นักฟุตบอลมักรู้รสชาติของสิ่งเหล่านี้อยู่เสมอ จึงไม่ต้องสงสัยว่าพวกเขาจะแต่งตัวอย่างไรเวลาลงซ้อมหรือเวลาลงสนาม หรือชอบไว้ผมเปียเหมือนเดวิด ซีแมน หรือ จะไว้หนวดเคราเหมือนกันก็ได้ แล้วแต่...

      บางครั้งก็เป็นเรื่องโชคร้ายของนักเตะ ถ้าหากว่าเกิดปวดปัสสาวะขึ้นมาต้องทำไง เพราะไม่มีเครื่องป้องกันตรงนั้นนี่! อาจจะต้องเลียนแบบ เยนส์ เลห์มันน์ ผู้รักษาประตูของอาร์เซน่อลก็ได้ ทนไม่ไหวก็นั่งยอง ๆ ปล่อยมันออกมาข้างสนามนั่นแหละ

      ต่อไปนี้คืออุปกรณ์ป้องกัน หรือ เอกลักษณ์ ที่เรียกได้ว่าเป็นเทรนด์ของนักฟุตบอล บางทีก็ต้องนั่งเกาหัวกับสไตล์ของพวกเขา มันก็มีบ้างที่น่าขัน อิอิ

10. เทปกาวคิเนซิโอ

      คุณรู้ไหม เทปกาวเหนียว ๆ ที่แกเร็ธ เบลเอามาพันรอบขาของเขานั้น เป็นเอกลักษณ์ของเขาอย่างหนึ่ง เขาพันเทปนี้วิ่งหลอกล่อ ไมค่อน ในแชมเปี้ยนส์ ลีก ประการแรกคือ พวกเขาใส่มันได้ และ ประการที่สองคือ มันไม่ผิดกฏ

      มันจะทำให้ดูเหมือนว่าเขาพร้อมสู้เต็มที่หากมีเจ้านี่แปะอยู่ด้วย เทปกาวคิเนซิโอมีฟังก์ชั่นที่ช่วยในเรื่องของการบีบกล้ามเนื้อเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ ขณะเดียวกันมันจะช่วยเพิ่มพลังงานแทนที่จะสูญเสียพลังงานไปอีกด้วย

      คุณจะเห็นได้ว่าเทปกาวคิเนซิโอ ถูกใช้โดยนักฟุตบอลชั้นนำมากมาย และแต่ละคนก็ใช้ปริมาณที่แตกต่างกันออกไป

9. ฟันยาง

      หลายปีแล้ว ที่เราเห็นนักฟุตบอลอย่าง ปีเตอร์ เคราช์, ซานโดร, โรนัลโด้ และ เอเรลโญ่ โกเมส ลงสนามพร้อมกับมีฟันยางสีขาวใข่มุกอยู่ในปากด้วย

      สิ่งสำคัญคือมันไม่ได้แค่สวมใส่เพียงอย่างเดียว แต่มันกลายเป็นแฟชั่น หลายคนมองว่าอาจจะเป็นเทรนด์ในตอนนั้น แต่ถึงอย่างไรก็ต้องพอใจในตัวเอง อย่าลืมว่าเวลามองอิเรลโญ่ โกเมส วิ่งลงสนามโดยมีฟันยางสีเขียวหรือสีเหลืองอยู่ในปากมันช่างตลก หลังจากวันนั้นเราก็ไม่เห็นเขาลงสนามอีก

      ฟันยางอาจมีประโยชน์กับนักเตะสโต๊ค บางทีพวกเขาก็ควรใส่มันลงสนามสักคนสองคน กันไว้ก่อนเวลาทีมได้ลูกฟรีคิก เพราะการเข้าปะทะของพวกเขานั้นดุดันมากเวลาอยู่บริเวณกรอบเขตโทษ  เดี๋ยวไม่ใครก็ใครอาจฟันหักได้ หรือจะให้หลุยส์ ซัวเรสใส่ก็ได้นะ จะได้ไม่ไปกัดใครเขาอีก

