ต้องยอมรับ เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเกมลูกหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรป ตลอดเกือบหนึ่งเดือนที่ผ่านมา มีหลากหลายเรื่องราวที่น่าประทับใจ, ตื่นเต้น และ กระชากอารมณ์ของแฟนบอลได้ไม่แพ้ครั้งไหนๆ ด้วยเหตุนี้ ทางทีมงาน "ล้มโต๊ะ" จึงอยากจะประมวลภาพเหตุการณ์ที่เป็นที่สุดของทัวร์นาเม้นต์ในครั้งนี้ให้แฟนบอลได้ประทับใจกันเป็นครั้งสุดท้ายอีกซักครั้ง
ประตูยอดเยี่ยม
นิฮัต คาห์เวชี่ (ตุรกี) & บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ (เยอรมัน)
มีประตูสวยๆ เกิดขึ้นมากมายในรายการนี้ แม้ว่า จะปราศจาก ลูกยิงจักรยานอากาศ หรือ ลูกยิงจากปลายสตั๊ดของกองหน้าที่โชว์ฟอร์มกับต้นสังกัดได้อย่างร้อนแรง จนถูกคาดหมายว่าจะยิงกระจุยกระจายในศึกยูโร อย่าง ลูก้า โทนี่ ดาวซัลโวบุนเดสลีกา ชาวอิตาเลี่ยน ของ บาเยิร์น มิวนิค หรือ มาริโอ โกเมซ หัวหอกดาวรุ่งแห่งวงการฟุตบอลเยอรมัน ก็ตาม
ลูกยิงผีจับยัดของ นิฮัต คาห์เวชี่ ช่วยให้ตุรกี ชนะ สาธารณรัฐเช็ก ไปอย่างสุดมันส์ 3-2 (คลิกดูคลิป)
ประตูยอดเยี่ยมจากฝีเท้าของ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ เกิดจากการประสานงานที่ยอดเยี่ยมของทีมเยอรมัน (คลิกดูคลิป)
สำหรับ ประตูที่ถูกยกให้เป็นประตูยอดเยี่ยมที่สุดประจำทัวร์นาเม้นต์ มีสองลูกที่สูสีกัน ได้แก่ ประตูชัยของ นิฮัต คาห์เวชี่ ที่ช่วยให้ทีมชาติ ตุรกี เอาชนะ สาธารณรัฐเช็กมาได้ 3-2 ในรอบแรก และ ประตูตีเสมอ ของ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ ที่ช่วยให้จบเกม เยอรมัน พลิกแซงชนะ ตุรกี 3-2 ในรอบรองชนะเลิศที่ผ่านมา ซึ่งทั้งสองประตูนั้น มีความสำคัญทั้งในแง่ของแท็คนิคที่ชาญฉลาด และทำได้ในช่วงเวลาที่สำคัญกับทีม
สำหรับลูกแรก ที่ได้มาจากปลายสตั๊ตของ กองหน้าชาวเติร์ก จากทีม บียาร์เรอัล นั้น เป็นการซัดประตูผ่านมือผู้รักษาประตูที่ได้ชื่อว่าดีที่สุดในโลกคนหนึ่ง ไปอย่างหมดสิทธิ์ป้องกัน เพราะมีการไซร้หนีมือเข้าไปตุงตาข่าย ขณะที่ ลูกที่สอง จาก มิดฟิลด์จอมลุย ของ บาเยิร์น มิวนิค เป็นการประสานงานกันอย่างยอดเยี่ยมของทีม "อินทรีเหล็ก" เริ่มจากการวางบอลที่เฉียบขาดของ โธมัส ฮิตซ์ลสแปร์เกอร์ ไปให้ ลูคัส โพดอลสกี้ ก่อนที่จะตวัดครอสเข้ามาให้ ชไวนี่ ปิดสกอร์แบบง่ายๆ ไม่เหลือซาก
โค้ชยอดเยี่ยม
ฟาติห์ เตริม (ตุรกี)
ฟาติห์ เตริม ยอดกุนซือของทีมชาติ ตุรกี
