เดวิด เบ็คแฮม อดีตนักฟุตบอลชื่อก้องโลกยอมรับว่า เขาวิ่งตาม โรมิโอ ลูกชายวัย 11 ปีของเขาไม่ทันแล้ว

      คุณพ่อวัย 38 ปี เข้าชมพิพิธภัณฑ์ฟุตบอลนานาชาติและขึ้นเวทีพูดคุยกับแขกต่าง ๆ ที่เมืองแมนเชสเตอร์ ซึ่งงานนี้จัดโดยหนังสือเดอะ ไทม์เมื่อเย็นวันอังคาร

      เบ็คแฮมที่เกษียณจากฟุตบอลอาชีพเมื่อเดือนพฤษภาคม บอกถึงความภาคภูมิใจในตัวลูกชายคนที่สองของเขา ที่แสดงสัญญาณบางอย่างที่บ่งบอกว่าจะเจริญรอยตามคุณพ่อ ในตอนที่เขาฝึกอบรมกับสโมสรฟุตบอล

      ตำนานแมนฯ ยูไนเต็ดพูดถึงโรมิโอลูกชายว่า เขาทำกิจวัตรเหมือนเดิม เหมือนตอนที่อยู่กับทีมบิวรี่ คือตื่นตั้งแต่ 6 โมงเช้าเพื่อออกไปวิ่ง แต่เขาไม่แน่ใจว่าลูกชายของเขานั้นตื่นเองจริงหรือเปล่า เบ็คแฮมเลยไปตามวิคตอเรียภรรยาของเขา เธอบอกว่า ส่วนหนึ่งเธอเป็นคนตั้งนาฬิกาปลุกให้เอง และอีกส่วนคือลูกชายตื่นเองโดยไม่ต้องปลุก

      แต่เขาก็ไม่ได้กังวลอะไร เบ็คแฮมกล่าวว่า "พอถึงเวลา 6 โมง ผมรู้สึกว่าเหมือนมีใครมาดึงแขนและผมก็ได้ยินเสียงพูดว่า..พ่อครับ ตื่นได้แล้ว..."

      "ตอนวิ่งเขาดูน่ารำคาญมาก เขาวิ่งนำคุณก้าวนึงเสมอเลย เราวิ่งกัน 3 คน (ลูกชายทั้ง 3) ประมาณครึ่งไมล์ และไมล์ที่ 3 เขาวิ่งนำผมไป ผมนี่หายใจแทบไม่ทันแน่ะ" เดวิด เล่าต่อเนื่อง

      "เขาวิ่งนำผมตลอดทาง ดูท่าแล้วจะมีคนเทียบเคียงผมแล้วล่ะ ผมภูมิใจในตัวเขามาก ๆ "

      เดวิด เบ็คแฮม มีลูกทั้งหมด 4 คนคือ บลู๊คลิน วัย 14 ปี, โรมิโอ วัย 11 ปี, ครูซ วัย 8 ปี และหนูน้อยฮาร์เปอร์ วัย 2 ขวบ เขาหวังว่าจะเลี้ยงดูลูก ๆ ของตัวเองให้เหมือนกับ เดวิด เบ็คแฮม ซีเนียร์ คุณพ่อและ ซานดร้า เบ็คแฮม คุณแม่ของเขาเอง

      เบ็คแฮมกล่าวต่อว่า "ผมโชคดีที่พ่อผลักดันและผลักดัน เขาสนับสนุนผมมากมาย เด็กบางคนอาจตอบสนองสิ่งที่พ่อให้ไม่ดีเท่านี้ แต่ผมเป็นคนที่โชคดี เขาอ้าแขนรับผมเสมอ พ่อแม่ของผมมีจรรยาบรรณในการทำงาน ทั้งเรื่องเสียสละและอุทิศตัวเอง"

      "เวลาผมเล่นฟุตบอลกับลูก ๆ ผมอยากเอาชนะพวกเขาจริง ๆ ผมอ่อนข้อให้นิดนึงเพื่อที่พวกเขาจะได้ไปถึงจุด ๆ นั้น และให้เขาเรียนรู้ที่จะชนะ พวกเขาชนะเสมอ แน่นอนว่าพวกเขาชนะเป็นสามเท่าของผมเลยด้วย"

      นอกจากนี้ เดวิด เบ็คแฮม ได้ยอมรับว่า บลู๊คลิน ลูกชายคนโตกำลังหวังที่จะเดินตามรอยเท้าของเขาในการเป็นนักฟุตบอลอาชีพที่สวยงามเหมือนกับพ่อ ซึ่งดูเหมือนว่าเบ็คแฮมก็ไม่อยากเพิ่มความกดดันให้กับลูกชายตัวเอง    ในฐานะที่เป็นทายาทนักฟุตบอลระดับโลก อีกทั้งยังสะท้อนถึงปัญหาที่ผู้เป็นพ่อเคยเจอในฟุตบอลโลก ปี 1998  ผู้เป็นพ่อจึงรับรู้รสชาตินั้นดี