8.สวมถุงเท้าถึงหัวเข่า

      ในขณะที่ฟันยางมีประโยชน์(น้อย)แล้ว นักเตะหลายคนก็ดึงถุงเท้าธรรมดา ๆ ขึ้นมาถึงหัวเข่า ตลกยิ่งกว่า มันดูน่าสงสัยเหมือนกันถ้ามองไปแล้วเห็นเธียร์รี่ อองรี และ จอห์น เทอร์รี่ ใส่ถุงเท้ายาวได้อย่างสบายได้ไง ก็คงไม่น่าแปลกใจ เพราะสาวเต้นระบำเปลื้องผ้าเขาก็เต้นกันได้โดยที่ใส่ถุงเท้ายาว ๆ ( ฮ่าๆๆๆ )

      ความจริงแล้ว จอห์น เทอร์รี่ ครั้งหนึ่งเขาเคยขาหักเช่นเดียวกับนักเตะคนอื่น ๆ แต่ "เจที" ไม่ยกโทษให้หรอกนะ

7. แว่นตาเอ็ดการ์ ดาวิดส์

      อดีตนักเตะฮอลแลนด์ ปัจจุบันเป็นผู้จัดการทีมบาร์เน็ต เขายังคงไว้ผมทรงเดร็ดร็อค และ ก้าวร้าว เหมือนเดิม เขาเริ่มสร้างความป่วนด้วยการหยิบแว่นตามาใส่เพื่อเป็นอุปกรณ์ป้องกัน และสร้างสีสันเวลาลงสนาม

      เขาต้องทนทรมานจากปัญหาต้อหินที่ดวงตา จึงส่งผลต่อประสาทการมองเห็น ดาวิดส์เข้ารับการรักษาดวงตาข้างขวาเมื่อปี 1999 และได้รับอนุญาตจากหน่วยงานฟุตบอลให้สวมแว่นตาได้ ในฐานะนักฟุตบอล มันหมายถึงเขาจะไม่ได้รับการพักสายตา และในแต่ละแมตช์ที่เขาลงสนาม สีของกรอบแว่นก็ต่างออกไป รวมถึงสีของเลนส์ด้วย

      ต้องขอบคุณสวรรค์ แว่นตาไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อเขาเลย !

6. ที่หนีบจมูกของร็อบบี้ ฟาวเลอร์

      รูปร่างอย่างร็อบบี้ ฟาวเลอร์อาจจะไม่ใช่ลักษณะทางกายภาพของนักเตะระดับท็อป แต่เขาก็ทำประตูได้เสมอไม่ว่าจะอยู่ตรงไหน บางทีนี่อาจเป็นเหตุผลของความสำเร็จ เพราะเวลาเขาหนีบจมูก เขามักจะมีความพร้อมเสมอ

      ฟาวเลอร์มักจะหนีบจมูกเสมอเวลาลงสนาม มันทำให้เขาหายใจได้สะดวกขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยแก้ปัญหาการนอนกรนอีกด้วย เจ้าสิ่งนี้ทำให้เขาลงสนามเหมือนกับคนที่เคยล้มเหลวแล้วลุกขึ้นมาวิ่งอย่างบ้าคลั่ง

5. ถุงมือของปาสกาล ชิมบงด้า

      หลายคนถกเถียงกันว่า ผิดหรอที่ใส่ถุงมือลงสนามในช่วงฤดูหนาวเดือนมกราคม หลายคนบอกว่ามันจะผิดปกติถ้าใส่ถุงมือในช่วงบ่ายวันเสาร์ที่มีแดดจัดมากกว่า (นั่นคือช่วงกลางเดือนพฤษภาคม) แต่ว่า ปาสกาล ชิมบงด้า ก็ใส่เจ้านี้ในช่วงที่มีอากาศอบอุ่นได้

      แข้งเฟร้นช์แมนใส่ถุงมือทั้งสองข้าง มันทำให้เป็นที่สงสัยว่าทำไมเขาไม่เป็นผู้รักษาประตูเสียเลย อย่างน้อยก็จะได้ไม่มีข้อแก้ตัว

4. กางเกงขายาวของ กาบอร์ คิราลี่

      พวกเขามักจะพูดว่าในฐานะผู้รักษาประตู คุณบ้าหรือเปล่า แต่พวกเขาไม่พูดอย่างนั้น เพราะพวกเขาไม่จำเป็นต้องใส่ใจมาก

      ดูเหมือนว่า กาบอร์ คิราลี่ จะได้รับการจดจำ เพราะเขาตัดสินใจไม่ใส่กางเกงขาสั้นตามธรรมเนียมของผู้รักษาประตูทั่วไป เขาใส่กางเกงขายาวสีเทา เอ่อ..เขาคงคิดว่าเขาเล่นบอลอยู่ที่สวนสาธารณะหรือเปล่า

