"ราชันชุดขาว" เรอัล มาดริด ประกาศแต่งตั้ง มานูเอล เปเยกรินี่ เทรนเนอร์ชาวชิลีเข้ารั้งบังเหียนนายใหญ่คนใหม่แห่งถิ่น ซานติอาโก้ เบอร์นาเบว แทนที่ของ ฆวนเด้ รามอส เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากการเปิดเผยของยอดทีมแดนกระทิงดุผ่านเว็บไซด์ทางการของสโมสร (www.realmadrid.com) เมื่อวันจันทร์ที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา

             การดึงตัว เปเยกรินี่ เข้ามาคุมทีมในครั้งนี้นับเป็นส่วนหนึ่งในโปรเจ็คยักษ์ของ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ที่เพิ่งชนะการเลือกตั้งเข้ามานั่งเก้าอี้ประธานสโมสร "ราชันชุดขาว" ได้เป็นสมัยที่ 2 โดยสื่อสแปนิชระบุว่า มาดริด จะต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับ บียาร์เรอัล ราว 4 ล้านยูโร (ประมาณ 192 ล้านบาท) เพื่อแลกลายเซ็นต์ของ เปเยกรินี่ ในครั้งนี้ แต่ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดในสัญญาแต่อย่างใด

             สำหรับเมกะโปรเจ็คในการคืนสู่รัง เบร์นาเบว หนนี้ของ เปเรซ คือการดึงบรรดานักเตะระดับเวิลด์คลาสมาเสริมทัพเพื่อกลับสู่ยุค "กาลาคติกอส" อีกครั้งและ เปเรซ ประกาศไว้ว่าจะเสริมทัพ 6 รายเป็นอย่างน้อย โดยบรรดานักฟุตบอลชื่อดังที่ตกเป็นเป้าหมายของ เรอัล มาดริด ในช่วงที่ผ่านมา ประกอบด้วย คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ของ แมนฯยูไนเต็ด, กาก้า ของ เอซี มิลานและ ฟร้องค์ ริเบนี่ เพลย์เมคเกอร์เฟร้นช์แมนของ บาเยิร์น มิวนิค 

             อย่างไรก็ตามแม้มีการคาดการณ์ว่า เปเยกรินี่ จะมีขุมกำลังชั้นดีในการทำทีมฤดูกาลหน้า แต่คาดว่าเทรนเนอร์วัย 55 ปี คงต้องตกอยู่ภายใต้แรงกดดันไม่น้อย เมื่อต้องมาคุมสโมสรที่มีความคาดหวังสูงอย่าง เรอัล มาดริด เพราะที่ผ่านมาบอร์ดบริหาร มาดริด ให้เวลาเทรนเนอร์ได้พิสูจน์ตัวเองน้อยเหลือเกิน

             จากปัญหาข้างต้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยที่นับตั้งแต่ บิเซนเต้ เดล บอสเก้ ถูกปลดในปี 2003 จนถึงปัจจุบัน "ราชันชุดขาว" เปลี่ยนนายใหม่มาแล้วถึง 8 ราย ไล่มาตั้งแต่ คาร์ลอส เคยรอซ, โฆเซ่ อันโตนิโอ คามาโช่, มาเรียน่า การ์เซีย เรม่อน, วานแดร์ไล ลุกชอมเบอร์โก้, ฆวน ราม่อน โลเปซ คาโร่, ฟาบิโอ คาเปลโล่, แบรนด์ ชูสเตอร์และ ฆวนเด้ รามอส