ชินจิ คากาวะย้ายมาร่วมทีมภายใต้การคุมทีมของเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสันเมื่อ 12 เดือนก่อนจากโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ดาวยิงจากญี่ปุ่นมาพร้อมกับตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุกและสายตาในการส่งรวมถึงสายตาในการส่องประตู
เป็นที่รู้กันดีว่าเขาแทบไม่ถูกเลือกเลยเมื่อฤดูกาลที่แล้วและเดวิด มอยส์ไม่ได้เรียกใช้งานเขาในเกมกับลิเวอร์พูล ดังนั้นเราควรที่จะตั้งคำถามถึงมอยส์ว่า "มอยส์ควรหาบทบาทให้กับคากาวะได้แล้ว"
" ตำแหน่งไหนที่เขาเล่นแล้วมีประสิทธิภาพมากที่สุด? "
คากาวะถูกเล่นในกองกลางตัวซ้ายเมื่อฤดูกาลที่แล้ว นี่ไม่ใช่ตำแหน่งที่ดีที่สุดของเขา โดยเฉพาะในรูปแบบของทีมที่กองกลางของพวกเขายืนตำแหน่งให้กว้างและครอสส์บอลเข้าไปในกรอบ ตำแหน่งตรงกลางหลังศูนย์หน้าเบอร์ 10 (เวย์น รูนี่ย์) ของคากาวะถือว่าเป็นตำแหน่งที่ดีที่สุดของเขา ดังที่เรามองเห็น คากาวะจะสร้างโอกาสจากตำแหน่งนี้
กับความสำเร็จถึง 90% เมื่อฤดูกาลที่แล้วและความสามารถกับผู้เล่นคนอื่นๆ คากาวะมีเทคนิคมากในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุก เป็นการเล่นที่ดีที่สุด เป็นการเคลื่อนที่ในพื้นที่ตรงจุดที่เขายืนเพื่อหาช่อง ดีกว่าออกไปด้านนอก
คากาวะมักจะสร้างโอกาสในพื้นที่ที่เราคาดหวังว่าเบอร์ 10 ของเราจะเล่น แต่ในทีมชาติญี่ปุ่นเขาเล่นครบ 90 นาทีครบ 5 นัด เมื่อฤดูกาลที่แล้ว เขาเป็นตัวจริงให้กับต้นสังกัด 17 นัดแต่ถูกเปลี่ยนตัวออก 12 ครั้ง
เหตุผลของเรื่องนี้คือมีการแข่งขันในตำแหน่งนี้สูง สำหรับการชิงตำแหน่งในยูไนเต็ด เวย์น รูนี่ย์ครองเบอร์ 10 และถึงแม้ว่ามีการวิพากษ์วิจารณ์ฟอร์มการเล่นของเขาเมื่อฤดูกาลที่แล้ว เขาก็มีอิทธิพลสูงหลังจากยืนหลังโรบิน ฟาน เพอร์ซี่
สมมุติว่ารูนี่ย์ออกจากทีม คากาวะจะมีบทบาทสำคัญทันที อย่างไรก็ตามมันก็ยังคงยากที่จะบทบาทในแดนหน้า ล่าสุดแดนนี่ เวลเบ็คก็ทำผลงานคู่กับฟาน เพอร์ซี่ได้ดี จึงทำให้โอกาสของคากาวะจำกัดอยู่
" แทคติกที่เดวิด มอยส์ต้องการ "
มอยส์ได้เปลี่ยนแปลงวิธีของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดให้มากกว่าระบบ 4-4-2 ระบบนี้ไม่สนับสนุนคากาวะ ดั่งเกมกับสวอนซีและลิเวอร์พูล มอยส์ใช้งานแดนนี่ เวลเบ็คหมายถึงใช้หน้าสองตัว มากกว่าที่จะเรียกใช้งานเบอร์ 10 สำหรับคุณภาพของคากาวะ เขาไม่เหมาะกับระบบ 4-4-2 ที่ใช้หน้าสองตัวและเน้นปีกทั้งสองข้าง ซึ่งจะทำให้ยากต่อการหาบทบาทให้กับเขา
ในเกมกับลิเวอร์พูล เวลเบ็คผ่านบอลได้แค่ 27 ครั้งซึ่งน้อยกว่ารูนี่ย์และยืนยันได้เลยว่าตำแหน่งที่เขายืนถูกดันให้สูงกว่าเดิม - ในพื้นที่ไฮไลต์
เวลเบ็คใช้เวลาน้อยมากในช่วงครึ่งปีและส่วนใหญ่ใช้พื้นที่ที่สูงไม่ต่างจากโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ จากกราฟฟิกในเกม นักเตะทั้งสองคนค่อนข้างที่จะอยู่ใกล้กันนี่เป็นตัวบ่งชี้ระบบ 4-4-2 ถ้าเป็นระบบ 4-2-3-1 นักเตะอย่างคากาวะเหมาะกับระบบนี้มากที่สุด
ถ้าเราเปรียบเทียบภาพนี้กับคากาวะจากนัดที่เอาชนะนอริช 4-0 เราจะเห็นความแตกต่าง:
คากาวะใช้เวลาตรงจุดใจกลางมากไป เช่นเดียวกับต้องลดบทบาทตัวเองลง นอกจากนี้ได้เห็นว่าลูกบอลอยู่ที่เวลเบ็คมากกว่า (จากเกมสวอนซี) คากาวะผ่านบอลเฉลี่ยถึง 42 ครั้งต่อเกมเมื่อฤดูกาลที่แล้วซึ่งเป็นระดับที่ค่อนข้างสูงพิจารณาจาก 5 เกมที่ได้ลงเล่น
" ข้อสรุป "
ปัญหาของคากาวะคือเขาเป็นเสาหลักให้กับเบอร์ 10 ในขณะที่มอยส์ใช้ระบบ 4-4-2 หรือ 4-4-1-1 ซึ่งเป็นระบบที่ไม่เหมาะกับคากาวะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ารูนี่ย์มายืนทับตำแหน่งเขา รูนี่ย์เป็นเพลย์เมกเกอร์หลักและถ้าเขาไม่ได้เริ่มเป็นตัวจริง มอยส์จะเลือกใช้เวลเบ็คเท่ากับใช้หน้าสองตัว แม้ว่าคากาวะจะเล่นฝั่งซ้ายได้แต่เขาก็ไม่สามารถครองบอลหรือผ่านบอลได้ แต่เขาพยายามที่จะพาบอลไปยังจุดต่างๆบนสนาม บางสิ่งบางอย่างก็ไม่เอื้อต่อสไตล์ของผู้เล่นแมนฯ ยูไนเต็ด ผลที่ตามมา คากาวะอาจจะต้องหาโอกาสที่มีอยู่อย่างจำกัดในซีซั่นนี้ แม้เราจะเห็นคุณภาพของเขาได้อย่างชัดเจน
ขอบคุณข้อมูลจาก EuroSport
A PHP Error was encountered
Severity: Notice
Message: Undefined variable: tag_links
Filename: site/news-detail.php
Line Number: 47