ขณะเป็นอาจารย์พิเศษสอนนักเรียนที่ฮาวาร์ด เฟอร์กูสัน เผยเคล็ดลับความสำเร็จของตัวเอง

ทีมทอล์คก่อนเกม...
"เมื่อผมได้ยินโค้ชคนหนึ่งเริ่มประโยคที่ว่า "นี่คงจะเป็นทีมทอล์คครั้งที่พันแล้วล่ะมั้งที่ฉันพูดกับเธอ" และผมเห็นผมได้ยินผู้เล่นคนหนึ่งตอบอย่างเร็วว่า "และผมก็หลับไปประมาณ 500!"

"ผมเลยชอบเล่าอะไรที่หลากหลาย และใช้จินตนาการของผม"

"โดยทั่วๆ ไปแล้วมันเกี่ยวกับการคาดหวัง ความเชื่อมั่นในตัวเอง และความเชื่อใจซึ่งกันและกัน"

"ผมจำได้ว่ากำลังจะไปดูอันเดรีย โบเชลลี่ นักร้องโอเปร่า ผมไม่เคยไปดูคอนเสิร์ตเพลงคลาสสิกมาก่อนในชีวิต"

"แต่ผมกำลังจะดูสิ่งนี้ และกำลังคิดถึงการประสานงานกัน และทีมเวิร์ค คนหนึ่งขึ้น อีกคนหนึ่งจบ มันเยี่ยมมาก ผมเลยพูดถึงวงออเคสตร้ากับลูกทีมว่าทำไมพวกเขาถึงเป็นทีมที่สมบูรณ์แบบ"

แท็คติก....
"แท็กติกเปลี่ยนได้ตามคนที่เรากำลังจะเจอ"

"ผมพยายามจะเน้นไปที่ผู้เล่น 1 หรือ 2 คนที่เป็นคู่แข่งของผม เป็นคนที่มีอิทธิพลต่อทีมมากที่สุด"

"ใครล่ะที่จะเป็นคนเตะฟรีคิกทั้งหมด? ใครคือคนที่ได้บอลตลอดเวลา? ใครคือตัวที่กระตุ้นลูกทีม? ที่เหลือผมจะจดจ่ออยู่กับทีมของผมเอง"

"วันศุกร์เราให้นักเตะดูเทปเพื่อวิเคราะห์การเล่นของคู่แข่ง จุดเด่น จุดอ่อน ลูกเซ็ตพีซของพวกเขา 11 ตัวแรกของพวกเขาน่าจะมีใคร นู่นนี่นั่น"

"พอวันเสาร์เราอาจจะสรุปสั้นๆ ที่ว่าไปเมื่อวันก่อนกับพวกเขาอีกครั้ง"

พักครึ่ง...
"เราอาจจะมีเวลา 8 นาทีระหว่างที่คุณเข้าอุโมงค์ และผู้ตัดสินเรียกคุณกลับมาลงสนามอีกครั้ง และการใช้เวลาในช่วงนี้นับว่าสำคัญทีเดียว"

"ทุกอย่างดูง่าย ถ้าตอนนั้นคุณนำอยู่ คุณพูดถึงการมีสมาธิ อย่าเพิ่งชะล่าใจ และแนะอะไรเล็กๆ น้อยๆ ที่ต้องทำ"

"แต่ถ้าตามอยู่ คุณรู้เลยว่าจะต้องทำอะไรบางอย่างที่กระตุ้นพวกเขา"

"ช่วงสองสามนาทีสุดท้ายก่อนหมดครึ่งแรก ผมจะคิดเสมอว่าจะพูดอะไร ลักษณะผมเหมือนอยู่ในภวังค์ ที่จริงผมกำลังตั้งสมาธิ"

"ผมไม่เชื่อเรื่องการจดโน้ต ผมเห็นโค้ชคนอื่นทำ แต่ผมไม่อยากละสายตาจากเกม"

"และผมนึกภาพไม่ออกว่าจะเป็นยังไง ถ้าผมเข้าไปในห้องแต่งตัว ดูสมุดโน้ตของผม และบอกว่า "นี่นาย นาทีที่ 30 นายจ่ายบอลแบบนี้ๆ" ผมไม่คิดว่านั่นจะทำให้นักเตะประทับใจได้"

เสียแชมป์ให้แมนฯ ซิตี้....
"จนป่านนี้ผมก็ยังโกรธๆ อยู่เลย เมื่อคิดถึงเรื่องที่เราปล่อยให้แชมป์หลุดมือไปเมื่อปีที่แล้ว"

"เป็นอีกวันประวัติศาสตร์ของแมนฯ ยูไนเต็ดเลย มันเป็นดราม่าที่แมนฯ ยูไนเต็ดเท่านั้นทำ"

"ใครจะไปนึกล่ะว่าแบล็คเบิร์น ทีมอันดับสุดท้ายของลีก จะมาชนะเรา 3-2 ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด หรือจะมีใครที่คิดว่าจะเสมอกัน เมื่อเรานำเอฟเวอร์ตัน 4-2 ก่อนเกมจบ 7 นาที"

"แรงจูงใจของผมต่อผู้เล่นก็คืออย่าให้ซิตี้ชนะเราสองปีติด"

แชมเปี้ยนส์ ลีก และพรีเมียร์ ลีก...

