นัดนี้ต้องยกความดีความชอบให้ แดนนี่ เวลเบ็ค ไปแบบสบาย ๆ และกลบเสียงวิจารณ์จากบรรดาแฟนบอลที่ไม่ค่อยรักเขา (อิอิ) ซึ่งหลังจากออกมาประกาศว่าขอทำหน้าที่แทนโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ นัดนี้เขากด 2 ประตูให้ทีมก่อนที่ทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์จะยิงปิดท้าย จบด้วยสกอร์น่ากอด 3-0

      ครึ่งแรก ทีมเยือนเปิดเกมรุกเข้าใส่แบบไม่กลัวเจ้าบ้าน "เทพเบ็ค" องค์ลงมาตั้งแต่เมื่อคืนจบสกอร์ไปก่อนในครึ่งแรกให้กับยูไนเต็ด

      "สิงห์ผงาด" เริ่มต้นเขี่ยบอลก่อนและได้จังหวะบอลทางริมเส้นฝั่งซ้ายสถานการณ์แรกยังน่าเป็นห่วง เพราะโดนคู่แข่งบีบแทบตลอดเกม

      มาร์ค อัลไบรจ์ตัน ปีกตัวจี๊ดลงสนามเป็นตัวจริงได้โอกาสยิงทดสอบฝีมือเด เค อาใน 4 นาทีแรกในกรอบเขตโทษ แต่โกลสแปนิชยังไม่เสียสมาธิ หลังจากนั้นในนาทีที่ 6 แข้งวิลล่ารายนี้ได้ส่องประตูอีกครั้ง แต่ก็ไม่พ้นมือของผู้รักษาประตูโดนัท

      หลังจากนั้น 5 นาที ยูไนเต็ดได้จังหวะดีๆจากเวลเบ็ค เมื่อราฟาเอลสอดบอลทางด้านขวาและส่งบอลให้กับอั๊ดนาน ยานาไซ และต่อให้กับเวลเบ็ค แข้งทีมชาติอังกฤษไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอย เขาวอลเลย์เข้าไปตุงตาข่าย แมนฯ ยูไนเต็ดขึ้นนำก่อน 1-0

      เกมโดยรวมเป็นของทีมเยือน พวกเขาบวกประตูที่ 2 ได้หลังจากนั้นเพียง 3 นาทีอันโตนิโอ วาเลนเซียวิ่งบอลขึ้นมาสอดกึ่งยิงกึ่งจ่าย บอลกระดอนมาที่เวลเบ็ค ซัดประตูนี้สวนเข้าไปเป็นประตูอย่างสวยงามจริง ๆ

      ครึ่งหลัง แมนฯ ยูไนเต็ดอาจไม่จี๊ดจ๊าดเท่าครึ่งแรก แต่พวกเขาก็ทำประตูได้อีกครั้งโดยผ่านไป 6 นาทีเป็นหน้าที่ของทอม เคลฟเวอร์ลี่ย์รับปิดชอบประตูนี้ ช่วยให้ทีมนำห่าง 3-0 และถือว่าเป็นประตูแรกของเขาในฤดูกาลนี้

      เดวิด มอยส์ เปลี่ยนตัวโดยส่ง ดาร์เรน เฟลทเชอร์ ลงมาแทน ไรอัน กิ๊กส์ ใน 20 นาทีสุดท้าย

      สำหรับนัดนี้ถือว่าเป็นเกมที่ค่อนข้างดุเดือด มีการปะทะกันอย่างรุนแรง รวมถึงการปะทะคารมของนักเตะในสนาม  ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการทำฟาลว์จากเจ้าบ้าน  มีบางจังหวะที่ "ปิศาจแดง" ได้เปรียบ แต่ผู้ตัดสินไม่ให้โอกาส

      นัดนี้ถือว่าเป็นนัดแห่งความสุขอีกหนึ่งนัดของเดวิด มอยส์และลูกทีม สามารถเก็บ 3 แต้มและคลีนชีทได้ในเกมเยือน แต่แอสตัน วิลล่าก็ต้องแพ้ติดต่อกันเป็นนัดที่ 2 ของพวกเขาและสถิติเดิมจากปี 1995 ยังไม่ถูกทำลาย