เจาะเกราะขุมกำลัง "ปีศาจแดง" ในฉากแรกของ เดวิด มอยส์
เป็นที่ทราบกันดีว่า เดวิด มอยส์ กุนซือวัย 50 กะรัตชาวสกอตแลนด์จะเริ่มงานกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างเป็นทางการในวันที่ 1 ก.ค.นี้ ซึ่งภาระอันใหญ่ยิ่งที่รออดีตหัวเรือใหญ่ของ เอฟเวอร์ตัน อยู่ก็คือการสืบทอดตำแหน่งแม่ทัพของพลพรรค "ปีศาจแดง" ต่อจาก เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ซึ่งฝากรอยผลงานไว้ด้วยเกียรติยศมากมายจนแทบล้นตู้โชว์ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดสำหรับ มอยส์ การแปรพักตร์มาเป็นสมาชิกใหม่ของทัพอสูรแดงคือความท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดบนเส้นทางลูกหนังสายกุนซือของเขา เพราะนอกจากจะต้องพา แมนฯยูไนเต็ด ป้องกันแชมป์พรีเมียร์ลีกให้ได้แล้ว อีกเป้าหมายที่ดีกรีความยากหนักหน่วงไม่แพ้กันก็คือการไล่ล่าความสำเร็จในรายการ แชมเปี้ยนส์ ลีก ควบคู่กันไปด้วย
การจะบรรลุเป้าหมายใด ๆ ให้ได้นั้น เบื้องต้นก็ต้องมีองค์ประกอบที่พร้อมก่อน ซึ่งเกมฟุตบอลยุคปัจจุบันนอกเหนือจาก 11 คนแรกที่แข็งแกร่งแล้ว ม้านั่งข้างสนามก็ต้องเป็นตัวสนับสนุนที่ดีด้วยและมันคือการบ้านของ มอยส์ ว่าจะจัดระเบียบขุมกำลังอย่างไรต่อจากรอยเท้าที่ "เฟอร์กี้" ทิ้งไว้ โดยการเสริมทีมนั้นจะมุ่งแต่ตะบี้ตะบันซื้อไม่ได้ เพราะต้องมีความสมดุลย์ควบคู่มาด้วย
อย่างแรกเลยคือต้องประเมินวัตถุดิบที่มีอยู่ก่อนว่าส่วนไหนควรเก็บไว้ใช้งานหรือสิ่งใดควรคัดออก ซึ่งวันนี้เราจะมาชำแหละชิ้นส่วนของ ยูไนเต็ด ว่าทรัพยากรที่มีอยู่ในปัจจุบันเป็นอย่างไร โดยเริ่มที่แผงมิดฟิลด์ก่อน ...
ไมเคิ่ล คาร์ริค : หลังจากใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองมากว่า 7 ปี ในที่สุดบุรุษผู้ถูกขนานนามว่า "มร.วอลเปเปอร์" (ผู้ปิดทองหลังพระ) ซึ่งโดนประเมินค่าไว้ต่ำกว่าฝีเท้ามาโดยตลอดก็สามารถชนะใจทุกคนจนได้ โดยปีนี้ คาร์ริค คือหัวใจของแผงมิดฟิลด์ ยูไนเต็ด ผู้สูบฉีดลูกหนังจากแดนกลางแจกจ่ายให้เพื่อน ๆ อย่างมีคุณภาพและผลตอบแทนของอดีตดาวเตะ สเปอร์ส คือตำแหน่ง "นักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีแห่งถิ่น โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด" รวมถึงติดโผทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของ พีเอฟเอ แบบที่ไม่ต้องอาศัยโชคช่วย
ทอม เคลเวอร์ลี่ย์ : ฤดูกาลที่ผ่านมาถูก "ทีซี 23" ใช้เป็นเวทีแจ้งเกิดได้อย่างเต็มตัว เพราะอดีตเด็กปั้น แบร๊ดฟอร์ด ซึ่งโดนแมวมอง ยูไนเต็ด สอยตัวมาปั้นต่อตั้งแต่ 10 ขวบรายนี้สามารถสอดแทรกขึ้นเป็นสมาชิกของทีมชุดใหญ่และก้าวขึ้นติดทีมชาติอังกฤษในเวลาไล่เลี่ยกัน โดยการเล่นอย่างชาญฉลาด กอปรกับสายตาแหลมคมในการผ่านบอล ทำให้รูปร่างกะทัดรัดและส่วนสูง 175 ซม.ไม่เป็นอุปสรรคต่อการเล่นฟุตบอลสมัยใหม่สำหรับว่าที่คุณพ่อของสาวน้อย "เนวาห์" แต่อย่างใด
ชินจิ คางาวะ : นักเตะแดนอาทิตย์อุทัยอาจเปิดฉากชีวิตค้าแข้งที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ได้ไม่น่าประทับใจนัก เพราะเจ็บออดๆแอดๆมาโดยตลอดจนแทบไม่มีโอกาสลงสนาม แต่ล่าสุด คางาวะ โบกมือลาไข้เดี้ยงเด็ดขาดและเริ่มคายพิษสงออกมาให้สาวก "เร้ด อาร์มี่" ได้พอใจชึ้น โดยปีนี้อดีตตัวรุก ดอร์ทมุนด์ ลงสนามทั้งตัวจริง/ตัวสำรองรวม 26 นัด ซัดไป 6 เม็ด ซึ่งรวมถึงการตะบันแฮตทริกใส่ นอริช ด้วย แม้ที่ผ่านมาเขาจะถูกตั้งแง่เรื่องความคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่สโมสรควักให้ "เสือเหลือง" ไป แต่เชื่อเหลือเกินว่าถ้าได้รับโอกาสจาก มอยส์ น่าจะมีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นตามมาอย่างแน่นอน
รอติดตามการอัพเดท ... อันแดร์สัน : ไม่มีใครสงสัยในความสามารถของดาวเตะเมืองแซมบ้า ...
A PHP Error was encountered
Severity: Notice
Message: Undefined variable: tag_links
Filename: site/news-detail.php
Line Number: 47