เซปป์ แบล็ตเตอร์ ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) ผุดแนวความคิดใหม่ในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับวงการลูกหนังโลกอีกครั้ง เมื่อออกมาเสนอให้ศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่ประเทศแอฟริกาใต้เป็นเจ้าภาพ ฟาดแข้งกันบนพื้นสนามหญ้าเทียม จากรายงานเมื่อวันอังคารที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
      
        บิ๊กบอสของฟีฟ่าให้สัมภาษณ์ผ่านทาง "บีบีซี" สำนักข่าวชื่อดังเมืองผู้ดีว่า “แม้จะยังไม่ใช่การตัดสินใจขั้นสุดท้าย แต่เราก็มีความคิดที่จะให้ฟุตบอลโลก ปี 2010 แข่งขันในสนามหญ้าเทียม ซึ่งผมคิดว่ามันถึงเวลาที่เราจะตระหนักถึงการนำหญ้าเทียมเข้ามาใช้ในสนามฟุตบอล”
       
        แบล็ตเตอร์ ให้เหตุผลสนับสนุนไอเดียใหม่ของตัวเองครั้งนี้ หลังจากเดินทางมาชมการแข่งขันแอฟริกัน เนชันส์ คัพ 2008 แล้วประเมินถึงคุณภาพพื้นหญ้าในสนามที่ประเทศกานา ว่า “พื้นหญ้าเทียมจะช่วยรักษาสภาพสนามให้คงอยู่ในสภาพเดิมตลอดทั้งปี ผมติดตามเกมที่น่าสนใจในกานาหลายนัดซึ่งทำให้ผมทึ่งเป็นอย่างมากว่ามาตรฐานฟุตบอลแอฟริกาถูกจัดให้อยู่ในระดับสูงอย่างสบายๆ”
      
        “แต่สิ่งหนึ่งที่ผมไม่ชอบก็คือพื้นสนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ อักกรา เนื่องจากหญ้าค่อนข้างยาวมาก ดังนั้น การนำหญ้าเทียมเข้ามาใช้จึงน่าจะเป็นทางออกที่ดีสำหรับเจ้าของสนาม ซึ่งหญ้าเทียมสามารถอยู่ได้มากกว่า 1 สัปดาห์ และสามารถใช้ในการแข่งขันกีฬาชนิดอื่นได้อีกด้วย นอกจากนั้น คงไม่ใช่เรื่องดีนัก หากต้องเล่นฟุตบอลในสภาพสนามที่ควบคุมลูกบอลได้ยาก” บิ๊กเซปป์ ร่ายยาว
      
        แม้ว่า สนามหญ้าเทียมไม่เป็นที่ชื่นชอบของบรรดานักเตะ รวมไปถึงโค้ช เนื่องจากอาจก่อให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบกับทีมที่ไม่คุ้นเคยกับสภาพสนามมาก่อน ซึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ เกมยูโร 2008 รอบคัดเลือกที่ อังกฤษ บุกไปพ่าย รัสเซีย 1-2 โดยที่ลุซนิกี้ สเตเดี้ยม สังเวียนแข้งนัดดังกล่าวเป็นพื้นสนามหญ้าเทียม

       อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าสนามประเภทนี้ก็มีข้อดีไม่น้อยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยลดการเผาไหม้บนพื้นสนาม และ การกระดอนเปลี่ยนทิศทางของลูกบอล รวมถึง ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดบาดเจ็บในสนามได้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกัน ยังมีราคาถูก, ง่ายต่อการบำรุงรักษา และ คงสภาพเดิมได้นานนับปีภายใต้สภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงไปอีกด้วย