ป้ายว่าง

-Exclusive- "เฟอร์กี้" สิ่งที่กลัวที่สุดในชีวิตคือ...รู้ว่าพ่อกับแม่...

kapoonz 2013-11-06 16:30:07

A PHP Error was encountered

Severity: Notice

Message: Undefined variable: tag_links

Filename: site/news-detail.php

Line Number: 47

-Exclusive- เฟอร์กี้ สิ่งที่กลัวที่สุดในชีวิตคือ...รู้ว่าพ่อกับแม่...

      อดีตกุนซือปิศาจแดง วัย 71 ปี ได้บอกเล่าเหตุการณ์ที่เอ็กซ์คลูซีฟที่สุด เมื่อเขาต้องสูญเสีย อเล็กซานเดอร์ ผู้เป็นพ่อและ อลิซาเบธ ผู้เป็นแม่ ซึ่งเขาได้จัดงานรณรงค์สำหรับผู้ป่วยมะเร็ง ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาล 30 ล้านปอนด์

      เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ได้เล่าถึงผลกระทบที่รุนแรง จากการสูญเสียพ่อแม่อันเป็นที่รักจากโรคมะเร็งปอด ซึ่งเขาได้รับการสนับสนุนจากหัวหน้าแคมเปญนี้ ซึ่งจุดประสงค์ของการรณรงค์คือมุ่งเน้นไปที่การตรวจสุขภาพขั้นเริ่มต้นของโรค

      "เฟอร์กี้" ซึ่งเคยเป็นผู้จัดการทีมอะเบอร์ดีนและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สูญเสียคุณพ่ออเล็กซานเดอร์ วัย 66 ปีในปี 1979 และคุณแม่ อลิซาเบธ จากไปด้วยอายุ 64 ปีด้วยโรคเดียวกันเมื่อปี 1986

      ที่น่าตกใจคือ ร้อยละ 60 ของผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดพบว่าป่วยเป็นระยะสุดท้าย นั่นคือสายเกินไปที่จะเยียวยารักษา แต่เซอร์ อเล็กซ์ ก็ต้องการที่จะช่วยเหลือทุกวิถีทางที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้

      เขายอมรับว่า หัวใจสลาย และเขียนข้อความถึงคนอื่น ๆ ให้เตรียมตัวตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อให้พวกเขา "มีช่วงเวลาพิเศษ" กับครอบครัว

      "ผมจำได้ ผมได้รับการบอกว่าพ่อและแม่ป่วยเป็นมะเร็งปอด"

      "มันคือสิ่งที่น่ากลัวที่สุดที่คุณเคยได้ยิน"

      "แต่สิ่งที่แตกต่างจากตอนนี้ วันนี้มะเร็งปอดไม่ได้นำมาซึ่งความตาย การช่วยชีวิตคือการมอบช่วงเวลาพิเศษให้กับครอบครัวของคุณต่างหาก"

      "ผมอยากมีส่วนร่วมในการรณรงค์นี้ ในฐานะที่ผมสูญเสียพ่อแม่จากโรคมะเร็งปอด"

      "ผมรู้ว่าโรคมะเร็งส่งผลกระทบร้ายแรงต่อครอบครัว"

      "แต่มะเร็งไม่ใช่อย่างที่เคยเป็น ตอนนี้มีวิธีการรักษาที่สามารถช่วยชีวิตหรือยืดเวลาชีวิตของคุณออกไป"

      "ดังนั้น แทนที่จะทำอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ ผมอยากให้ทุกคนเป็นห่วงและตรวจร่างกายให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้"

      เซอร์ อเล็กซ์ เล่าว่าวันสุดท้ายที่แม่มีชีวิตอยู่ คือสามสัปดาห์หลังจากที่เขาได้กลายเป็นผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งทำให้เขาเสียใจมาก

      "ผมไปที่โรงพยาบาล และหมอก็ให้ผมนั่งลง เขาบอกว่าแม่ของผมเป็นมะเร็งปอด เธอจะมีชีวิตอยู่ได้อีก 4 วันเท่านั้น"

