1. ขึ้นนำก่อน : 3 เกมหลังสุดในพรีเมียร์ลีกที่พบกับ ลิเวอร์พูล,สโต๊ค,ฮัลล์ ปัญหาเดียวคือได้โอกาสเเละยิงไม่เข้าจนทำให้บั้นปลายลงท้ายด้วยความเสมอแบบโคตรเซ็ง เห็นได้ชัดว่าความแตกต่างขอแค่ประตูแรกเท่านั้นที่
เหลือก็ไหลมาเป็นน้ำ
2. ประตู 2 มาไว : อย่างที่บอกไปเมื่อประตูแรกมากโมเมนตั้มก็เหวี่ยงมาทางเราเป็นที่เรียบร้อย การได้ประตูที่ 2 ในระยะห่างกันแค่ไม่ถึง 2 นาทีนอกจากจะทำให้ทีมเล่นด้วยความกดดันน้อยลงเเล้ว เหล่าแนวรุกก็เล่น
อย่างมั่นใจมากขึ้นและจะเห็นได้ชัดว่าหลายๆครั้งที่การจ่ายบอลในจังหวะเข้าทำไหลลื่นจนมีโอกาสบวกประตูเพิ่มเรื่อยๆ
3. กองหลังอย่างแน่น : เอริค ไบญี่ จับคู่กับ สมอลลิ่่ง ได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะในรายของไบญี่ที่รับหน้าที่จับตาย เจมี่ วาร์ดี้ ทำหน้าที่ของเขาได้อย่างยอดเยี่ยมไม่ว่าจะเป็นการอ่านจังหวะเข้าสกัด และการออกบอลที่ส่วนใหญ่
จะทำให้บอลไปข้างหน้ามากกว่าคืนหลัง ขณะที่ สมอลลิ่ง ทำหน้่าที่ตามซ้อนได้หลายครั้งนอกจากนี้การเทคตัวการเก็บลูกโด่งได้ทั้งหมดยังทำให้ทีมเก็บคลีนชีทได้
4.ป็อกบาง่ายๆก็เป็น : จริงอยู่ที่นักเตะค่าตัวระดับอันดับ 1 ของโลกอาจจะต้องทำสิ่งมหัศจรรย์ให้เห็นบ่อยๆ และภึงเเม้ว่าเกมนี้ ป็อกบา จะไม่ได้โชว์สกิลจนเรียกเสียงฮือฮาอะไรได้ แต่การเล่นของเขาวันนี้มันมีประโยชน์ต่อ ทีมต่างจากสิ่งที่เขาเคยทำให้เกมก่อนๆ การออกบอลง่ายๆแบบไหลไปตามจังหวะเกม จังหวะเร่งออกบอลจังหวะเดียว จังหวะผ่อนก็ดึงบอลไว้กับตัวได้อย่างเหนียวแน่น นี่คือจุดเริ่มต้นที่ดีหวังว่าเขาจะรักษาความง่ายๆแต่มี คุณภาพแบบนี้เอาไว เมื่อความมั่นใจเพิ่มขึ้นเราอาจจะได้เห็นความโดดเด่นของป็อกบามากกว่าเกมนี้ก็เป็นได้
5. จิ้งจอกกลายเป็นหมู : เลสเตอร์ กลายเป็นคนละทีมจากในฤดูกาลที่เเล้วอย่างสิ้นเชิง จังหวะบอลไดเร็กสวนกลับ 3 จังหวะได้ยิงแทบไม่มีให้เห็นเลย นอกจากนี้ลูกเซ็ตพีชที่เป็นจุดเด่นก็ไร้ความแม่นยำ ที่สำคัญคือ 4 แผง หลังที่เคยท็อปฟอร์มกลายเป็นช้าทุกจังหวะจนเป็นเหตุให้ปีศาจเเดงฉีกจนขาดวิ่นเข้าไปลุ้นยิงประตูได้หลายต่อหลายรอบ