ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา กองหน้าทีมชาติไอวอรี่โคสต์ ของทีม "สิงโตน้ำเงินคราม" เชลซี ยอดทีมในศึกพรีเมียร์ชิพ อังกฤษ ออกมาเผยเมื่อวันอังคารที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า เขารู้สึกซังกะตายกับชีวิตลูกหนัง เมื่อช่วงซัมเมอร์นี้ หลังจากที่ต้องเจอปัญหาอะไรมาเยอะในฤดูกาลที่แล้ว

         ดร็อกบา เจอมรสุมมากมายในซีซั่นก่อน ไม่ว่าจะเป็น ข่าวการย้ายออกจากถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ และถูกแฟนบอล "สิงห์บูลส์" จวกว่า เล่นไม่เต็มที่ ยิ่งไปกว่านั้น ดาวเตะวัย 30 ปี ยังตกเป็นแพะรับบาปใน ฐานะที่ถูกไล่ออกในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ ที่ เชลซี แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากการดวลจุดโทษ ขณะที่ทีมต้นสังกัดก็ชวดแชมป์ทุกรายการทั้งในและนอกประเทศ

        อดีตหัวหอกของ โอลิมปิก มาร์กเซย ระบายความอัดอั้นตันใจว่า "เมื่อช่วงซัมเมอร์นี้ ผมไม่มีกะจิตกะใจจะคิดถึงเรื่องฟุตบอลอีกเลย ผมสูญเสียสัญชาตญาณ เพชฌฆาต ไปแล้ว ผมไม่ต้องการ ได้ยินเป้าหมายหรืออะไรอีกต่อไป ผมรู้สึกว่าตัวเองหมดอะไรตายอยากจริงๆ นี่ถือเป็นครั้งแรกในชีวิตการค้าแข้งของผม ที่ผมไม่เหลือความหลงใหลในเกมฟุตบอลเลย"

        มาในฤดูกาลนี้ ดูเหมือนว่า อุปสรรคของ ดร็อกบา จะยังไม่ผ่านพ้นไปเสียหมด โดยเขาต้องเจอปัญหาอาการบาดเจ็บรุมเร้า และประเด็นเรื่องความมีระเบียบวินัย ล่าสุด เขาต้องกลายเป็นศูนย์หน้าเบอร์ 2 ของถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ ไปเสียแล้ว หลังจากที่ นิโคล่าส์ อเนลก้า กำลังทำผลงานได้ดีวันดีคืน

       "สำหรับตอนนี้ ผมแค่จะต้องอยู่นิ่งๆ ไม่ใช่ว่าผมอยู่ที่นี่มานานกว่า 4 ปี แล้วจะมีสิทธิเรียกร้องตำแหน่งตัวจริงของทีม เพราะ ณ ตอนนี้ ทีมมีนักเตะที่กำลังทำประตูได้อย่างเนื่อง และยังพวงดีกรีดาวซัลโวสูงสุดในลีกเสียด้วย ดังนั้น ผมก็แค่จะต้องรอโอกาสต่อไป" เจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของทวีปแอฟริกา ฤดูกาล 2006-2007 กล่าวอย่างปลงชีวิต