กลุ่มนักเตะสเปนออกมาแสดงความวิตกกังวลอย่างหนักหลังจาก ดานี่ ฆอร์เก้ กัปตันทีมเอสปันญ่อล ทีมดังแห่งลาลีกา สเปน เกิดเสียชีวิตกะทันหันจากสภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้เหล่าพ่อค้าแข้งแดนกระทิงดุ เรียกร้องให้ปรับปรุงประสิทธิภาพในการตรวจหัวใจ ก่อนที่จะเกิดโศกนาฏกรรมแบบนี้ขึ้นอีก

          ฆอร์เก้ ปราการหลังวัย 26 ปี หมดสติฟุบลงในห้องพักของโรงแรมหรูที่ประเทศอิตาลี่ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ขณะเก็บตัวฝึกซ้อมก่อนเปิดฤดูกาล ก่อนจะเสียชีวิตด้วยสาเหตุหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน

          การเสียชีวิตของกัปตันเอสปันญ่อล นับว่าเป็นโศกนาฏกรรมซ้ำซากของวงการฟุตบอลสเปน เพราะก่อนหน้านี้ 2 ปี อันโตนิโอ ป้วยต้าร์ แบ็กซ้ายดาวรุ่งวัย 22 ปี ของเซบีย่า ก็เกิดหัวใจวายกำเริบขณะแข่งฟุตบอล ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา

          อันเดรียส ปาล็อป เป็นคนแรกที่เข้าไปถึงตัวของ ป้วยต้าร์ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ในขณะที่ฟุบอยู่กับพื้น และได้ออกมาแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งไปถึงครอบครัวของ ฆอร์เก้ ระหว่างการสัมนาการกีฬาเมื่อวันจัทร์ที่ผ่านมา โดยกล่าวว่า"มันเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่เราได้เห็นเด็กหนุ่มต้องจากไปอย่างไม่มีวันกลับ"

         "มันเริ่มทำให้เรารู้สึกกังวลกันมากขึ้น ทั้งๆที่มีการตรวจร่างกายอย่างละเอียด แต่ก็ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกปลอดภัยขึ้นมาเลย เราหวังว่าจะมีระบบการตรวจสอบร่างกายที่ทันสมัยกว่านี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องน่าสลดซ้ำแล้วซ้ำเล่า"ปาล็อปเผย

         หลังจากการเสียชีวิตของ ป้วยต้าร์ เมื่อปี 2007 ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์เปิดเผยว่า เป็นเรื่องยากที่จะสามารถวินิจฉัยอาการโรคหัวใจของนักฟุตบอล โดยเฉพาะกับคนที่มีร่างกายแข็งแรง ยกตัวอย่างในกรณีของ รูเบน เดอ ลา เร้ด ที่หมดสติในระหว่างเกมการแข่งขันตั้งแต่เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว จนปัจจุบันแพทย์ก็ยังหาบทสรุปของสาเหตุนั้นไม่ได้ และดาวรุ่งวัย 24 ปี ก็ยังกลับมาลงสนามไม่ได้อีกเลยนับแต่นั้น

         ซานติ คาโซร์ล่า มิดฟิลด์ของ บียาร์เรอัล ก็ออกมาเผยว่า"มันเป็นเรื่องประหลาดมาก ที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นบ่อยครั้งในเวลาอันสั้น มันทำให้คุณเริ่มกังวล เพราะมันอาจจะเกิดขึ้นกับใครเมื่อไหร่ก็ได้

         อัลเบิร์ต ริเอร่า ปีกซ้ายของลิเวอร์พูล ทีมดังแห่งเกาะอังกฤษ เสริมว่า"แน่นอนสิ่งนี้ทำให้เราวิตกกันมาก เราไม่สามารถรู้ล่วงหน้าได้เลย เพราะไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ เหมือนที่เคยเกิดกับ เดอ ลา เร้ด และหลายๆคนมาแล้ว ถึงเวลาที่เราจะต้องทำอะไรบางอย่างแบบจริงจังเกี่ยวกับเรื่องนี้เสียที"