ฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ

เอฟเวอร์ตัน (3) -vs- แมนฯยูไนเต็ด (8).........(18.00 น.)


สนาม : กูดิสัน พาร์ค

ราคา : แมนฯยูไนเต็ด ต่อครึ่งควบลูก


ผลการพบกันเมื่อฤดูกาลที่แล้ว

พรีเมียร์ลีก - ที่ กูดิสัน พาร์ค, เอฟเวอร์ตัน แพ้ แมนฯยูไนเต็ด 2-4 
            - ที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด, แมนฯยูไนเต็ด ชนะ เอฟเวอร์ตัน 3-0


ผลการพบกันที่ กูดิสัน พาร์ค

ฤดูกาล                       ผลการแข่งขัน
2006-2007 เอฟเวอร์ตัน แพ้ แมนฯยูไนเต็ด 2-4 (พรีเมียร์ลีก)
2005-2006 เอฟเวอร์ตัน แพ้ แมนฯยูไนเต็ด 0-2 (พรีเมียร์ลีก)
2004-2005 เอฟเวอร์ตัน ชนะ แมนฯยูไนเต็ด 1-0 (พรีเมียร์ลีก)
               เอฟเวอร์ตัน แพ้ แมนฯยูไนเต็ด 0-2 (เอฟเอ คัพ)
2003-2004 เอฟเวอร์ตัน แพ้ แมนฯยูไนเต็ด 3-4 (พรีเมียร์ลีก)
2002-2003 เอฟเวอร์ตัน แพ้ แมนฯยูไนเต็ด 1-2 (พรีเมียร์ลีก)


ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด

เอฟเวอร์ตัน
01-09-07 ชนะ โบลตัน 2-1 (เยือน) (พรีเมียร์ลีก)
25-08-07 เสมอ แบล็คเบิร์น 1-1 (เหย้า) (พรีเมียร์ลีก)
18-08-07 แพ้ เรดดิ้ง 1-0 (เยือน) (พรีเมียร์ลีก)
14-08-07 ชนะ สเปอร์ส 3-1 (เยือน) (พรีเมียร์ลีก)
11-08-07 ชนะ วีแกน 2-1 (เหย้า) (พรีเมียร์ลีก)

แมนฯ ยูไนเต็ด
01-09-07 ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 1-0 (เหย้า) (พรีเมียร์ลีก)
26-08-07 ชนะ สเปอร์ส 1-0 (เหย้า) (พรีเมียร์ลีก)
19-08-07 แพ้ แมนฯ ซิตี้ 1-0 (เยือน) (พรีเมียร์ลีก)
15-08-07 เสมอ ปอร์ทสมัธ 1-1 (เยือน) (พรีเมียร์ลีก)
12-08-07 เสมอ เรดดิ้ง 0-0 (เหย้า) (พรีเมียร์ลีก)

สภาพความพร้อมล่าสุด

เอฟเวอร์ตัน

         เดวิด มอยส์ กุนซือ เอฟเวอร์ตัน ยังต้องรอทดสอบความฟิตของ ทิม ฮาวเวิร์ด นายทวารชาวมะกัน และอดีตนายด่านทีม "ปีศาจแดง" ซึ่งได้รับบาดเจ็บนิ้วเคลื่อนระหว่างลงช่วยทีมชาติสหรัฐลงทำศึกนัดกระชับมิตรที่พ่ายให้กับ บราซิล 2-4 ไปเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมี สเตฟาน เวสเซลส์ นายทวารชาวเยอรมันพร้อมเสียบแทนอยู่แล้ว รวมไปถึงในรายของ โธมัส กราเวอร์เซ่น มิดฟิลด์พลังโคนมที่ยืมตัวมาจาก เซลติก หลังมีอาการบาดเจ็บที่ หัวเข่ารบกวน ด้วยอีกราย ซึ่งในรายหลังดูจะค่อยข้างริบหรี่

