สิ่งที่แฟนๆ"หงส์แดง"รอคอย และอยากได้ยินมากที่สุดก็เป็นจริงเสียที หลังจากยื้อหยุดฉุดกระชากกันมาหลายต่อหลายคน ก็ไม่มีนักลงทุนรายใด สนใจจะซื้อกิจการ ลิเวอร์พูล เอฟซี จริงๆจังๆ ส่วนมากจะมาสร้างกระแสแล้วก็หายไป
แต่ครั้งนี้เล่นจริงแสดงจริงเจ็บจริง(อันหลังนี่ชินแล้ว) เรียกว่าฮุบกิจการแบบสายฟ้าแลบก็ไม่ผิด เพราะอยู่ๆก็มีข่าวตูมมาว่า นิวอิงแลนด์ สปอร์ตส เวนเจอร์ส (เอ็นอีเอสวี) จอห์น ดับเบิลยู เฮนรี เจ้าของทีมเบสบอล บอสตัน เร้ด ซ็อกซ์ ในศึกเอ็มแอลบี ของประเทศสหรัฐฯ จัดการหว่านเงินจำนวน 300 ล้านปอนด์ (ประมาณ 14,400 ล้านบาท) เพื่อครอบครอง"หงส์แดง"มาเป็นกรรมสิทธิ์แบบเด็ดขาดอีกหนึ่งบริษัท น่าเซอร์ไพรส์เล็กน้อยตรงที่ คู่หูมะกัน ตกลงยอมขายสโมสรที่ราคาขาดทุนยับเยิน มากกว่าครึ่งที่ปักป้ายไว้แต่แรก แสดงว่า ฮิคส์ และ จิลเล็ตตส์ คงหมดความอดทนต่อแรงกดดันสารพัดที่ถูกโจมตีไม่ได้แล้วจริงๆ โดยวงในเผยว่า ดูโอมะกัน ต้องการเงินถึง 600 ล้านปอนด์ (ประมาณ 28,800 ล้านบาท) แต่ที่แน่ๆก็คือฉากจบของละครเรื่องนี้ไม่สวยเอาเสียเลย มีการแตกคอกันระหว่าง มาร์ติน เบราจ์ตั้น ประธานบริหารของ ลิเวอร์พูล กับ สองมะกันหน้าเลือด เรื่องผลประโยชน์ เบราจ์ตั้น อิงสัญญาที่เขียนมาแต่แรกว่า ตัวเขาเท่านั้นที่สามารถเปลี่ยนแปลงบอร์ดบริหารได้ และฮิคส์ กับ จิลเล็ตต์ส จะไม่มีสิทธิ์เข้ามาแทรกแซงการขายทีมที่สมเหตุสมผล ทำให้ทั้งสองไม่มีทางเลือก จำต้องทิ้งสโมสรไปอย่างไม่สมเกียรติ อาจจะเป็นเพราะความเขลาของทั้งคู่เองด้วย ที่ไม่ยอมอ่านสัญญาให้ดีเสียก่อน ถือว่าโดนลบเหลี่ยมเห็นๆ ในเชิงธุรกิจเรียกว่าเสียเชิงเต็มเหนี่ยว จะมีก็เพียง รอย ฮ็อดจ์สัน กุนซือก้นร้อนเท่านั้น ที่แสดงความอาลัยที่ต้องเสียเจ้าของคู่บ้าหน้าเลือดออกไป นอกนั้นต่างแฮปปี้กันถ้วนหน้า จบกันอย่างไม่เผาผี เหมือนกับคู่รักที่อยู่กินฉันผัวเมียภรรยามานานนับสิบปี แต่สุดท้ายต้องเลิกรากันไป หน้าก็แทบไม่อยากมอง ของข้าวต่างๆก็ต้องแบ่งๆกันไปตามความเหมาะสม นี่แค่เอามาเปรียบนะครับ ว่าทุกอย่างถ้ามีคำว่าจากเข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่มีคำว่าสวยอยู่แล้ว จากบ้าน, จากลา, จากไกล หรือแม้กระทั่งจากกันด้วยดี จริงเป็นแค่คำพูดให้มันดูดีเท่านั้นแหละ นี่ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง ว่าการที่จะเข้ามาควบคุมกิจการฟุตบอล พร้อมกับความสำเร็จไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนอย่างในเกมส์ ขนาดคนท้องถิ่นที่เกิดในเมืองนั้นๆ โตมากับทีมนี้ พอเข้ามาเป็นเจ้าของทีม ยังไปไม่รอด ยกตัวอย่าง ไมค์ แอชลี่ย์ เจ้าของ นิวคาสเซิ่ล เป็นต้น เจ้าของใหม่ดีกว่าตรงไหน? แทบจะเลียนแบบของเก่าออกมา เป็นกลุ่มนายทุนอเมริกัน, เจ้าของทีมเบสบอล เข้ามาถึงก็สร้างภาพไว้สวยหรู ว่าจะใช้หนี้สโมสรจำนวนมหาศาล 237 ล้านปอนด์ (ประมาณ 11,376 ล้านบาท) ทุ่มงบไม่อั้นเพื่อซื้อนักเตะชื่อดังเสริมทีม สร้างสนามใหม่ความจุหกหมื่น แทบจะก็อบนโยบายของสองเจ้าของเก่ามาหมด เครดิตที่ดูจะเหนือกว่า ฮิคส์ และ จิลเล็ตต์ส ก็คือ เอ็นอีเอสวี สามารถพา บอสตัน เร้ด ซ็อกซ์ จากเมื่อก่อนที่อยู่ในช่วงวิกฤติแต่พลิกชะตากลับมาประสบความสำเร็จได้ และเป็นทีมเบสบอลชั้นนำของเอ็มแอลบี อยู่ในเวลานี้ ดังนั้น"เดอะ ค็อป"ต่างวาดวิมานว่า จอห์น ดับเบิลยู เฮนรี จะนำ"หงส์แดง"ที่กำลังหลับไหล ฟื้นขึ้นมาผงาดเหมือนกับ เร้ด ซ็อกซ์ ได้ และก็หวังว่าเจ้าของใหม่จะไม่แป้กเหมือนกับคนที่ผ่านมา เพราะยังไงเวลานี้ทางเลือกของ ลิเวอร์พูล ไม่มีแล้ว และก็เปรียบเหมือน นกไร้รัง ใครเข้ามาตอนนี้ก็ต้องเกาะไว้ก่อน และก็มี จอห์น เฮนรี ท่านนี้แหละ ที่เป็นรังใหม่ให้สร้างความหวั
และทั้งคู่พยายามขัดขวางการขายสโมสรในครั้งนี้ หลังจากที่ 2 มหาเศรษฐีชาวอเมริกันได้ว่าจ้างบาร์เคลย์ แคปิตอล เมื่อเดือนเมษายน เพื่อให้เสาะหาผู้ที่จะเข้ามาซื้อสโมสร และแต่งตั้งประธานสายการบิน บริติช แอร์เวย์ มาดูแลงานในต่างประเทศ
และนับประสาอะไร กับคนอเมริกัน ที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ เดินดุ่ยๆเข้ามาซื้อทีม เพราะคิดว่าตัวเองมีเงิน(หนี้) สุดท้ายก็ต้องบินกลับบ้านไปอย่างบอบช้ำ เหมือนโดนเมียทิ้ง และกลับไปบ้านเกิดเพื่อซบตักแม่นั่นล่ะ
A PHP Error was encountered
Severity: Notice
Message: Undefined variable: tag_links
Filename: site/news-detail.php
Line Number: 47