แน่นอนว่า กุส ฮิดดิ้งส์ เทนเนอร์ชาวดัตช์ ของ ทีมชาติ รัสเซีย อาจได้รับการยกย่องอย่างมากว่าเป็นกุนซือที่พาลูกทีมทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมที่สุดคนหนึ่ง แต่ ฟาติห์ เตริม โค้ชของทีมชาติ ตุรกี อาจสมควรได้รับการชื่นชมมากกว่าเล็กน้อย จากการที่เขาพาทีม "ไก่งวง" สร้างปาฏิหาริย์ได้หลายต่อหลายครั้งในทัวร์นาเม้นต์นี้ รวมถึงจากสภาพทีมที่ไม่พร้อมตั้งแต่รอบแรกจนถึงรอบรองชนะเลิศ เนื่องจากมีปัญหานักเตะบาดเจ็บและติดโทษแบนมาโดยตลอด แต่ด้วยการวางแผนที่เฉียบขาด และ สปิริตนักสู้ของผู้เล่นเติร์กทุกคน ก็มีเครดิตมากพอที่จะยกให้ เตริม เป็นยอดกุนซือของศึกยูโร 2008
ทีมที่เล่นได้เร้าใจมากที่สุด
ฮอลแลนด์
ทีมฮอลแลนด์ เป็นทีมที่เล่นได้เร้าใจมากที่สุด
ต้องยกให้ทีม ฮอลแลนด์ แม้พวกเขาจะต้องจบเส้นทางศึกยูโร 2008 ไปอย่างรวดเร็วเพียงรอบก่อนรองชนะเลิศ แต่ภาพการเล่นอันตื่นตาตื่นใจและสไตล์การเล่นที่น่าประทับใจในรอบแบ่งกลุ่มยังคงติดตาแฟนบอล ชัยชนะเหนือ ทีมแชมป์โลก อย่าง อิตาลี 4-1 ในเกมนัดประเดิมสนาม ก่อนที่จะมาถล่ม ฝรั่งเศส 3-0 ในเกมนัดที่สอง ถือเป็นผลงานที่สุดสะเด่าของขุนพล "อัศวินสีส้ม"
ด้วยสไตล์การเล่นแบบเดินรุก กล้าได้กล้าเสีย และการโชว์ความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะ ได้ทำให้ ฮอลแลนด์ เป็นทีมที่ดูแล้ว เพลินตาเพลินใจ ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดายอย่างยิ่ง ที่การบุก ไม่ใช่คำตอบทุกอย่างของเกมลูกหนัง โดย รัสเซีย เป็นทีมทีมที่ทำให้ พวกเขา ค้นพบถึงสัจจะธรรมนี้ หลังจาก จัดการเขี่ย ฮอลแลนด์ ตกรอบ 8 ทีมสุดท้าย ไปแบบราบคาบ 3-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ
ผิดหวังที่สุดประจำทัวร์นาเม้นต์
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (โปรตุเกส)
คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกจอมถล่มประตูของทีมชาติโปรตุเกส ดับสนิทในศึกยูโร 2008
ด้วยผลงานอันสุดยอดกับต้นสังกัด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากพาทีมคว้าแชมป์ พรีเมียร์ชิพ อังกฤษ และ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รวมถึงฟอร์มการถล่มประตูอันมโหฬารไปถึง 42 ลูก ในฤดูกาลที่ผ่านมา ย่อมไม่แปลกที่หลายฝ่ายต่างจับตามองไปที่ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกทีมชาติโปรตุเกส ว่าจะสร้างสีสันในศึกยูโร 2008 มากที่สุด แต่แล้ว แรงเฉื่อยจากความสำเร็จในเกมระดับสโมสร ก็ไม่เพียงพอที่จะทำให้ โรนัลโด้ ยังคงโชว์ฟอร์มได้สุดยอดอีกครั้ง