         เช่นเดียวกับ โจเซ็ป โยโบ ปราการตัวกลางทีมชาติไนจีเรียซึ่งได้รับบาดเจ็บบริเวณขาหนีบมาจากเกมที่บุกไปชนะ เรดดิ้ง 1-2 เมื่อสองสัปดาห์ก่อน จนไม่สามารถช่วยทีมชาติลงทำศึก แอฟริกัน เนชั่น คัพ 2008 รอบคัดเลือก ในเกมที่พบกับ เลโซโธ เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ก็ยังรอเช็กความฟิตอีกครั้ง แต่คาดว่าน่าจะผ่านทดสอบความฟิตได้อย่างฉิวเฉียดแต่อาจได้สตาร์ทที่ม้านั่งข้างสนามไปก่อน ขณะที่ ทิม เคฮิลล์ มิดฟิลด์ออสซี่ และ เจมส์ วอห์น หัวหอกดาวรุ่งที่ไม่สมบูรณ์ก่อนแล้วก็ยังชวดเหมือนเดิม โดยคู่หอกจะฝากความหวังไว้ที่ แอนดี้ จอห์นสัน กับ ยาคูบู ไอเย็กเบนี่ เหมือนเดิม

แมนฯ ยูไนเต็ด 

       เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กุนซือ แมนฯยูไนเต็ด คงใจชื้นขึ้นไม่น้อยเพราะ จะได้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ปีกจอมสับชาวโปรตุกีส กลับมาโชว์ลีลาลากเลื้อยให้ทีมได้อีกครั้งหลังชดใช้โทษแบน 3 เกมเป็นที่เรียบร้อยขณะที่ เวย์น รูนี่ย์ ดาวยิงตัวสำคัญ และอดีตแข้ง "ท๊อฟฟี" ซึ่งได้รับบาดเจ็บกระดูกเท้าแตกในที่ทำได้เพียงเสมอกับ เรดดิ้ง 0-0 ในนัดเปิดสนาม ก็น่าจะถูกหอบหิ้ว เดินทางไปกับผู้เล่นที่ยกพลไปเยือนกูดิสัน พาร์ค ในวันเสาร์นี้ด้วยแต่จะได้ลงหรือไม่ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินของนายใหญ่ "ปีศาจแดง" อีกที

       อย่างไรก็ตาม ดาเร็น เฟล็ทเชอร์ มิดฟิลด์ชาวสกอตต์ และ จอห์น โอเชีย กองหลังทีมชาติสาธารณรัฐไอร์แลนด์ น่าจะพลาดลงช่วยทีม เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บที่เข่ารบกวน หลังทั้งคู่ช่วยทีมชาติลงทำศึกยูโร2008 รอบคัดเลือกเมื่อกลางสัปดาห์  เช่นเดียวกับ แกรี่ เนวิลล์ แบ็กขวาจอมเก๋า, พาร์ค ชี ซอง มิดฟิลด์พลังโสม  และ เบน ฟอร์สเตอร์ นายทวารดาวรุ่ง ก็ยังชวดเหมือนเดิม ขณะที่ โอเว่น ฮาร์กรีฟ มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ ที่มีอาการบาดเจ็บที่ต้นขามาจากเกมทีมชาติ น่าจะเก็บไว้เล่นในเกมแชมเปี้ยนส์ ลีก กลางสัปดาห์มากกว่า

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะได้ลงสนาม

เอฟเวอร์ตัน : ทิม ฮาวเวิร์ด - ฟิล จากีลก้า, เลห์ตัน เบนส์, โจเซฟ โยโบ,โจลีออน เลสค็อตต์ - มิเคล อาร์เตต้า, ฟิล เนวิลล์, ลี คาร์สลี่ย์, สตีเว่น พีนาร์ - แอนดี้ จอห์นสัน, ยาคูบู ไอเย็กเบนี่

แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ - เวส บราวน์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, เนมาน ย่าวิดิช, ปาทริช เอวร่า - ไมเคิ่ล คาร์ริค, พอล สโคลส์, คริสเตียโน่ โรนัลโด้, นานี่ - ไรอัน กิ๊กส์, , คาร์ลอส เตเวซ

---

 

 จับยามสามตา :

 

