"เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทีมในศึกพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ เตรียมได้ฤกษ์เปลี่ยนเจ้าของใหม่แล้ว ภายหลัง อาบู ดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป (Abu Dhabi United Group) กลุ่มธุรกิจจากตะวันออกกลาง บรรลุข้อตกลงเตรียมทุ่มเงินก้อนโตเข้าเทกโอเวอร์สโมสรในเร็ววันนี้

         รายงานจากเว็บไซด์ "อราเบียน บิสซิเนสส์ (Arabian Business)" เว็บไซต์ธุรกิจชั้นนำในภูมิภาคตะวันออกกลาง ระบุว่า อาบู ดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป ซึ่งเป็นองค์กรที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนาและการลงทุน สัญชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้เข้าพบเจรจากับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เจ้าของสโมสรคนปัจจุบันแล้ว ก่อนที่จะบรรลุข้อตกลงเป็นที่เรียบร้อยเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดย พ.ต.ท.ทักษิณ จะยังคงดำรงตำแหน่งเป็นประธานกิตติมศักดิ์ให้กับ แมนฯ ซิตี้ แต่ไม่มีหน้าที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการบริหารกิจการสโมสรแต่อย่างใด

         ดร.ซูไลมาน อัล ฟาฮิม ผู้บริหารสูงสุดของบริษัท "Hydra Properties" ซึ่งได้รับมอบหมายเป็นตัวแทนจาก อาบู ดาบี ยูไนเต็ด กรุ๊ป ให้เข้าพบกับบอร์ดของสโมสร แมนฯ ซิตี้ เปิดเผยว่า "เราจะเปิดเผยรายละเอียดต่างๆ ภายหลัง แต่นี่เป็นเหตุการณ์ที่ดีสำหรับทั้งสโมสร และ อาบู ดาบี เป้าหมายของเรา ธรรมดามาก นั่นคือ การทำให้ แมนฯ ซิตี้ เป็นสโมสรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในพรีเมียร์ลีก และเริ่มต้นที่จะพาทีมทำผลงานติดอันดับท็อปโฟร์ของฤดูกาลนี้ให้จงได้"
  
         ทั้งนี้ ทีม "เรือใบสีฟ้า" เพิ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงเจ้าของสโมสรไปเพียง 14 เดือน เท่านั้น นับตั้งแต่เดือนก.ค. ปี 2007 ภายใต้ความเคลือบแคลงสงสัยว่าเงินลงทุนดังกล่าวเป็นการฟอกเงินผิดกฏหมายหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความไม่แน่นอนในสถานะของ พ.ต.ท.ทักษิณ เกี่ยวกับปัญหาคดีคอรัปชั่นสมัยดำรงตำแหน่งของอดีตนายกรัฐมนตรี และการดำเนินคดียึดทรัพย์สินจากรัฐบาลไทย ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จึงน่าจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ เจ้าสโมสรชาวไทย ซึ่งปัจจุบันยกโขยงครอบครัวหนีคดีมาอยู่กรุงลอนดอนเกือบ 1 เดือนแล้ว ตัดสินใจ ขายสโมสรในที่สุด