สงครามในแค้มป์ทัพ "อินทรีเหล็ก" เยอรมัน ระหว่าง โอลิเวอร์ เบียร์โฮฟฟ์ ผู้จัดการทีมทั่วไป กับ มิชาเอล บัลลัค มิดฟิลด์จอมทัพจากสโมสรเชลซี ทีมดังในศึกพรีเมียร์ชิพอ อังกฤษ ยังคงตึงเครียดต่อไป ภายหลังคู่กรณีทั้งสอง เล่นสงครามน้ำลายผ่านสื่อ จากรายงานเมื่อวันจันทร์ที่ 8 ก.ย.ที่ผ่านมา 

       ก่อนหน้านี้ สมาคมฟุตบอลเยอรมัน (เดแอฟเบ) เข้ามาประสานรอยร้าวที่เกิดขึ้น เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าสถานการณ์กลับไม่ดีขึ้น เห็นได้จากการที่ เบียร์โฮฟฟ์ กล่าวให้สัมภาษณ์กระทบกระเทียบ บัลลัค หลังจบเกมฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนยุโรป ที่ถล่มเอาชนะ ลิกเตนสไตน์ไป 6-0 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า "แม้จะไม่มีบัลลัค แต่เยอรมันก็ยังเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม และเราไม่ต้องพึ่งเขาก็ได้" 

       ขณะที่ บัลลัค ซึ่งไม่ได้มีส่วนร่วมกับเกมดังกล่าวเนื่องจากยังมีอาการบาดเจ็บรบกวน ก็ได้ออกมากล่าวตอบโต้คำพูดของ เบียร์โฮฟฟ์ อย่างทันควัน ผ่านหนังสือพิมพ์ "แฟร้งค์เฟิร์ต อัลล์เก้ไมน์" เมื่อวันอาทิตย์ว่า "เยอรมันเก็บชัยชนะแบบนี้ได้หลายครั้ง ก่อนที่ โอลิเวอร์ เบียร์โฮฟฟ์ จะเป็นผู้จัดการเสียอีก และมันก็ไม่ได้สรุปว่า อนาคตของพวกเราจะประสบความสำเร็จ ไม่ว่า เบียร์โฮฟฟ์ จะเป็นผู้จัดการทีมหรือไม่ก็ตาม" 

       ด้าน โจอาคิม เลิฟ บุนเดสเทรนเนอร์ของทัพ "อินทรีเหล็ก" ในฐานะคนกลาง อาจตัดสินใจตัดปัญหาวุ่นวายดังกล่าว ด้วยการไม่เรียกตัว บัลลัค เข้ามาติดทีมในเกมที่ เยอรมัน จะลงเตะเกมฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก นัดที่ 2 ซึ่งพบกับ ฟินแลนด์ ในวันที่ 10 ก.ย.นี้ ก็เป็นได้ แม้ว่าตัวนักเตะอาจหายเจ็บและกลับมาฟิตพร้อมลงสนามก็ตามที

       ทั้งนี้ ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เริ่มร้าวฉาน หลังเกมที่ เยอรมัน แพ้ สเปน ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป "ยูโร 2008" ที่ประเทศ ออสเตรีย และ สวิตเซอร์แลนด์ โดยเหตุเกิดจากการที่ ดาวเตะทีม "สิงห์บูลส์" ปฏิเสธถือป้ายแสดงความขอบคุณแฟนบอลตามคำสั่งของ เบียร์โฮฟฟ์ และเขากลับปลีกตัวไปปฏิสัมพันธ์กับแฟนบอลเยอรมันหน้าที่นั่งในสนาม เอิร์สต์-ฮาปเปิล สตาดิโอน แทน