หลังจากนอริช ซิตี้แพ้คาบ้านให้กับฟูแล่ม 1-2 เมื่อวันพฤหัสบดี คริส ฮิวจ์ตัน ผู้จัดการทีมจึงต้องวางแผนทีมให้รัดกุมกว่าเก่า ซึ่งเห็นได้ชัดเจนจากเกมนี้ ที่พวกเขามีเกมรับที่เหนียวแน่น แต่เสียอย่างเดียวเหมือนตามสถิตินั่นคือพวกเขายิงประตูได้น้อย หรือ ยิงไม่เป็น
เปิดเกมมา 6 นาทีเป็นทีมเยือนที่ครองบอลเหนือกว่า แต่รูปเกมโดยรวมชวนง่วงนอนอย่างที่สุด หลังจากนั้นกว่า 20 นาทีกลายเป็นเจ้าบ้านที่บีบแมนฯ ยูไนเต็ดอย่างไม่มีกลัว
ตลอดทั้งครึ่งแรก "ปิศาจแดง" แทบไม่ได้ขึ้นมาวนเวียนอยู่หน้ากรอบเขตโทษเลยเพราะถูกกองหลังของนอริช ซิตี้แพ็คเกมรับมาอย่างแยบยล จนยากที่จะเจาะเข้าไปหาจอห์น รัดดี้ ผู้รักษาประตูได้
โอกาสของเจ้าบ้านมีมากกว่า ทำให้ทีมเยือนอยู่ในสภาวะกดดัน แต่จุดอ่อนของนอริชก็มีให้เห็นเช่นกัน นั่นคือการเล่นหลายจังหวะทำให้เสียโอกาสกันไปเอง
เริ่มครึ่งหลัง เดวิด มอยส์ ไม่รอช้ารีบเปลี่ยนตัวโดยส่งแดนนี่ เวลเบ็คลงสนามมาแทนไรอัน กิ๊กส์ที่แทบจะไม่มีส่วนช่วยทีมแถมยังโดนใบเหลืองอีกด้วย ทันทีที่แข้งทีมชาติอังกฤษลงมา รูปเกมของแมนฯ ยูไนเต็ดดูมีมิติขึ้นมาทันใด
มาถึงนาทีที่ 49 แอชลี่ย์ ยังที่เล่นดีมาตั้งแต่ครึ่งแรก ก็เริ่มครึ่งหลังได้อย่างมีชีวิตชีวาเขาวิ่งผ่านกองหลังคู่แข่งขึ้นมา แต่ยังไม่สามารถสร้างโอกาสได้
นาที่ที่ 56 แดนนี่ เวลเบ็ค ก็สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการทำประตูให้ทีมขึ้นนำ 1-0 บอลจะไปโดนไรอัน เบ็นเน็ตต์กองหลังของเจ้าบ้าน และบอลก็เข้าทางเขาพอดี เวลเบ็คไม่รอช้าแตะบอลผ่านมือจอห์น รัดดี้เข้าไปตุงตาข่าย
เหลือ 20 นาที มอยส์เปลี่ยนอัดนาน ยานาไซ ลงมาลากเลื้อยแทนชินจิ คากาวะที่ยังไม่สามารถสร้างผลงานอย่างเป็นชิ้นเป็นอันได้
นาทีที่ 89 แมนฯ ยูไนเต็ดได้ลูกเตะมุม แต่ก็ยังไม่ได้โอกาสบวกประตูที่ 2 ส่วนทีมเยือนส่งโยฮัน เอลมานเดอร์ลงมาในฐานะตัวสำรองแทนที่ของเวส ฮูลาฮาน
จบเกม ฟิล ดาวน์ เป่านกหวีดหมดเวลา จบด้วยสกอร์ 0-1
A PHP Error was encountered
Severity: Notice
Message: Undefined variable: tag_links
Filename: site/news-detail.php
Line Number: 47