      การที่เขาเลือกใส่กางเกงขายาวนั้น เป็นเรื่องฮาของคนที่พบเห็นทั่วไป และบางคนก็คงอิจฉา เพราะมีไม่กี่คนที่ได้สวมใส่แบบนี้ มันช่วยในเรื่องของการทำงาน มันทำให้สะดวกสบายมากขึ้นนั่นเอง

      หนึ่งในไม่กี่ครั้งเมื่อเขาใส่กางเกงขาสั้น เขาปล่อยให้ลูกบอลรอดผ่านขาไปได้ เห็นได้ชัดว่ากางเกงคลุมช่องว่างและลดความเร็วของลูกบอลได้ สงสัยต้องให้โจ ฮาร์ทใส่บ้างแล้วล่ะ

3. รองเท้าคนละสีของ อัสซู-เอก็อตโต้

      พูดเลยว่ามันไม่ใช่มาตรฐานของฟุตบอลหรอกนะ มันเหมือนเป็นเรื่องของรถปอร์เช่ กับ มาเซราติ ที่ถูกขับโดย เบอร์นัว อัสซู-เอก็อตโต้ยอดอัจฉริยะ ทุกคนถึงกับงงเมื่อเขาใส่รองเท้าคนละสีข้างหนึ่งสีฟ้าข้างหนึ่งสีขาวลงสนาม

      เมื่อถามเขาเกี่ยวกับการเลือกใส่รองเท้า เขาอธิบายว่า เขาไม่ได้เป็นสปอนเซอร์ให้กับยี่ห้อรองเท้าและเขาก็เป็นเจ้าของรองเท้าเอง เขาแค่อยากจะแยกมันออกจากกัน และแทนที่ด้วยอีกข้างที่มีไซส์เท่ากันก็เท่านั้นเอง

2. ตาข่ายคลุมผม

      ในฤดูหนาวปี 2010/2011 นักฟุตบอลไม่ว่าที่ไหน ๆ ต้องประสบปัญหาความหนาวเย็นทั้งนั้น การพิจารณาให้นำ ที่ครอบผมด้านหลังแบบตาข่าย จึงแพร่ระบาดขึ้น ทางออกเดียวที่จะแก้ปัญหานี้คือการส่วมใส่มันไว้ที่คอ

      "Snood" หรือ ที่คลุมผมแบบตาข่าย กลายเป็นความบ้าคลั่งที่นิยมใส่กันทั่วประเทศและรวมถึงทีมฟุตบอลทั่วโลก มันเริ่มจะเหมือนแก๊งอะไรสักอย่าง แต่มันก็มีเจตนาดีในตัวของมัน

      ฟีฟ่าเห็นแฟชั่นนี้เริ่มตีวงกว้างมากขึ้น และลงมติเอกฉันท์ให้ Snood ไม่ปลอดภัยแก่การสวมใส่ เพราะคนที่ใส่เจ้าสิ่งนี้ได้นั้นถูกมองว่าเป็นพวกหัวขโมย มองดูแล้วน่ากลัว

1. สไปซ์ บอย ในชุดสูท การแข่งขันรอบไฟน่อลของลิเวอร์พูล

      ชุดนี้ทำเอาบรรดาสื่อมวลชนไม่พอใจ เมื่อเหล่า สไปซ์ บอย ของลิเวอร์พูลยุค 1995/1996 ประกอบไปด้วย โดมินิค มัตเตโอ, ร็อบบี้ ฟาวเลอร์, เจมี่ เร้ดแน็ปป์, สตีฟ แม็คมานามาน, สแตน คอลลีมอร์, นีล รัดด็อก และ เดวิด เจมส์ ต่างสวมชุดอาร์มานี่สีครีมในวันสุดท้ายของการแข่งขันเอฟเอ คัพ   พวกเขาเดินโชว์ตัวอยู่รอบ ๆ สนามเวมบลี่ย์ มองดูแล้วเหมือนพินโบวลิ่ง 

      หลังจากนั้นมีการเฉลยว่า ไอเดียนี้มาจากใคร คำตอบคือ เดวิด เจมส์ เป็นคนรับผิดชอบการเลือกชุด อิอิ