ผลงานยิงได้เพียง 1 ประตู และไม่อาจพาทีม "ฝอยทอง" โปรตุเกสไปได้ไกลกว่ารอบ 8 ทีมสุดท้าย เป็นหลักฐานชิ้นดีของความน่าผิดหวังนี้ ส่งผลให้ ข้อสังสัยที่ใครหลายคน เคยปรามาส ดาวเตะวัย 23 ผู้นี้ ว่า มักเล่นได้ไม่ดีในเกมระดับใหญ่ๆ และ โรนัลโด้ คือ นักเตะที่ดีที่สุดของโลก หรือไม่นั้น ยังคงเป็นคำถามที่ยังไม่มีคำตอบต่อไป
นักเตะที่เนื้อหอมมากที่สุด
ชไวน์สไตเกอร์ และ ลูคัส โพดอลสกี้ เป็นสองในหลายนักเตะที่เนื้อหอมที่สุดในยูโร 2008
ศึกยูโร ครั้งนี้ ได้สร้างชื่อให้กับนักเตะฝีเท้าดีหลายต่อหลายคน ทั้งหน้าเก่าที่ดับไป และหน้าใหม่ที่รอวันแจ้งเกิด โดยผู้เล่นที่กำลังฮ็อทเรื่องการย้ายทีมมากที่สุด ก็คงหนีไม่พ้น บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ กับ ลูคัส โพดอลสกี้ สองดาวเตะทีมชาติเยอรมัน และ สโมสร บาเยิร์น มิวนิค เนื่องจาก ทั้งคู่ต่างโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอด ทั้งๆ ในระดับสโมสร กลับทำผลงานสวนทางกันโดยสิ้นเชิง แถมปัญหาการระหองระแหงกับต้นสังกัดก็น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้หลายทีมกำลังจับจ้องดูโอคู่นี้อย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ ยังมี โคลิน คาซิม-ริชาร์ดส์ ผู้เล่นดาวรุ่งทีมชาติตุรกี, เวสลี่ย์ สไนเดอร์ ปีกตัวรุก ของ ฮอลแลนด์ รวมถึง สองคู่หูจาก สโมสร บาเลนเซีย อย่าง ดาบิด บีย่า และ ดาบิด ซิลบา ที่ผนึกกำลังพาทีม สเปน บินสูงอยู่ในขณะนี้ ทั้งๆ ในระดับสโมสรนั้น พวกเขากลับไม่สามารถพาทีม "ไอ้ค้างค้าว" ทำผลงานได้น่าประทับใจมากนัก
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมี โจน กัปเดบีล่า กองหลังจาก บียาร์เรอัล ของทีม "กระทิงดุ", ลิบอร์ ซิออนโก้ ของทีมสาธารณรัฐเช็ก, อาร์เทอ โบรุค โกล์จอมหนึบของ โปแลนด์ ที่ตกเป็นเป้าหมายของ แมนฯ ยูไนเต็ด และ อาร์เซน่อล และที่ลืมไม่ได้ ก็คือ อังเดร อาร์ชาวิน เพลย์เมกเกอร์ของทีมชาติรัสเซีย ที่เนื้อหอมสุดๆ รวมถึง ยูริ เชอร์คอฟ มิดฟิลด์เพื่อนร่วมทีม ที่เล่นได้เด่นทั้งเกมรุกและรับในทัวร์นาเม้นต์นี้
ผู้ตัดสินยอดเยี่ยม
ลูบอส มิเชล (สโลวาเกีย)
ลูบอส มิเชล ผู้ตัดสินชาวสโลวาเกีย ใจเด็ดกล้าเปลี่ยนคำตัดสิน
