ไซม่อน แชดวิค นักวิเคราะห์ด้านกลยุทธ์ทางธุรกิจกีฬา มั่นใจ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอดทีมในศึกพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ จะไม่ได้รับผลกระทบจากกรณีที่ อเมริกัน อินเตอร์ เนชั่นแนล กรุ๊ป หรือ เอไอจี (American International Group - AIG) สถาบันทางการเงินยักษ์ใหญ่ ซึ่งเป็นสปอร์เซอร์บนเสื้อของทีม "ปีศาจแดง" กำลังตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤตทางการเงิน ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกาในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา

        ผู้เชี่ยวชาญจาก แห่งมหาวิทยาลัย โคเวนทรี ของอังกฤษ อธิบายว่า "การเป็นสปอร์เซอร์บนเสื้อกีฬาในทีมฟุตบอลของพรีเมียร์ลีกและยังรวมไปถึงใน เยอรมัน ถือเป็นกลยุทธ์ที่ดีสำหรับเจ้าของธุรกิจ ซึ่งในความคิดผม เห็นว่า ยูไนเต็ด ในฐานะที่เป็นแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และ แชมป์พรีเมียร์ลีก ทีมปัจจุบัน ถือเป็นจุดขายที่ดีของบริษัทอยู่แล้ว"

        "แต่หากในกรณีที่ ยูไนเต็ด กำลังต้องการมองหาสปอร์เซอร์ที่มีความเหมาะสม ซึ่งมีเครือข่ายและเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ที่ทีมต้องการเผยแพร่ตราสินค้าของตนเองให้ครอบคลุมทั่วโลกเช่นกัน บางที ณ ตอนนี้ เอไอจี อาจเป็นกลุ่มธุรกิจที่ตอบโจทย์นี้ได้ดีที่สุดแล้วก็ได้" แชดวิค กล่าวให้เหตุผล

        สำหรับ แมนฯ ยูไนเต็ด ยังคงมีสัญญากับ เอไอจี อยู่อีก 2 ปี ภายหลังจากที่ถูกสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกัน ทุ่มเงินสูงถึง 100.57 ล้านสหรัฐฯ (ซึ่งขณะนั้นคิดเป็นเงินไทยประมาณ 3,955 ล้านบาท) สำหรับแลกกับการเป็นสปอนเซอร์เสื้อทีมให้กับสโมสรแชมป์ลีกสูงสุดแห่งเกาะอังกฤษ 17 สมัย ด้วยระยะสัญญา 4 ปี เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2006

        อย่างไรก็ตาม จากรายงานข่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สถานการณ์ทางการคลังของ เอไอจี ดูไม่ค่อยสู้ดีนัก ภายหลัง ราคาหุ้นบริษัท ร่วงดิ่งลงถึง 61 เปอร์เซ็นต์ ไปอยู่ที่ราคาเพียง 4.76 ดอร์ลลาร์ (ประมาณ 166.6 บาท) ขณะที่สถานการณ์โดยรวมในปีนี้ ราคาหุ้นของพวกเขาลดลงไปแล้วกว่า 93 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนั้น สถาบันการเงินยักษใหญ่อีกแห่ง อย่าง เลห์แมนบราเธอร์ส (Lehman Brothers) ก็ต้านแรงเสียดทานความผันผวนของเศรษฐกิจในสหรัฐฯไม่ไหว ประกาศขอล้มละลาย ไปแล้ว