ทีมชาติอังกฤษในยุคของรอย ฮอดจ์สัน ประกาศรายชื่อ 28 ขุนพลที่จะอุ่นเครื่องกับทีมชาติชิลีและเยอรมัน ในวันที่ 15 และ19 พฤศจิกายนตามลำดับ
ผลงานของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดดีขึ้นมากเมื่อเทียบกับในช่วงต้นของฤดูกาล โดยล่าสุดพวกเขาไร้พ่ายมา 9 เกมติดต่อกันแล้ว ทำให้เหล่านักเตะจากค่าย "ปีศาจแดง" ถูกเรียกตัวสวมชุดทีมชาติกันเป็นแถว อาทิ ฟิล โจนส์, ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์ และเวย์น รูนี่ย์ ซึ่งวันนี้เราต้องจะพามาวิเคราะห์เป็นรายบุคคลว่า ทำไมพวกเขามีชื่อติดทีมชาติชุดนี้ และจะมีส่วนช่วยทัพ "ทรีไลอ้อนส์" ได้มากน้อยแค่ไหน
คริส สมอลลิ่ง
- ผลงานกับต้นสังกัด : บ่อยครั้งที่เขาถูกโยกไปเล่นในตำแหน่งแบ็คขวา ซึ่งเป็นงานที่ไม่ถนัดเท่าไหร่นัก เพราะโดยธรรมชาติแล้วจะรับบทเป็นปราการหลังตัวกลางเสียมากกว่า แต่ผลงานที่ออกมาถือว่าไม่เลวร้ายเลย มีเพียงจังหวะที่ต้องดวลกับแนวรุกทางริมเส้นของคู่แข่งที่มีความเร็วเท่านั้นที่ยังเป็นปัญหาอยู่เท่านั้น
- ประโยชน์ต่อทีมชาติ : ชิลีและเยอรมัน มีปีกและแบ็คที่มีความเร็วและจัดจ้านพอสมควร เรื่องจะให้เขาวิ่งประกบคงเป็นงานยากมาก สองแมตช์นี้ผู้จัดการทีมเรียกนักเตะในตำแหน่งเดียวกับเขามาหลายรายและผลงานดีกว่าเขาด้วย น่าจะเลือกผู้เล่นคนอื่นลงสนามแทนมากกว่า
ฟิล โจนส์
- ผลงานกับต้นสังกัด : กลายเป็นกำลังหลักในแนวรับของยูไนเต็ดไปแล้วสำหรับปราการหลังรายนี้ เพราะช่วงต้นซีซั่นนักเตะรุ่นเก๋าอย่าง ริโอ เฟอร์ดินานด์ และเนมานย่า วิดิช สลับกันมีอาการบาดเจ็บ จนเรียกได้อย่างเต็มปากว่าเขาสามารถยึดตัวจริงในตำแหน่งนี้ได้อย่างถาวรแล้ว
- ประโยชน์ต่อทีมชาติ : โจนส์ทำผลงานกับสโมสรได้อย่างไม่มีอะไรผิดพลาดเลย เขาโชคดีที่ ฮอดจ์สัน ไม่เรียกนักเตะรุ่นพี่ที่มีดีกรีมากกว่าเขามาในทริปนี้เลย ทำให้เจ้าตัวมีโอกาสลงสนามทั้งสองเกมเลยก็เป็นได้ ส่วนเรื่องการป้องกันประตูนั้น จะใช้การสกัดบอลที่หนักหน่วงเป็นอาวุธทำลายร้าง เพราะนั่นเป็นจุดเด่นของเขาอยู่แล้ว
ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์
- ผลงานกับต้นสังกัด : ความเลวไม่มีความดีไม่ปรากฏสำหรับดาวเตะวัย 24 ปีรายนี้ ผลงานที่โด่ดเด่นของเขาหาได้ยากมาก การสกัดแนวรุกของคู่แข่งก็ทำได้ตามมาตรฐานเท่านั้น ส่วนเรื่องเกมบุกคงไม่ต้องพูดถึงหาลูกยิงอันเฉียบคมจากแถวสองได้ยากจริงๆ
