถบรรลุข้อตกลงกับผู้สนับสนุนรายใหม่ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสิ่งก่อสร้างเป็นที่เรียบร้อย แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของการเซ็นสัญญาครั้งนี้แต่อย่างใด
A PHP Error was encountered
Severity: Notice
Message: Undefined variable: tag_links
Filename: site/news-detail.php
Line Number: 47