โรล็องต์ บล็องก์ อดีตดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศส และผู้จัดการทีม บอร์กโดซ์ ทีมดังในศึกลีกเอิง ฝรั่งเศส ออกมาแย้มไต๋ว่า ตนเองมีความปรารถนาที่จะรับงานตำแหน่งกุนซือ "เจ้าบุญทุ่ม" บาร์เซโลน่า ยักษ์ใหญ่แห่งศึกลา ลีกา สเปน แต่ก็ยอมรับว่า ยังคงขาดซึ่งประสบการณ์ที่จำเป็นสำหรับการเป็นโค้ชให้กับทีมในระดับยักษ์ใหญ่เช่นนั้น
บล็องก์ ซึ่งเพิ่งจะชิมลางทำหน้าที่โค้ชเป็นครั้งแรกในชีวิต ให้กับ สโมสร บอร์กโดซ์ ตกเป็นข่าวว่า เป็นหนึ่งในกุนซือตัวเต็งที่จะเข้ารับเก้าอี้นายใหญ่ถิ่น คัมป์ นู แทน แฟร้งค์ ไรจ์การ์ด เทรนเนอร์ชาวดัตช์ คนปัจจุบัน โดย อดีตปราการหลังของ บาร์เซโลน่า และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ออกมาเผยว่า เขาเองก็มีความตั้งใจที่อยากจะรับงานโค้ชให้กับบรรดาทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปไม่น้อยเช่นกัน ซึ่งรวมถึงทีมดังแห่งแคว้นกาตาลันด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ ถ้า บล็องก์ มีโอกาสได้ทำหน้าที่ดังกล่าวจริง เขาก็จะเปิดเกมรุกเต็มสูบ ไล่ตั้งแต่ผู้รักษาประตูไปจนถึงกองหน้า และพยายามสร้างสรรค์โอกาสในการทำประตูคู่ต่อสู้ให้ได้มากๆ เพื่อเป็นการเอาใจแฟนบอล "อาซูลกราน่า" โดยเฉพาะ โดยเขาได้ให้เหตุผลสั้นๆ ผ่าน สถานีวิทยุ "ออน เอฟเอ็ม" ว่า "ถ้าพวกเขายิงประตูพวกเราได้ สิ่งสำคัญก็คือ การยิงประตูให้มากกว่าพวกเขา"
อย่างไรก็ตาม กุนซือวัย 42 ปี ซึ่งกำลังพา บอร์กโดซ์ ทำผลงานรั้งอันดับรองจ่าฝูงในศึกลีก เอิง ฤดูกาลหน้านี้ ก็ยอมรับว่า ตนเองยังคงต้องสั่งสมประสบการณ์การคุมทีมให้มากกว่านี้ โดยระบุว่า "สำหรับงานโค้ชในทีมใหญ่ๆ ผมอาจจำเป็นต้องเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้มากอีกซักหน่อย เพราะ ผมเพิ่งทำหน้าที่โค้ช เพียง ปีเดียวเท่านั้น หากผมถูกมอบหมายให้มารับผิดชอบ ผมจะเผชิญหน้ากับมันตามแบบฉบับของคนที่มีความเป็นมืออาชีพสูง"
เมื่อถามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในเกมระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ บาร์เซโลน่า ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบรองชนะเลิศ นัดที่ 2 ในวันอังคารนี้ บล็องก์ ก็แสดงความเห็นว่า นี่จะเป็นเกมที่หนักหนาสาหัสของทั้งสองฝ่าย แต่สุดท้ายแล้ว ก็น่าจะเป็น บาร์เซโลน่า ที่มีโอกาสคว้าชัยไปครองได้สำเร็จ พร้อมกล่าวว่า "การคว้าชัยชนะที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ไม่ใช่เรื่องกล้วยๆ แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น มันก็อาจขึ้นอยู่กับว่าใครจะเป็นฝ่ายครองเกมได้มากกว่ากัน เพราะ ทั้งสองทีม ต่างก็ชอบที่จะมีบอลอยู่กับตัวอยู่แล้ว"
A PHP Error was encountered
Severity: Notice
Message: Undefined variable: tag_links
Filename: site/news-detail.php
Line Number: 47