การกล้าเปลี่ยนคำตัดสินของตัวเองในเกมที่เขา ยกเลิกใบแดงของ เดนิส โคโลดิน กองหลังของทีมชาติรัสเซีย ในนัดที่ทีม "หมีขาว" เอาชนะ ฮอลแลนด์ 3-1 ในช่วงต่อเวลาพิเศษนั้น ถือเป็นปรากฏการณ์ที่ยากจะเห็นได้ในวงการลูกหนัง โดย มิเชล ได้แจกใบแดงให้กับ โคโลดิน ไปแล้ว แต่เมื่อได้รับการทักท้วงจากผู้ช่วยผู้ตัดสิน ว่ามีการทำบอลออกเส้นไปก่อนที่จะมีการทำฟาวล์ ผู้ตัดสินชาวสโลวะเกีย ก็ไม่รอช้าที่จะถอนคำพิพากษาของตัวเอง อันมีส่วนสำคัญที่ทำให้ รัสเซีย เอาชนะ ฮอลแลนด์ มาได้ในท้ายที่สุด
ส่วนคำตัดสินที่น่าตื่นเต้นและเด็ดขาดมากที่สุด คงต้องยกให้ มานูเอล กอนซาเลซ ที่สวมบทโหดไล่ โจอาคิม เลิฟ เทรนเนอร์ทีม เยอรมัน กับ โจเฟซ ฮิคเกอร์สแบร์เกอร์ กุนซือทีมโปแลนด์ ออกจากข้างสนาม โทษฐานปะทะคารมกันอย่างดุเดือดเกินเหตุ ในเกมที่ ทัพ "อินทรีเหล็ก" เฉือนชนะ ขุนพล "โปลสก้า" 1-0 ในเกมนัดสุดท้าย รอบแบ่งกลุ่ม
ความเป็นมืออาชีพยอดเยี่ยม
ฮอลแลนด์
แม้จะเข้ารอบไปแล้ว แต่ ขุนพลดัตช์ ก็ยังเล่นอย่างเต็มที่ไม่มีอ่อนข้อ
หลังจากผ่านเข้าไปเล่นรอบ 8 ทีมสุดท้าย เป็นที่แน่นอน แล้ว ทีม ฮอลแลนด์ ก็มีสิทธิ์ที่จะพักแข้งนักเตะคนสำคัญหลายคน ในนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม ขณะที่ ฝรั่งเศส และ อิตาลี ต้องแย่งชิงตั๋วใบสุดท้ายในการผ่านเข้ารอบต่อไป เช่นเดียวกับ โรมาเนีย ทีมอันดับ 2 ของกลุ่ม จึงมีหลายฝ่ายต่างวิตกกังวลว่า ขุนพลดัตช์ อาจเล่นไม่เต็มที่ เนื่องจากสถานการณ์ลอยลำ และต้องการตัดคู่แข่งตัวฉกาจอย่าง ฝรั่งเศส และ อิตาลี ออกจากเส้นทางยูโร เพื่อหวังไม่ให้ไปเป็นภัยแก่ทีมตัวเองในภายภาคหน้า
อย่างไรก็ตาม ลูกทีมของ มาร์โก แวนบาสเท่น ก็ลบคำสบประมาท และพิสูจน์ให้เห็นถึงสปิริตและความเป็นมืออาชีพที่ยอดเยี่ยม ด้วยการลงเล่นอย่างเต็มที่ และคว่ำเอาชนะ โรมาเนีย 2-0 ได้สำเร็จ พร้อมกับช่วยให้ทีม "อัซซูรี่" ซึ่งชนะ ทีม "ตราไก่" 2-0 ได้มีโอกาสเกี่ยวกับกับ ฮอลแลนด์ เข้าสู่รอบก่อนรองฯ ในที่สุด
กองเชียร์ยอดเยี่ยม
สเปน
แฟนบอลเลือดกระทิง เป็นแฟนบอลยอดเยี่ยของทัวร์นาเม้นต์
เหมาะสมแล้วกับการได้เข้าชิงชนะเลิศศึกยูโร รอบสุดท้าย ในรอบหลายทศวรรษของทีมชาติสเปน เพราะแฟนบอลแดนกระทิงต่างก็ทุ่มเทร่างกายแรงใจเชียร์ทีมรักกันอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการใส่ชุดสีแดง, ชุดนักล่อวัวกระทิง มาร์ทาดอร์ และ นักเต้นระบำฟลาเมงโก้ รวมถึงแต่งแต้มสีสรรค์บนใบหน้าและลำตัว กันตลอดช่วงซัมเมอร์นี้ แถมยังส่งเสียงร้องเพลงเชียร์อย่างสนุกสนานยามที่ทีมของพวกเขาทำประตูได้กันแบบไม่ได้นัดหมายอีกด้วย
