เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน บรมกุนซือ ชาวสกอตต์ ของทีม "ปีศาจแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เริ่มใจชื้นขึ้นบ้าง เมื่อทราบข่าวอาการบาดเจ็บของ โอเว่น ฮากรีฟส์ มิดฟิลด์ทีมชาติอังกฤษ ว่าอาจจะกลับมาลงสนามช่วยต้นสังกัดได้เร็วกว่ากำหนดการณ์ที่คาดกันไว้ราว 4 สัปดาห์ด้วยกัน

          กองกลางวัย 26 ปี ได้รับบาดเจ็บบริเวณเข่า จนต้องพลาดลงช่วยทีม "ปีศาจแดง" ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และเตรียมเข้ารับการรักษาด้วยวิถีการฉีดยาไปที่หัวเข่า ซึ่งจะทำให้เขาสามารถกลับมาฝึกซ้อมร่วมกับทีมได้ภายใน 10 วันนี้ โดยทางนายใหญ่ชาวสกอตต์ ก็ได้ออกมาเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยตัวเองว่า "มันอาจจะน้อยกว่าที่คาดการณ์กันไว้ (4 สัปดาห์) โอเว่น อาจกลับมาซ้อมได้ภายใน 10 วันนี้ ซึ่งเป็นข่าวดีมาก แต่ นั่นก็ต้องหมายความว่า การรักษาด้วยวิธีฉีดยาจะต้องประสบความสำเร็จด้วยนะ"

         อย่างไรก็ตาม แม้ว่า กุนซือวัย 65 ปี ไม่รีบเร่งให้ อดีตมิดฟิลด์ บาเยิร์น มิวนิค กลับมาลงสนามโดยเร็ว แต่เขาก็หวังว่าที่จะเห็นกองกลางผู้นี้มีชื่อในทีมที่จะเตรียมลงทำศึกกับ มิดเดิ้ลสโบรช์ ในวันที่ 27 ตุลาคม ก่อนที่จะต้องทำศึกหนักกับ อาร์เซน่อล ในสัปดาห์ถัดไปในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ ให้ได้

         สำหรับ กำหนดการณ์กลับคืนสู่ที่เร็วกว่ากำหนดของ ฮาร์กรีฟส์ น่าจะทำให้ นายใหญ่ค่ายโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ใจชื้นขึ้นมาได้บ้าง หลังต้องได้รับข่าวร้ายเมื่อ ไมเคิ่ล คาร์ริค กองกลางทีมชาติอังกฤษ ซึ่งมีข้อศอกแตกมาจากเกมที่ทีมเฉือนเอาชนะ โรม่า 1-0 ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ นัดสอง เมื่อวันอังคารที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา และต้องพักยาวถึง 6 สัปดาห์

         "มันเป็นข่าวร้ายที่ต้องสูญเสีย คาร์ริคไป หลังจบเกมนั้น ผมเข้าไปจับมือกับเขา แต่เขาไม่สามารถยกแขนของเขาได้เลย ผมรู้เลยว่าเขาต้องบาดเจ็บแน่ๆ ดังนั้น ผมจึงได้ส่งเขาไปเอ็กซเรย์ และมันก็ยืนยันชัดเจนแล้ว่า แขนเขามีอาการแตกร้าว มันเป็นอะไรที่แย่ เพราะสามเกมหลังสุด ที่พบกับ เชลซี, เบอร์มิงแฮม และ โรม่า เขากำลังทำผลงานได้ดีทีเดียว" เซอร์อเล็กซ์ กล่าวเสียดาย

          พร้อมกันนี้ กุนซือแดนวิสกี้ ยังได้กล่าวถึงแผนในการแก้สถานการณ์ยามที่ทีมต้องขาดมิดฟิลด์ตัวกลางมืออาชีพไปโดยกล่าวว่า "โชคดี ที่ผมยังคงมีหลายตัวเลือกอยู่ ผมสามารถโยกเอา ไรอัน กิ๊กส์ มาเป็นมิดฟิลด์ตัวกลาง หรือ อันแดร์สัน และ จอห์น โอเชีย ก็สามารถเล่นในตำแหน่งนี้ได้เช่นเดียวกัน ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้ มันก็ไม่ได้ย่ำแย่อย่างที่คิดหรอก"