         เอฟเวอร์ตัน โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าจับตามองตั้งแต่ช่วงออกสตาร์ทของฤดูกาลเป็นต้นมาจนตอนนี้ ลูกทีมของ เดวิด มอยส์สามารถรั้งอยู่ในอันดับท็อปทรีในลีกได้อย่างน่าภูมิใจพวกเขามีผู้เล่นในเกมรุกที่อันตรายและเฉียบขาด แม้ แอนดรูว์ จอห์นสันหัวหอกตัวสำคัญของทีมจะคลำเป้าไปเจอมากว่า 10 นัดก็ตาม แต่ดาวยิงตัวใหม่เอี่ยมอย่าง ยาคูบู ไอเย็กเบนี่ เข้ามาเติมเต็มศักยภาพในเกมรุกได้อย่างเหมาะเจาะหลังซัดประตูสำคัญให้ทีมในเกมที่บุกไปชนะ โบลตัน 2-1 เมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ แนวรับที่ไม่เพียงแต่เหนียวแน่นแล้ว ยังสามารถทำประตูสำคัญๆให้กับทีมได้อย่างสม่ำเสมออีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โจลีออน เลสค็อตต์ที่มักมีชื่อเป็นผู้ทำประตูอยู่บ่อยครั้ง

        ขณะที่ แมนฯยูไนเต็ด แม้ว่าฟอร์มการเล่นและเปอร์เซ็นต์การครองบอลจะดูเหนือกว่าทีมคู่แข่งแทบทุกนัดแต่นั้นก็ไม่มีความหมายอะไร เพราะเกมฟุตบอลต้องตัดสินด้วยการยิงประตูซึ่งกำลังเป็นปัญหาอย่างยิ่งของอดีตแชมป์พรีเมียร์ลีกเพราะเจาะประตูคู่แข่งไปได้เพียง 3 ลูก จาก 5 เกมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม แม้จะต้องขาด เวย์น รูนี่ย์ หัวหอกตัวหลักไป แต่การได้ หลุยส์ ซาฮา ดาวยิงเฟร้นช์แมน กลับมาล่าตาข่ายได้อีกครั้ง ก็น่าจะบรรเทาสถานการณ์ลูกกระสุนด้านของทีมได้ในระดับหนึ่ง บวกกับการได้ได้คริสเตียนโน่ โรนัลโด้ กลับมาเป็นความหวังในแนวรุกที่ฝืดเคืองของทีมก็พอจะทำให้สาวก "เร้ดอาร์มี่" พอฝากความหวังกับเกมรุกของทีมได้อีกครั้ง

         นี้เป็นเกมที่คาดเดาได้ยากไม่น้อย แต่ตอนนี้ เรามีบททดสอบจาก 5 เกมที่ผ่านมาที่ช่วยทำให้เราพอจะเห็นแนวโน้มของเกมนี้ว่าจะออกมาในทางใดเอฟเวอร์ตัน โชว์ฟอร์มได้ดี ในทางตรงข้าม ฟอร์มของ แมนฯยูไนเต็ด ยังลูกผีลูกคนคาดเดาอะไรไม่ได้ อย่างไรก็ตาม จากสถิติที่พบกัน ที่ กูดิสัน พาร์ค แมนฯยูไนเต็ดมักทำได้ดีเสมอโดยเก็บชัยได้ถึง 12 เกมจากการพบกัน 15 เกมในศึกพรีเมียร์ลีก ดังนั้น จึงเชื่อลึกๆ ว่า "ปีศาจแดง" น่าจะเบียดเอาชนะไปได้แบบปาดเหงื่อเลยทีเดียว

       
         ขณะที่ ราคา ออกมา แมนฯยูไนเต็ด ต่อครึ่งควบลูก ดูแล้ว ชักหวั่นใจในแนวรุกของ ลูกทีมเซอร์อเล็กซ์ ซึ่ง 5 เกมที่ผ่านมา ยังยิงประตูคู่แข่งแบบผลต่างได้ไม่เกิน 2 ลูกเลย ทำให้ ทางที่ดี กัดฟัน ต่อ แมนฯ ยูไนเต็ด น่าจะดีกว่า


สกอร์ที่คาด : เอฟเวอร์ตัน แพ้ แมนฯยูไนเต็ด 1-2