ป้ายว่าง

ปิดฉากลูกหนังลีกรองในยุโรปฤดูกาล2007/2008

Nookie 2008-04-23 14:32:46

A PHP Error was encountered

Severity: Notice

Message: Undefined variable: tag_links

Filename: site/news-detail.php

Line Number: 47

ปิดฉากลูกหนังลีกรองในยุโรปฤดูกาล2007/2008

         เริ่มทยอยรูดม่านปิดฉากกันไปบ้างแล้ว สำหรับบรรดาลีกรองของลูกหนังบนภาคพื้นทวีปยุโรป รวมไปถึงบางลีกที่ยังไม่ปิดตัวอย่างเป็นทางการแต่ก็ได้แชมป์ไปเป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่ไก่โห่ ก็หลายลีกอยู่เช่นกัน โดยที่เจ้าของแชมป์หน้าเก่าหลายทีมก็ยังคงป้องกันแชมป์ได้อีกสมัย ปล่อยให้ทีมหน้าใหม่ๆ คงต้องร้องเพลงร้องขอสัมผัสถ้วยแชมป์กันต่อไปอีกในฤดูกาลหน้า

          อย่างไรก็ตาม ในส่วนของทีมที่คว้าสิทธิ์ไปเตะบอลยุโรป และทีมตกชั้น ก็มีความน่าสนใจไม่น้อยเช่นกัน เพราะยังต้องทำศึกชิงตั๋วกันอีก งั้นเราลองมาสำรวจผลสรุปของแต่ละลีกรองในยุโรป เพื่อเป็นการอุ่นเครื่อง ก่อนถึงคราวที่บรรดาลีกบิ๊กๆ ซึ่งกำลังขับเคี่ยวกับอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายกันอย่างแบบหมดหยด กันพอเป็นกษัยก่อนดีกว่า ...

PSV Eindhoven's goalkeeper Gomes from Brazil (C) presents ...

ขุนพลทีม พีเอสวี เฉลิมฉลองแชมป์ลีกสูงสุดของฮอลแลนด์เป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกัน

         และต้องขอแสดงความยินดีกับ สโมสร พีเอสวี ไอน์โฮเฟ่น ที่สามารถคว้าแชมป์อีเรดิวิซี่ ของประเทศ ฮอลแลนด์ ได้สำเร็จ เป็นสมัยที่ 4 ติดต่อกัน ภายหลังจากที่พวกเขา บุกไป เฉือนเอาชนะ วิเทสส์ อาร์เน่ม 1-0 พร้อมปิดฉากฤดูกาลด้วยการเก็บได้ถึง 72 คะแนน ทิ้งห่างทีมอันดับ 2 อย่าง อาแจ๊กซ์ อัมเดอร์สดัม ซึ่งอุตส่าห์ เปิดบ้านถล่มเอาชนะ เฮราเคิลส์ ในนัดส่งท้าย ไปถึง 5-1 อยู่ 3 คะแนน และนี่ถือเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน สำหรับอาแจ๊กส์ ที่ต้องสวมบทพระรองเช่นนี้

         ด้วยเครดิตการครองตำแหน่งแชมป์ลีกแดนกังหันลม ทำให้ พีเอสวี จะได้สิทธิ์ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ในฤดูกาลหน้าทันที ขณะที่ อาแจ๊กซ์ พร้อมด้วย เบรด้า, ทเวนเต้ และ ฮีเรนวีน ทีมอันดับ 3, 4 และ 5 ตามลำดับ จะต้องไปเตะเพลย์ออฟเพื่อหาผู้ชนะอีก 1 ทีม ในการได้สิทธิ์ไปแข่งขันถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือก รอบสาม ส่วน ผู้แพ้จะไปเตะยูฟ่า คัพ แทน