นอกจากนี้ แฟนบอลชาวสวีดิช ก็ถือว่าสร้างสีสันความน่าประทับใจให้กับทัวร์นาเม้นต์นี้ได้ไม่น้อยเช่นกัน ขณะที่ แฟนบอลชาวเติร์ก เป็นกองเชียร์ที่ดูจะส่งเสียงอึกทึกครึกโครมและมีสไตล์การเชียร์แปลกแหวกแนวมากที่สุด ส่วน แฟนบอลที่จัดว่าไม่น่ารักมากที่สุด ก็คือ แฟนลูกหนังชาวโปล ที่ดูจะก่อเหตุทะเลาะวิวาท และถูกจับกุมอยู่บ่อยครั้ง แถมยังเป็นพวกเมาแล้วสร้างปัญหาอีก เรียกได้ว่า ขนาด พวก ฮูลิแกน ของแฟนบอลชาวอังกฤษ ว่าแสบสุดๆ แล้ว ยังเทียบไม่ได้กับ แฟนบอล โปลสก้า ที่ดูจะเถื่อนกว่าเยอะ
ท่าฉลองยอดเยี่ยมที่สุด
สลาเวน บิลิช
อารมณ์หวานอมขมกลืนของ สลาเวน บิลิช เทรนเนอร์ทีมชาติ โครเอเชีย
เรียกได้ว่า มันคือ อารมณ์หวานอมขมกลืน ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างอารมณ์ดีใจสุดขีด กับ เสียใจสุดขีดไว้ในเวลาเดียวกัน โดยเกิดขึ้นในกมที่ โครเอเชีย พบกับ ตุรกี ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย ขณะที่ ในสนาม ขุนพล โครเอเชีย กำลังเฉลิมฉลองกับ ประตูสำคัญที่จำนำพวกเขาไปสู่ชัยชนะแบบใสๆ อยู่แล้ว หลังจาก ได้ประตูในนาทีที่ 119 ในช่วงต่อเวลาพิเศษ แต่แล้วไม่กี่อึดใจ ตุรกี ก็กลับยิงประตูได้เสมอเป็น 1-1 ได้สำเร็จ ในนาทีสุดท้ายของเกม ทำให้สีหน้าที่กำลังยิ้มชื่นบานของ สลาเวน บิลิช โค้ชของทีม "ตาหมากรุก" ถึงกลับเปลี่ยนสีไปในบัดดล
เทรนเนอร์แต่งตัวยอดเยี่ยม
โจอาคิม เลิฟ (เยอรมัน)
โจอาคิม เลิฟ เทรนเนอร์ทีมเยอรมัน เป็นกุนซือทีมแต่งตัวเนี้ยบที่สุดในยูโร 2008
เสื้อเชิร์ตขนาดรัดรูป สีขาวล้วน บวกกับกางเกงสีดำเรียบๆ ทำให้ โจอาคิม เลิฟ กุนซือร่างเล็กของทีมชาติเยอรมัน กลายเป็นโค้ชที่มีรสนิยมการแต่งตัวได้ดูดีมีสไตล์มากที่สุดประจำทัวร์นาเม้นต์ ยูโร 2008 โดยเขาจะแต่งตัวอย่างนี้เป็นเอกลักษณ์มาตลอดเริ่มทำการแข่งขัน แต่ เลิฟ ไม่ถือว่าเป็นกุนซือทีมได้รับการยกย่องว่าแต่งตัวได้มีรสนิยมมากที่สุดในทัวร์นาเม้นต์ระดับชาติ เนื่องจาก หลายฝ่ายยังคงยกมือให้ โฆเซ่ อันโตนิโอ กามาโช่ อดีตเทรนเนอร์ทีมชาติสเปน ในปี 2002 เป็นผู้ครองตำแหน่งนี้ไปอย่างเอกฉันท์
ด้วยสไตล์การแต่งตัวโดยใส่เสื้อเชิร์ตและเน็คไทสีฟ้าล้วน แถมยังแอบเซ็กซี่นิดๆ จากเหงื่อที่เปียกชุมไปทั่วตัวเป็นปกติ ยังคงตรึงตาแฟนบอลหลายคน อยู่ ส่วน เทรนเนอร์ทีมแต่งตัวได้เชยมากที่สุด ต้องยกให้ วิคเตอร์ ปิตูร์ก้า กุนซือทีม "ผีดิบ" โรมาเนีย ที่แต่งตัวเหมือนคุณลุงครูพละ ด้วยสไตล์การแต่งตัวที่ชอบจะใส่ชุดวอร์มคุมลูกทีมข้างสนามในทัวร์นาเม้นต์นี้
A PHP Error was encountered
Severity: Notice
Message: Undefined variable: tag_links
Filename: site/news-detail.php
Line Number: 47