ซีเนอดีน ซีดาน ตำนานนักเตะทีมชาติฝรั่งเศส ซึ่งปัจจุบันรับตำแหน่งที่ปรึกษาของ ฟลอเรนติโน่ เปเรซ ประธานสโมสร เรอัล มาดริด โคตรทีมแห่งศึก ลา ลีกา ออกมาให้ข่าวว่า ริคาร์โด้ กาก้า เพลย์เมคเกอร์เนื้อหอมสัญชาติบราซิเลี่ยนของ เอซี มิลาน ได้ตัดสินใจสะบัดปากกาเซ็นสัญญาย้ายไปสวมเสื้อ "ราชันชุดขาว" เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จากการรายงานของ "Channel4" เว็บไซด์ข่าวชื่อดังแดนมะกะโรนี เมื่อวันศุกร์ที่ 5 มิถุนายน ที่ผ่านมา

            อดีตตัวรุกขวัญใจกองเชียร์ เรอัล มาดริด ให้สัมภาษณ์ระหว่างที่เดินทางมาร่วมเตะฟุตบอลนัดเทสติโมเนี่ยล เพื่อเป็นเกียรติให้กับ แว็งซ็องต์ ก็องเดอล่า อดีตเพื่อนร่วมทีมชาติฝรั่งเศส ที่กำลังจะแขวนสตั๊ด เกี่ยวกับความคืบหน้าเรื่องการย้ายทีมของดาวเตะแดนแซมบ้า ว่า "กาก้า เซ็นสัญญากับ เรอัล เป็นที่เรียบร้อยแล้วและผมคงจะดีใจมาก หากเขาจะสวมเสื้อหมายเลข 5 ของผม เพราะผมไม่ได้หวงมันแต่อย่างใด"

             ก่อนหน้านี้ อาเดรียโน่ กัลเลียนี่ รองประธาน เอซี มิลาน ให้สัมภาษณ์ผ่านทาง ลา กัซเซ็ตต้า เดลโล่ สปอร์ต ว่า ทั้งสองสโมสรกำลังเปิดโต๊ะเจรจาเพื่อความเป็นไปได้ในการซื้อ-ขาย กาก้า โดยในเบื้องต้นคาดว่าหากมีการโยกย้ายเกิดขึ้นจริง ค่าตัวของเพลย์เมคเกอร์บราซิเลี่ยนน่าจะอยู่ที่ราว 68.5 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3,425 ล้านบาท) ซึ่งจะกลายเป็นสถิติใหม่ของโลก ลบของเดิมเมื่อครั้ง เรอัล มาดริด เซ็น ซีดาน จาก ยูเวนตุส ด้วยค่าตัว 46 ล้านปอนด์ (ประมาณ 2,300 ล้านบาท)

             ขณะเดียวกันสื่อมวลชนแดนมะกะโรนีคาดการณ์ว่าทาง เรอัล มาดริด น่าจะออกมาแถลงข่าวเปิดตัว กาก้า อย่างเป็นทางการ ในวันจันทร์นี้ ซึ่งการเสริมทัพของ "ราชันชุดขาว" ในครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายที่ เปเรซ ใช้หาเสียงเมื่อครั้งเลือกตั้งประธานสโมสรคนใหม่ที่จะพาทีมกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ให้ได้อีกครั้ง โดยนอกจาก กาก้า แล้ว มาดริด ยังตกเป็นข่าวกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ของ แมนฯยูไนเต็ดและ ฟร้องค์ ริเบรี่ ของ บาเยิร์น อีกด้วย

             ส่วนการขาย กาก้าของทาง รอสโซเนรี่ นับว่าน่าเป็นห่วงต่อฐานเสียงของ ซิลวิโอ แบร์ลุสโคนี่ ผู้มีอิทธิพลคนดังของ อิตาลี ไม่น้อย เพราะปัจจุบันนอกจากเขาจะเป็นเจ้าของสโมสร เอซี มิลาน แล้ว แบร์ลุสโคนี่ ยังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อิตาลี อีกด้วย โดยตลอดช่วงที่ กาก้า ตกเป็นย้ายทีมนั้น มีสาวก "ปีศาจแดง-ดำ" มารวมพลประท้วงกันที่หน้าสโมสรและขู่ว่าจะไม่ให้การสนับสนุน แบร์ลุสโคนี่ ด้านการเมืองอีกต่อไป หากปล่อยผู้เล่นขวัญใจของพวกเขาออกจากทีม