"มันยากทีเดียวที่ต้องกรำศึกสองรายการในฤดูกาลเดียว"

"เราอยู่ในประเทศที่การแข่งขันระหว่างสโมสรดุเดือดมาก มีอาร์เซนอล, เชลซี และสเปอร์ส ทีมจากลอนดอน และสองทีมในเมืองแมนเชสเตอร์ และเมืองลิเวอร์พูล"

"นั่นสร้างแรงกดดันมหาศาลเลยในการที่จะเป็นแชมป์พรีเมียร์ ลีก อย่างไรก็ตามยูโรเปี้ยน คัพ คือถ้วยที่ใหญ่ที่สุด"

"ฤดูกาลก่อน ตอนที่เราตกรอบแบ่งกลุ่ม ผมทำผิดพลาดอย่างหนึ่งนั่นคือให้เด็กลงเล่นเยอะ"

"ถึงนั่นจะใช้ได้ในอดีต แต่เกมของเราไม่รัดกุม"

"ผมช็อกไปเลย เพราะนั่นเป็นครั้งที่สามเองที่ผมไม่ผ่านรอบแบ่งกลุ่ม ผมตัดสินใจเลยว่า จะไม่เสี่ยงอย่างที่ทำไปในยุโรปเมื่อปีที่แล้ว"

ครอบครัวเกลเซอร์ และการคุมยาว
"ครอบครัวเกลเซอร์เป็นคนตัดสินใจ พวกเขาเก็บเนื้อเก็บตัวไม่ค่อยจะเป็นข่าว และให้การสนับสนุนดีมาก"

"ถ้าผมเป็นเจ้าของทีมแมนฯ ยูไนเต็ด และได้แชมป์ลีก ผมจะดีใจเหมือนได้แก้ว"

"ผมจำได้ตอนผมเล่นที่เรนเจอร์ส ตอนที่ผู้บริหารกระโดดโลดเต้นอยู่ใต้ฝักบัวเสื้อผ้าก็ไม่ถอด"

"แต่ครอบครัวเกลเซอร์แค่จับไม้จับมือ และถ่ายรูปสองสามรูป แค่นั้นเอง"

"บางทีมในอังกฤษเปลี่ยนโค้ชบ่อย และนั่นสร้างอำนาจให้ผู้เล่นในห้องแต่งตัว"

"นั่นอันตรายมาก สุดท้ายก็จะกลายเป็นว่านักฟุตบอลเป็นคนบริหารทีมเอง เขาจะถือดีคิดว่าตัวเองเก่ง เรื่องคุมทีมก็คุมได้ และทำได้ดีกว่าผู้จัดการทีมด้วย"

การสร้างทีม
"ความคิดแรกสำหรับ 99 เปอร์เซ็นต์ของกุนซือใหม่ที่ได้บการแต่งตั้งคือเอาให้แน่ใจว่าจะอยู่รอด พวกเขาดึงผู้เล่นที่มีประสบการณ์เข้ามา หลายครั้งมาจากสโมสรที่เคยอยู่"

"แต่ผมคิดว่าสิ่งสำคัญอยู่ที่การสร้างโครงสร้างให้กับสโมสรฟุตบอล ไม่ใช่แค่ทีมฟุตบอล"

"คุณต้องการรากฐาน และไม่มีอะไรดีไปกว่าการเห็นผู้เล่นจากทีมเยาวชนขึ้นมาเล่นชุดใหญ่"

"นักฟุตบอลมีอยู่ 3 ประเภท หนึ่งคืออายุตั้งแต่ 30  สองคืออายุราวๆ 23-30 และสามผู้เล่นหนุ่มๆ ที่กำลังขึ้นมา"

"ไอเดียก็คือ นักฟุตบอลหนุ่มๆ พัฒนาขึ้นๆ และเล่นได้มาตรฐานเดียวกับที่ผู้เล่นที่อายุมากกว่าทำได้มาก่อน"

"สำหรับผมเรื่องที่ยากที่สุดก็คือปล่อยผู้เล่นที่เก่งมากๆ ออกไป"

"แต่หลักฐานมันเห็นชัดในสนาม ถ้าคุณเห็นความเปลี่ยนแปลง ความเสื่อมถอย คุณต้องเริ่มถามตัวเองว่าอีกสองปีข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น"

มูรินโญ่ และกวาร์ดิโอล่า...
"โจเซ่ เป็นโค้ชที่ฉลาดมาก เขามีบารมี นักฟุตบอลเล่นเพื่อเขา แถมยังหน้าตาดี"

"ผมคิดว่าผมมีอะไรแบบนั้นเหมือนกัน ยกเว้นความหล่อ"

"เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองมาก ถึงกับบอกว่า "เราจะซิวแชมป์นี้ และผมคือสเปเชียล วัน"

"จะให้บอกว่าผมจะชนะเกมนี้เกมนั้น ผมทำแบบนั้นไม่ได้แน่ อาจจะเพราะผมเป็นสกอตติชมั้ง"

"กวาร์ดิโอล่าเป็นคนที่น่าทึ่งมาก เขาเป็นผู้เปลี่ยนแปลงบาร์เซโลน่า โดยการกระตุ้นให้ทีมแย่งลูกกลับมาให้ได้ทันทีที่เสียมัน"

"พวกเขามีพรสวรรค์ แถมขยันอีก เป็นความสำเร็จที่น่าทึ่ง มีเขานักเตะบาร์เซโลน่ายิ่งเด่น"