ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ กองหลังทีมชาติโปรตุเกสของสโมสร เชลซี เชื่อว่า ความกดดันทั้งหลายจะตกไปอยู่กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กองกลางทีมชาติโปรตุเกสของทีม "ปีศาจแดง" ก่อนที่เกมพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ นัดสุดท้าย จะปิดฉากลงในวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ค.นี้
ขุนพล "เร้ดเดวิลส์" จะทำศึกนัดชี้ชะตาแชมป์ ด้วยการบุกไปเยือน สนาม เจเจบี สเตเดี้ยม ของ วีแกน โดยถ้าพวกเขาเก็บชัยชนะได้สำเร็จ ก็จะทำให้ ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ พรีเมียร์ชิพ มาครองได้เป็นสมัยที่ 10 ทันที แบบไม่ต้องรอผลการแข่งขันในเกมที่ เชลซี จะได้เล่นในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ รับการมาเยือนของ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ซึ่งมีคิวลงเตะในวันและเวลาเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ดาวเตะเลือดโปรตุกีส ก็ออกมาไซโคพลพรรค "ปีศาจแดง" ว่ากำลังเผชิญหน้ากับความกดดันที่มากกว่าพวกเขา โดยกล่าวว่า "ในวันอาทิตย์นี้ พวกเขาจะมีความกดดันกันมากกกว่าพวกเรา เพราะ เกือบทุกคนเชื่อว่าแชมป์เป็นของ ยูไนเต็ด ไปเรียบร้อยแล้ว ขณะที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ คือ ซูเปอร์สตาร์ของทีม แต่ทว่า เขาก็เป็นมนุษย์ปุถุชุนเหมือนกัน และ บางที เขาก็อาจทำผลงานไม่เป็นไปดังที่คาดหวังก็ได้"
"ปฏิหารย์เกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้ง ผมหวังแค่ว่า ให้ วีแกน หยิบ 3 คะแนน ให้ได้ และที่เหลือ ก็ปล่อยให้ พวกเราจัดการเอาชนะ โบลตันเอง ซึ่งผมว่ามันไม่ใช่เรื่องที่หนักหนาเกินความสามารถของเชลซีแน่ ดังนั้น กุญแจ สำคัญ สู่การเป็นแชมป์ ก็คือ อยู่ที่ วีแกน" คาร์วัลโญ่ ระบุกับ "เดลี่ มิร์เรอร์" สื่อแท็บลอยด์ชื่อดังเมืองผู้ดี
นอกจากนี้ อดีตแข้งปอร์โต้ ก็ยังไม่รู้สึกเป็นกังวัลเกี่ยวกับกรณีที่ "เดอะลาติกส์" ซึ่งมีนายใหญ่เป็นถึงอดีตนักเตะระดับตำนานของ ยูไนเต็ด อาจเล่นไม่เต็มที่ร้อยเปอร์เซ็นต์ในเกมที่สนาม เจเจบี สเตเดี้ยม โดยให้เหตุผลว่า "ผมมั่นใจว่า เราจะได้เห็นเกมที่เป็นธรรมชาติ ที่ วีแกน และ นั่นจะทำให้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจต้องเจอปัญหา ถึงกระนั้น ผมก็อยากให้ ยูไนเต็ด เจอคู่ต่อสู้ที่หนักกว่านี้ แต่คุณคงเดาไม่ออกหรอกว่าสถานการณ์ในนัดสุดท้ายมันจะเป็นแบบนี้อย่างไรก็ดี สตีฟ บรูซ คือ ตำนานที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด แต่ เขาเป็นโค้ชมืออาชีพ และ ผมเชื่อว่า เขาไม่อยากแพ้ในบ้านซึ่งเป็นเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาลแน่"
ปราการหลัง "สิงห์บลูส์" ยังเผยว่า ภายในห้องแต่งตัวของ เชลซี เต็มไปด้วยความเชื่อมั่นว่าพวกเขาจะเอาชนะ "ปีศาจแดง" พร้อมคว้าแชมป์ได้ ทั้งในเกมลีกและยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ ซึ่งจะดวลแข้งกันที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ในวันพุธที่ 21 พ.ค.นี้ โดยกล่าว่า "มันเป็นการแข่งขันที่ตื่นเต้นมากๆ และสำหรับเราแล้วการที่ทั้ง 2 ทีมลงเล่นนัดสุดท้ายโดยมีคะแนนเท่ากันมันเหลือเชื่อสุดๆ หลายคนกาชื่อเราออกจากการลุ้นแชมป์หลังผ่าน 2 เดือนแรก แต่ตอนนี้เรามีโอกาสดีในการคว้าดับเบิ้ลแชมป์ และนักเตะทุกคนในทีมเชื่อว่าเราจะทำได้"
A PHP Error was encountered
Severity: Notice
Message: Undefined variable: tag_links
Filename: site/news-detail.php
Line Number: 47