พรีวิวจัดหนักจัดเต็มเกมพรีเมียร์ลีก : มิดเดิลสโบรห์ vs แมนยู พร้อมโผ 11 ตัวจริง

สนาม : ริเวอร์ไซด์ สเตเดี้ยม

เวลา : 19.00 น.

ถ่ายทอดสด : beIN Sport 1(676)/PPTV

ผลการพบกันของทั้งสองทีม

31/12/16 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ มิดเดิ้ลสโบรช์ 2-1
29/10/15 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เสมอ มิดเดิ้ลสโบรช์ 0-0 (ลีก คัพ)
02/05/09 มิดเดิ้ลสโบรช์ แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-2
30/12/08 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ มิดเดิ้ลสโบรช์ 1-0
24/09/08 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ มิดเดิ้ลสโบรช์ 3-1 (ลีก คัพ)

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

มิดเดิ้ลสโบรช์
11/03/17 แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-2 (เหย้า) เอฟเอ คัพ
04/03/17 แพ้ สโต๊ค ซิตี้ 0-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
25/02/17 แพ้ คริสตัล พาเลซ 0-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
18/02/17 ชนะ อ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด 3-2 (เหย้า) เอฟเอ คัพ
11/02/17 เสมอ เอฟเวอร์ตัน 0-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
ฟอร์มเกมเหย้าในลีก แข่ง 13 ชนะ 3 เสมอ 4 แพ้ 6 ได้ 11 เสีย 14

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
17/03/17 ชนะ รอสตอฟ 1-0 (เหย้า) ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก
14/03/17 แพ้ เชลซี 0-1 (เยือน) เอฟเอ คัพ
10/03/17 เสมอ รอสตอฟ 1-1 (เยือน) ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก
04/03/17 เสมอ บอร์นมัธ 1-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
27/02/17 ชนะ เซาท์แฮมป์ตัน 3-2 (สนามกลาง) ลีก คัพ
ฟอร์มเกมเยือนในลีก แข่ง 12 ชนะ 7 เสมอ 3 แพ้ 2 ได้ 19 เสีย 12

สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม

มิดเดิลสโบรห์

เจ้าบ้านคือบอลเปลี่ยนโค้ช ที่จะได้ลงสนามเป็นเกมแรกหลังจากที่ ไอตอร์ การันก้า โค้ชคนเก่าโดนไล่ออกไป เกมนี้จะไม่มี คาลั่ม แชมเบอร์ส, จอร์จ เฟรนด์ และ ดาเนี่ยล อายาล่า สามแนวรับที่เดี้ยงอยู่ทั้งหมด และน่าจะปรับระบบจาก 4-3-3 ในแมตช์ล่าสุดที่พบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มาเป็น 4-4-2 เพื่อเน้นเกมริมเส้นเข้าโจมตีคู่แข่งและส่ง สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง ลงเล่นแทน แกรนท์ ลีดบิตเตอร์ ที่น่าจะหลุดนั่งสำรองไปก่อน เช่นเดียวกับ อัลบาโร่ เนเกรโด้ ที่เตรียมลงล่าตาข่ายแทน รูดี้ เกสเตด ส่วนอีก 9 ตำแหน่งที่เหลือไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ

แมนยู

ส่วนทางฝั่ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของกุนซือ โชเซ่ มูรินโญ่ จะหมดสิทธิ์ใช้งาน ซลาตัน อิบราฮิโมวิช หัวหอกตัวความหวังกับ อันเดร์ เอร์เรร่า จอมทัพชาวสเปน ที่ติดโทษแบนด้วยกันทั้งคู่ เช่นเดียวกับ ปอล ป็อกบา และ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ที่เจ็บอยู่ คาดว่า มูรินโญ่ จะสลับมาใช้แผนเดิม 4-2-3-1 และเปลี่ยนแปลงนักเตะจากเกมล่าสุดที่ชนะ รอสตอฟ 1-0 พอสมควร ด้วยการส่ง มาร์คัส แรชฟอร์ด เป็นหัวหอกตัวเป้าและวาง เวย์น รูนี่ย์ ลงปั้นเกมอยู่ด้านหลังร่วมกับ อ็องโตนี่ มาร์กซิอัล และ ฆวน มาต้า ขณะที่ทางด้านของ ฟิล โจนส์ จะกลับมาเป็นเซ็นเตอร์แบ็คตัวจริงแทน มาร์กอส โรโฮ ที่น่าจะได้พักนั่งสำรอง นอกจากนี้จะใช้ มารูยาน เฟลไลนี่ คุมกลางอุดรูรั่วของ เอร์เรร่า ที่หายไป