         ด้านทีมอันดับ 6, 7, 8 และ 9 ซึ่งได้แก่ เฟเยนูร์ด, โกรนิงเก้น, ไนจ์เมเก้น และ โรด้า เจซี จะต้องไปเตะเพลย์ออฟเพื่อแย่งตั๋ว 3 ใบเพื่อไปเตะยูฟ่า คัพ ขณะที่ อันดับ 10, 11, 12 และ 13 ซึ่งได้แก่ อูเทรคช์, อาแซ่ด อัล์คมาร์, วิเทสส์ อาร์เน่ม และ สปาร์ต้า ร็อตเตอร์ดัมส์ ตามลำดับ จะทำการเตะเพลย์ออฟเพื่อแย่งชิวพื้นที่ได้สิทธิ์ไปเตะ อินเตอร์ โตโต้ คัพ

         มาดูในส่วนของทีมตกชั้นนั้น เอ็กเซลเตอร์ ทีมอันดับ บ๊วยของตาราง จะเก็บกระเป๋าเลื่อนลงไปเตะในดิวิชั่น 2 ก่อนใครเพื่อน ขณะที่ โควตาตกชั้นอีก 2 ทีม ยังต้องทำการแข่งขันกันอีกครั้ง ซึ่งทีมอันดับที่ 16 และ 17 ของตาราง ซึ่งได้แก่ เด กราฟชาป กับ เวนโล่ ตามลำดับ จะต้องไปเตะเพื่อความอยู่รอดในลีกสูงสุดของตัวเอง กับ 8 ทีมจาก ดิวิชั่น 2 (เอดีโอ เดน ฮาก, โก อเฮด อีเกิ้ลส์, วาลวิจก์, เอ็มวีวี, เดน บอช, เอฟซี ซโลเล่, เฮลมอน สปอร์ต และ ทีโอพี ออสส์) ซึ่งรอโอกาสเลื่อนชั้นขึ้นมาอีก 2 พื้นที่ เช่นกัน แต่ทว่า ทีมแชมป์ดิวิชั่น 2 อย่าง เอฟซี โวเลนดัม จะได้สิทธิ์เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นดิวิชั่น 1 โดยอัตโนมัติ (ดูกติกาเลื่อนชั้น-ตกชั้น และ ตารางการเพลย์ออฟของฟุตบอลฮอลแลนด์ฤดูกาล 2007/2008)

         ส่วนดาวซัลโวสูงสุดประจำฤดูกาลนี้ ก็คงหนีไม่พ้นยอดศูนย์หน้าจอมถล่มประตู นามว่า คลาส แยน ฮุนเตล่าร์ กองหน้าทีมชาติฮอลแลนด์ที่จัดการซัดไปถึง 33 ประตู จากการลงสนาม 34 นัด และก็ยังไม่แน่ว่า ดาวยิงเนื้อหอมวัย 24 ปี ซึงตกเป็นข่าวเตรียมย้ายออกจากถิ่น ฟิลิปส์ สเตเดี้ยม ในช่วงซัมเมอร์นี้ มาโดยตลอด จะยังคงได้อยู่ช่วยทีมทำศึกในฤดูกาลหน้าหรือไม่ เพราะทั้ง อาร์เซน่อล, เชลซี, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด, ลิเวอร์พูล, เรอัล มาดริด, เอซี มิลาน และ อินเตอร์ มิลาน ก็ต่างจ้องดาวเตะผู้นี้ไปร่วมทีมกันตาเป็นมันเลยทีเดียว 

บรรดาดาวเตะทีม โอลิมเปียกอส ฉลองชัยการคว้าแชมป์ได้เป็นสมัยที่ 11 ในรอบ 12 ปี

 