      "เขาพูดถูก แม่เสีย 4 วันหลังจากนั้น และผมคิดว่าจะทำยังไงต่อไป ผมคิดว่าช่วงสุดท้ายของชีวิตก็คือความตาย"

      เฟอร์กูสันได้พูดถึง ซานดร้า น้องสะใภ้ (น้องสาวภรรยา) เธอเสียชีวิตจากโรคมะเร็งตับอ่อนในปี 1998 เขาได้รับข่าวนี้ทางโทรศัพท์ หลังจากที่เขาโทรหาเธอ แต่เธอไม่สามารถรับสายได้ เขาจึงโทรหาแม่ของเธอ

      เขาบินกลับสกอตแลนด์ทันทีเพื่อไปอยู่เคียงข้างภรรยา

      "ผมได้ข่าวทางโทรศัพท์ ผมซื้อบ้านของแม่ผมใกล้ ๆ กับโบสถ์คาทอลิก เพราะสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชีวิตเธอก็คือคริสตจักร"

      "ผมโทรศัพท์หาเธอทุกวัน อยากรู้ว่าเธอเป็นอย่างไร และการพูดคุยกับเธอตอนนั้น ไม่มีใครให้คำตอบได้"

      เซอร์ อเล็กซ์ บอกเล่าถึงความเจ็บปวดที่ต้องสูญเสียคุณพ่อ อเล็กซานเดอร์ ซีเนียร์. ตอนที่ครอบครัวอาศัยอยู่ที่ โกวาน เมือง กลาสโกว์ เขาเล่าว่า

      "พ่อเสียตอนอายุ 66 ปี สิ่งที่แปลกคือเขาไม่สูบบุหรี่อีกเลยตั้งแต่อายุ 38 แม่ของผมเริ่มสูบตอนอายุ 14"

      "พ่อของผมป่วยตั้งแต่นั้นมา"

      "เมื่่อเขาอายุ 47 เขาเริ่มใช้ทวารเทียม และที่แย่สำหรับเขาก็คือ ไม่มีห้องน้ำในบ้านของเรา ดังนั้นเขาจึงพยายามทำความสะอาดด้วยตัวเองที่อ่างล้างหน้า"

      "สิ่งที่ยากที่สุดคือ ความกังวลในศักดิ์ศรี เขาแค่ต้องการความเป็นส่วนตัวเพื่อดูแลตัวเอง"

      "คุณเห็นเด็กผู้หญิงพวกนี้ ตอนนี้พวกเขามีแนวโน้มที่จะสูบบุหรี่ ผมคิดว่านะ"

      "ผมไม่เคยถามเขา ว่าทำไมเขาถึงลุกขึ้นมาสูบบุหรี่ มันไม่ใช่สิ่งที่ควรลำดับความสำคัญ และเมื่อผมอยากรู้ มันก็สายไปแล้ว"

      เฟอร์กูสัน มีความทรงจำในวัยเด็กที่เติบโตขึ้นมาในบ้านหลังเล็ก ๆ ที่ไม่มีห้องน้ำและรู้สึกถึงความเป็นชุมชน

      "แม่ของผมและพ่อเท่านั้นที่ช่วยกันทำงาน"

      "พวกเขาไม่เคยได้ไปเที่ยว พวกเขาไม่เคยมีส่วนร่วมในการแบ่งปันเรื่องราวที่น่าสนใจ ทั้งชีวิต พวกเขาวนเวียนกับการเลี้ยงดูครอบครัวและทำงานอย่างหนัก"

      ทางด้าน อเล็กซ์ นีล ประธานกระทรวงสาธารณะสุข เชื่อมั่นว่า การมีส่วนร่วมของเฟอร์กี้จะช่วยชีวิตคน และ นีล จะเข้าพบผู้รอดชีวิตจากโรคมะเร็งที่ศูนย์สุขภาพ เวสเตอร์ เฮลส์ ในเอดินเบิร์กต่อไป

 

 

Ads



Related Post