ป้ายว่าง

"สเปเชียลวัน"เชื่อเกม"ผี"ฟัด"สิงห์"กินกันไม่ลง

nookie 2008-05-21 18:38:52

A PHP Error was encountered

Severity: Notice

Message: Undefined variable: tag_links

Filename: site/news-detail.php

Line Number: 47

สเปเชียลวันเชื่อเกมผีฟัดสิงห์กินกันไม่ลง

        โชเซ่ มูรินโญ่ อดีตผู้จัดการทีมมาดกวนโอ๊ยของสโมสร "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี เชื่อว่า เกมระหว่างทีม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับ ทีมอดีตต้นสังกัด ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก นัดชิงชนะเลิศ ในวันพุธที่ 21 พ.ค.นี้ จะเป็นอีกเกมที่สูสี เหมือนอย่างเช่นหลายๆ ครั้ง ที่ทั้งคู่ เคยปะทะฝีแข้ง กันมาแล้วก่อนหน้านี้

        เมื่อเดือนที่แล้ว ขุนพล "เร้ดเดวิลส์" ต้องเป็นฝ่ายปราชัยให้กับทีม "สิงห์บูลส์" 1-2 ที่ สแตมฟอร์ด บริดจ์ ในเกมพรีเมียร์ชิพช่วงปลายฤดูกาล อย่างไรก็ดี กุนซือว่างงานชาวโปรตุกีส ซึ่งเคยนำทีม "สิงห์บูลส์" คว้าชัยเหนือทีม "ปีศาจแดง" ในช่วงต่อเวลาพิเศษ ของศึกเอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ เมื่อปีที่แล้ว ก็ยังเชื่อว่า เกมที่ กรุงมอสโก ในคืนวันพุธนี้ จะเป็นเกมที่ยากอีกเกมที่ของทั้งสองทีม

        "เรียกได้ว่านี่เป็นเกมที่สูสี และผมคิดว่า โอกาสยัง 50/50 ไม่มีความลับอะไร ระหว่าง 2 ทีมนี้ และพวกเขาก็ได้แสดงให้เห็นซ้ำแล้วซ้ำเหล่า พวกแสดงให้เห็นในเกมพรีเมียร์ชิพปีนี้ ด้วยการจบในอันดับ 1 และ 2 ของตาราง รวมถึงได้แสดงให้เห็นในช่วงหลายปีที่ผ่านมาว่ามีเพียง แมนฯ ยูไนเต็ด และ เชลซี เท่านั้นที่คว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้ และเมื่อพวกเขามาเผชิญหน้ากันทีไร ยกตัวอย่าง ในเกม เอฟเอ คัพ นัดชิงชนะเลิศ ปีที่แล้ว การต่อเวลาพิเศษ ก็มักจะนำมาเป็นตัวตัดสินหาผู้ชนะของเกม" จ่ามู กล่าว

        สำหรับ ยูไนเต็ด มีโอกาสดีที่จะไล่ล่าคว้าแชมป์จ้าวยุโรป สมัยที่ 3 ให้กับสโมสร แต่ เจ้าของฉายา "สเปเชียลวัน" ก็หาได้รู้สึกว่า ลูกทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะเดินทางมา มอสโก พร้อมกับการถือไพ่เหนือกว่า เชลซี แต่อย่างใด โดยให้เหตุผลว่า "นัดชิงชนะเลิศ ก็ยังคงเป็นนัดชิงชนะเลิศวันยันค่ำ และในหลายๆ เกมนัดชิงฯ เราไม่สมารถคาดเดาได้ว่าทีมใดมีโอกาสที่จะเป็นแชมป์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระหว่าง 2 ทีมแกร่ง ที่มาจากลีกประเทศเดียวกันแบบนี้"

        ทั้งนี้ มูรินโญ่ ต้องกระเด็นตกจากเก้าอี้นายใหญ่ ถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อช่วงต้นฤดูกาล โดยมี แกรนท์ เข้ามารับช่วงต่อแทน ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของแฟนและบุคคลในวงการฟุตบอล อย่างไรก็ตาม  กุนซือชาวยิว ก็พิสูจน์ฝีมือ พาทีม "สิงห์บูลส์" ผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร ซึ่งเป็นผลงานที่ มูรินโญ่ ไม่สามารถทำได้ในสมัยการคุมบังเหียนของตนเอง เนื่องจาก เขาพายอดทีมแห่งกรุงลอนทำผลงานได้ดีแค่ไปถึงในเกมรอบรองชนะเลิศ เท่านั้น

Ads



Related Post