         โยกมาที่ ลีกของดินแดนเทพนิยาย กรีซ ก็เป็น โอลิมเปียกอส ที่เข้าป้ายคว้าแชมป์ลีกเป็น สมัยที่ 36 อย่างเป็นทางการ  และยังถือเป็นการครองแชมป์สมัยที่ 11 ในรอบ 12 ปี อีกด้วย ภายหลัง ศาลกีฬาเมืองกรีซ ประกาศยืนยันไม่ยึด 3 คะแนน คืนจากพวกเขา ในกรณีเกี่ยวกับเกมการแข่งขันในนัดที่ โอลิมเปียกอส ได้รับการเปลี่ยนผลการแข่งขันให้เป็นฝ่ายเอาชนะทีม อโปลลอน คาลามาริอัส ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ พวกเขาตกเป็นฝ่ายบุกไปปราชัย 0-1 เมื่อช่วงเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา เนื่องจาก ทางฝั่งของ อโปลลอน คาลามาริอัส ได้ละเมิดกฎของฟีฟ่าห้ามผู้เล่นลงสนามเกิน 2 สโมสร ในฤดูกาลเดียว ด้วยส่ง โรมาน วอลล์เนอร์ ที่ทีมคว้ามาร่วมทัพ เมื่อช่วงเดือน ม.ค. ลงเล่นในเกมดังกล่าว ทั้งๆ ที่ดาวเตะชาวออสเตรีย ผู้นี้ ผ่านการลงเล่นให้กับ ฟัลเคิร์ก และ ฮามิลตัน อคาเดมิคัล มาแล้วในซีซั่นนี้ ตามลำดับ

         เรียกได้ว่า 3 คะแนนอันล้ำค่านี้ กลายเป็นแต้มสำคัญของ โอลิมเปียกอส และทำให้ทีมจบการแข่งขันด้วยการเข้าป้ายเป็นอันดับ 1 ในตารางโดยมีแต้มห่างจาก เออีเค เอเธนส์ ทีมอันดับ 2 อยู่ 2 คะแนน หลังจากที่ โอลิมเปียกอส สำเร็จโทษทีม อิรากลิส ในนัดสุด ท้ายของฤดูกาล ได้อย่างสวยงาม 3-1 และปล่อยให้ ชัยชนะของ เออีเค เอเธนส์ ที่มีเหนือต่อทีม อัสเตราส ตรีโปลี 2-0 ต้องเป็นหมันไร้ความหมายไปโดยปริยาย

         สำหรับ โอลิมเปียกอส จะได้สิทธิ์เข้าไปทำการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ทันที ขณะที่ รองแชมป์ จะต้องไปเตะเพลย์ออฟกับ พานาธิไนกอส, อริส ซาโลนิก้า และ พานิโอนิออส ทีมอันดับ 3, 4 และ 5 ตามลำดับ (ตารางเพลย์ออฟฟุตบอลกรีซ) ซึ่งผู้ชนะจะได้ตั๋วใบสุดท้ายสำหรับไปแข่งรอบคัดเลือก รอบสอง ของถ้วยใบนี้ ส่วนรองแชมป์การเพลย์ออฟ ก็จะได้การการันตีให้ไปเล่นถ้วยยูฟ่า คัพ รอบแรก อย่างแน่นอน

         มาดูทางฝั่งของทีมตกชั้นกันบ้าง ซึ่งความพ่ายแพ้ต่อ พานิโอนิออส 2-1 ของ อั้ตโตมิโตส ทำให้พวกเขาต้องจบฤดูกาลด้วยอันดับ 14 พร้อมกับปล่อยให้ เอร์โกเตลิส ที่เอาชนะ เอฟซี ซานธิ 2-0 แซงขึ้นมารั้งอันดับ 13 ซิวตั๋วใบสุดท้าย รอดพ้นการตกชั้นไปครองแบบน่าเจ็บใจ ส่งผลให้ อั้ตโตมิโตส กลายเป็น 3 ทีมน้องใหม่ในลีก ดิวิชั่น 2 ของ กรีซ ในฤดูกาลหน้า ร่วมกับทีม เวเรีย และ อโปลลอน คาลามาริอัส ทีมอันดับ 15 และ 16 ตามลำดับ ที่ตกชั้นแบบไม่มีลุ้นไปก่อนหน้านี้

         ด้านทีมที่จะได้เลื่อนชั้นขึ้นมาในฤดูกาลหน้าในโควตา 3 ทีมนั้น ก็กำลังขับเคี่ยวกันอย่างสูสี โดยที่แต้มไม่ทิ้งห่างกันมากนัก ซึ่งทีมที่นำเป็นอันดับ 1 ของตารางดิวิชั่น 2 ก็คือ พานเซอร์ไรกอส ส่วนอันดับ 2 และ 3 ได้แก่ พานธรากิกอส และ พาส กิอันเนน่า ตามลำดับ