- ประโยชน์ต่อทีมชาติ : แทบจะตัดโอกาสในการลงสนามทั้งสองเกมนี้เลยก็ว่าได้ เนื่องจากผู้จัดการทีมเรียกผู้เล่นในแผงกลางมาเต็มอัตราศึก ซึ่งหากเทียบกันแล้วเขามีโอกาสเบียดลงสนามได้น้อยมาก แต่ถ้าหวังจะเป็นอะไหล่ในการลงมาเป็นตัวสำรองก็พอจะมีลุ้นอยู่ไม่น้อย
ไมเคิล คาร์ริค
- ผลงานกับต้นสังกัด : การถูกใช่งานสม่ำเสมอในปีนี้แสดงให้เห็นว่า เขาเป็นหัวใจของทีมในแดนกลางเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทำหน้าที่เป็นตัวตัดเกมเป็นหลัก บางจังหวะก็หนุนไปช่วยแนวรุกบ้าง และทั้งสองอย่างเขาสามารถทำได้อย่างไม่มีที่ติ แม้บางเกมจะมีอาการบาดเจ็บแต่เขาก็ต้องลงบู๊ก็ตาม
- ประโยชน์ต่อทีมชาติ : กองกลางรายนี้ต้องรอเช็กความฟิตอีกครั้งว่าพร้อมลงสนามในสองเกมนี้หรือไม่ หลังจากต้องฝืนลงสนามในศึกใหญ่ที่เฉือนชนะ อาร์เซน่อล 1-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หากไม่พร้อมน่าจะส่งผู้เล่นรายอื่นลงสนามแทน เพราะหากเข็นลงในเกมอุ่นเครื่อง นอกจากไม่เป็นผลดีต่อตัวนักเตะแล้ว ทีมยังไม่ได้อะไรจากสองเกมนี้ด้วย
แดนนี่ เวลเบ็ค
- ผลงานกับต้นสังกัด : เขาทำหน้าที่ได้อย่างดีในช่วงต้นฤดูกาล แต่หลังจากมีอาการบาดเจ็บบริเวณหัวเข่า ทำให้ไม่มีชื่อลงเล่นให้ยูไนเต็ดตั้งแต่เกมแบ่งแต้มกับ เซาแธมป์ตัน 1-1 เมื่อกลางเดือนที่แล้ว ยอดทำประตูจึงหยุดอยู่ที่ 2 ประตูเท่านั้น
- ประโยชน์ต่อทีมชาติ : มีข่าวออกมาว่าเขามีอาการบาดเจ็บเช่นเดียวกับไมเคิล คาร์ริค และมีแนวโน้มว่าจะไม่ได้ลงสนามในเกมอุ่นเครื่องทริปนี้ ซึ่งต้องเช็กความฟิตก่อนลงสนามอีกครั้งว่าพร้อมหรือไม่ ถ้าไม่ฟิตเต็มร้อยจริงๆคงไม่มีชื่อฟาดแข้งทั้งสองเกมแน่นอน
เวย์น รูนี่ย์
- ผลงานกับต้นสังกัด : ถือเป็นอีกปีที่เขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม จากการลงสนามในลีกทั้งสิ้น 10 นัดของเขา สามารถผลิตสกอร์ได้ถึง 5 ประตู และสร้างสรรค์โอกาสให้เพื่อนอย่างมากมาย ยิ่งเมื่อใดที่เขาได้ลงสนามพร้อมกับคู่ขาอย่าง โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ เรียกได้ว่าเป็นแนวรุกที่ทรงประสิทธิภาพที่สุดของศึกพรีเมียร์ลีกในขณะนี้เลยก็ว่าได้
- ประโยชน์ต่อทีมชาติ : ยังไงรูนี่ย์ก็เป็นตัวเลือกแรกในแนวรุกของทีมชาติอังกฤษในยุคนี้อยู่แล้ว หากไม่มีอาการบาดเจ็บมารบกวนใจเสียก่อน เชื่อว่าทั้งสองนัดกองหน้าวัย 28 ปีรายนี้จะได้ออกสตาร์ทเป็น 11 ตัวจริงอย่างแน่นอน และได้เล่นครบเวลา 90 นาทีด้วย ส่วนเรื่องการทำประตูนั้นคงต้องลุ้นอีกครั้งในสนาม
A PHP Error was encountered
Severity: Notice
Message: Undefined variable: tag_links
Filename: site/news-detail.php
Line Number: 47