กุนซือทั้งสองทีมว่าอย่างไรบ้าง

สตีฟ แอ๊กนิว(รักษาการณ์กุนซือ) : ผมบอกตรงๆเลยว่าวันนี้เป็นอะไรที่ทำอารมณ์ได้ยากมาก การันก้า ทำงานของเขาได้ดีมากๆตลอด3ปีหลังและผมก็สนุกที่ได้ทำงานร่วมกับเขา แต่ตอนนี้เขาไม่อยู่แล้ว ทีมของเราก็ซ้อมได้ดีและต้องมุ่งไปข้างหน้าเท่านั้น

โจเซ่ มูรินโย่ : "นี่ไม่ใช่สถานการณ์ที่ตลกนะผมจะบอกให้ มันเหมือนนักวิ่งมาราธอนที่วิ่งมาเกินกำลังจนจะหมดแรงอยู่เเล้ว นักเตะของผมลงเล่น 11 เกมในหกสัปดาห์เลยนะ"

นักเตะที่น่าจับตามอง

โบโร่ : อดาม่า ตราโอเร่

ปีกดาวรุ่งรายนี้โดดเด่นเรื่องความเร็วและควมแข็งแกร่ง เกมแรกที่เจอกันที่โอดล์ แทรฟฟอร์ด ก็เป็น ตราโอเร่ ที่ป่วนแนวรับของ ยูไนเต็ด จะได้เรื่อง ... หากไม่อยากเหนือยเหมือนหนแรกต้องจับตายเขาให้ได้

แมนยู : อองโตนี่ มาร์กซิยาล

การได้พักมาอย่างเต็มเปี่ยมมากกว่าคนอื่นๆน่าจะทำให้เกมนี้บอลไปขึ้นที่ มาร์กซิยาล หนักกว่าใครเพื่อน นอกจากนี้เขายังต้องแบกภาระการยิงประตูอีกด้วยจากการขาดหายไปของ ซลาตัน อิบราฮิโมวิช

มิดเดิ้ลสโบรช์ (4-4-2) : บิคตอร์ บัลเดส - อันโตนิโอ บาร์รากัน, เบร์นาร์โด้ เอสปิโนซ่า, เบ็น กิ๊บสัน, ฟาบิโอ ดา ซิลวา - อดาม่า ตราโอเร่, มาร์เท่น เด รูน, อดัม เคลย์ตัน, สจ๊วร์ต ดาวนิ่ง - อัลบาโร่ เนเกรโด้, คริสเตียน สตูอานี่

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เกอา - อันโตนิโอ วาเลนเซีย, คริส สมอลลิ่ง, ฟิล โจนส์, มัตเตโอ ดาร์เมี่ยน - ไมเคิ่ล คาร์ริค, มารูยาน เฟลไลนี่ - ฆวน มาต้า, เวย์น รูนี่ย์, อ็องโตนี่ มาร์กซิอัล - มาร์คัส แรชฟอร์ด

คาดการณ์โดยนักวิจารณ์ : มาร์ค ลอว์เรนสัน

ผมคิดว่าตอนนี้ โบโร่ จะดีกว่าตอนที่มี การันก้า คุมทีม พวกเขาได้อิสระมากขึ้นในการเล่นและไม่กลัวที่จะเผชิญหน้ากับใครก็ตาม ผมไม่แปลกใจแน่หากโบโร่สามารถได้อะไรบางอย่างจาก ยูไนเต็ด ในสภาพนี้

ผลที่คาด : เสมอกัน 1-1