 โฉมหน้าของ อิสมาเอล บลังโก้ ดาวยิงชาวอาร์เจนไตน์ ของ เออีเค เอเธนส์ เจ้าของตำแหน่งดาวซัลโวลีกของกรีซฤดูกาลนี้

         ส่วนตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดประจำฤดูกาลนี้ ก็คือ อิสมาเอล บลังโก้ ศูนย์ชาวอาร์เจนไตน์วัย 25 ปี ของ เออีเค เอเธนส์ ที่ซัดให้ทีมไปทั้งสิ้น 19 ลูก ขณะที่ ขุนพลทีม เออีเค เอเธนส์ แม้จะพลาดแชมป์ไปอย่างน่าเสียดาย แต่พวกเขาก็ ยังได้รับการบันทึกให้มีสถิติการรุกและเกมรับดีที่สุดในซีซั่นนี้เป็นการปลอบใจ 

Porto's players celebrate their 3-0 win over Setubal in their ...
นักเตะทีมปอร์โต้ ยังคงรักษาแชมป์ซูเปอร์ลีก โปรตุเกส ได้เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน ในฤดูกาลนี้

 

         ส่วนอีกลีกที่แม้จะยังไม่จบ แต่เห็นเค้าของตัวแชมป์ได้อย่างชัดเจน ตั้งแต่เมื่อเดือน มี.ค. สำหรับลีกซูเปอร์ ลีกา ของ โปรตุเกส โดยก็ยังคงเป็น เอฟซี ปอร์โต้ ขาประจำ ที่น่าจะยังครองความเป็นเจ้าลูกหนังแดนฝอยทองเป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน และนี่เป็นการคว้าแชมป์ สมัยที่ 23 ของ ปอร์โต้ อีกด้วย ภายหลังทำแต้มทิ้งห่างทีมอันดับ 2 ชิ้นไม่เห็นฝุ่น ถึง 20 คะแนน โดยที่เหลือเกมการแข่งขันอยู่อีกเพียง 3 เกมนั้นเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้ ปอร์โต้ กลายเป็นแชมป์ลีกโปรตุเกส ไปแบบไม่เป็นทางการเป็นทีเรียบร้อย

        ขณะที่ อันดับ 2, 3 และ 4 ยังเป็นการขับเคี่ยวกันระหว่าง ทีมชื่อไม่คุ้นหูอย่าง วิตอเรีย กิมาไรซ์ และ 2 ทีมแกร่งอย่าง สปอร์ติ้ง ลิสบอน และ เบนฟิก้า ตามลำดับ โดยที่ทีมที่ได้อันดับ 2 นั้นจะเกี่ยวก้อยกับ ปอร์โต้ ผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม โดยอัตโนมัติ ขณะที่ อันดับ 3 จะได้สิทธิ์ลงทำการแข่งขันถ้วยเดียวกันนี้ ในรอบคัดเลือก รอบสาม

        ด้าน ทีมที่ตกชั้นไปก่อนใครเพื่อน ก็คือ อูดี ไลเรีย ทีมอันดับบ๊วยของตาราง ขณะที่อีก 1 ที่นั่งสำหรับการตกชั้น ยังมีอีก หลายทีม ที่กำลังเร่งเครื่องลุ้นหนีโซนอันตรายกันอย่างหน้ามืดหน้าต่ำ ไม่ว่าจะเป็น ไลซอย, ปากอส เดอ เฟร์ไรร่า, นาวาล, อิคาเดมิก้า รวมถึง เอสเตร่า อมาโดร่า ที่ต่างกันทำแต้มไม่ห่างกันมากนัก กับโอกาสอีก 3 เกมที่เหลืออยู่ โดยที่ 3 ทีมจาก ดิวิชั่น 2 อย่าง โตฟเฟนส์, ริโอ อีฟ และ กิล บิเซนเต้ แย่งชิงพื้นที่เลื่อนชั้นขึ้นไปลีกสูงสุดแบบอัตโนมัติกันอย่างสูสี

Standard Liege's Steven Defour and Oguchi Onyewu (L) celebrate ...

แชมป์ลีกสูงสุดครั้งแรกในรอบ 25 ปี ของนักเตะทีม สตองดาร์ด ลีเก้ ของประเทศเบลเยี่ยม


        ขณะที่ จูปิแลร์ลีก ของประเทศเบลเยี่ยม ก็ถือว่าน่าจะได้รับการต้อนรับแชมป์หน้าใหม่ อย่าง สตองดาร์ด ลีเก้ ที่นำทัพโดย มิเชล เปอูดฮอมเม่ กุนซือคนเก่งที่พาทีมก้าวขึ้นมาคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 25 ปี แบบไม่เป็นทางการเช่นกัน  และถือเป็นแชมป์สมัยที่ 9 ของสโมสร

        โดยภายหลังจากที่พวกเขาเปิดบ้านเอาชนะ ทีมอันดับ 2 และแชมป์เก่าอย่าง อันเดอร์เลชท์  มาได้ 2-0 เมื่อสัปดาห์ก่อน ส่งผลให้ พวกเขาทำแต้มทิ้งห่างแบบขาดลอยถึง 10 คะแนน ขณะที่เกมเหลือเพียง 3 นัด พร้อมกับ ซิวตั๋วไปเตะฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือก รอบสาม ได้เป็นผลสำเร็จ และปล่อยให้ อันเดอร์เลชท์ และ คลับ บรูซ ทีมอันดับ 3 ขับเคี่ยวตำแหน่งรองแชมป์กันเองในเกมที่เหลืออยู่ เพื่อคว้าสิทธิ์ตั๋วแชมเปี้ยนส์ อีก 1 ใบ สำหรับลงเล่นในรอบคัดเลือก รอบสอง

        ส่วน เอฟซี บรัสเซลส์ ทีมอันดับสุดท้ายของตาราง กลายเป็นทีมแรกที่จองตั๋วตกชั้นไปเป็นที่เรียบร้อยแบบไม่ต้องรอให้แข่งขันจบเนื่องจากพวกเขามีแต้มห่างจากโซนพ้นตกชั้น ถึง 13 แต้ม ซึ่งจาก 3 เกมที่เหลืออยู่ก็คงไล่ตามไม่ทัน เช่นเดียวกับ ทีม เซนต์ ตรุยเดนเซ่ ที่อันดับ 17 ก็น่าจะเกี่ยวก้อย เอฟซี บรัสเซลส์ ไปด้วยอีกทีม แม้ในทางทฤษฏีพวกเขาจะยังพอมีหวัง แต่ด้วยแต้มที่ยังตามหลังโซนรอดชั้นอยู่ถึง 8 แต้ม คงเป็นเรื่องลำบากเต็มที

        ขณะที่ ตั๋วตกชั้นใบสุดท้าย ยังมีผู้ท้าชิงอีก 2-3 ซึ่งคะแนนยังเกาะกลุ่มกันอยู่ และคงต้องรอดูกันจนถึงนัดสุดท้ายของฤดูกาลเลยทีเดียว ทางฝั่งของทีมจากดิวิชั่น 2 ก็ยังคงต้องขับเคี่ยวกันอย่างหนักระหว่าง เควี คอร์ตริจก์ กับ เอฟซี ตูเบเซ่ ในการแย่งชิงแชมป์ของลีก เพื่อการเลื่อนชั้นโดยอัตโนมัติ ส่วนทีม อุด-เฮเวร์ลี เลอูเวน, เค.เอฟ.ซี. ลอมเมล และ รอยัล อันเวิร์ป เอฟซี ก็กำลังเบียดแย่งพื้นที่เพลย์ออฟเลื่อนชั้นในฤดูกาลหน้ากันอย่างสนุกไม่แพ้กัน

         สำหรับ คราวหน้า เราจะมาดูสถานการณ์ของลีกดังอื่นๆ ในยุโรป ที่บทสรุปของแชมป์ และทีมที่ตกชั้น ซึ่งต่างก็ยังต้องลุ้นกันจนถึงวินาทีสุดท้าย กันเลยทีเดียว ....

Ads



Related Post