ป้ายว่าง

เกือบ 1 ทศวรรษกับความประทับใจต่อ "เนมานย่า วิดิช"

Doosh 2014-05-08 17:20:17

A PHP Error was encountered

Severity: Notice

Message: Undefined variable: tag_links

Filename: site/news-detail.php

Line Number: 47

เกือบ 1 ทศวรรษกับความประทับใจต่อ เนมานย่า วิดิช

      ฟุตบอล พรีเมียร์ ลีก ประจำฤดูกาล 2013-14 ใกล้จะปิดฉากลงไปแล้ว แน่นอนสำหรับพวกเราสาวกผีแดงปีนี้ถือเป็นความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เมื่อผลงานไม่เป็นที่เข้าตาการเปลี่ยนถ่ายสายเลือดใหม่จึงเกิดขึ้น เนมานย่า วิดิช ยอดกองหลังชาวเซอร์เบียคือหนึ่งในกำลังสำคัญที่กำลังจะหมดสัญญาและก้าวออกจากถิ่น โอลด์แทร็ฟฟอร์ด การเสียยอดกัปตันที่ทุ่มเทเพื่อความสุขของแฟนบอลมาตลอด 8 ปีครึ่งเป็นเรื่องที่สะเทือนใจแฟนบอลหลายๆคนรวมถึงตัวนักเขียนเองด้วย ผมอยากจะย้อนรอยวันแรกที่ วิดิช ก้าวเข้าสู่รั้ว โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด และเรื่องราวที่กลายเป็นตำนานกองหลังเบอร์ 15 จนถึงวันที่เขากำลังจะยุติบทบาทของตัวเองในยูนิฟอร์มผีแดง

      ครั้งแรกที่ได้ยินชื่อ วิดิช ต้องยอมรับตามตรงว่าไม่รู้จักและเห็นฟอร์มการเล่นมากเท่าไหร่เนื่องจาก วิดิช เล่นให้กับทีมในลีกที่ไม่อยู่ในกระแสอย่าง สปาร์ตัก มอสโก การลงสนามในช่วงแรกในสีเสื้อแมนฯยูฯพูดตรงๆว่ายังไม่เห็นความเก่งหรือจุดเด่นอย่างใดอย่างหนึ่งเนื่องจาก วิดิช ถูกซื้อมาในช่วงผ่านครึ่งฤดูกาลแรกไปแล้ว การปรับตัวก็มีเวลาน้อยเกินไป อีกทั้งเป็นช่วงที่แมนฯยูฯกำลังสร้างสายเลือดใหม่ ผลงานที่ออกมาจึงไม่เป็นชิ้นเป็นอัน

      ทว่า ฤดูกาล 2006-07 เป็นปีที่ วิดิช ได้พิสูจน์ตัวเองเต็มรูปแบบเพราะสามารถเบียดคู่แข่งตอนนั้นทั้ง กาเบรียล ไฮน์เซ่, เวสต์ บราวน์, จอห์น โอเชีย และ มิเกล ซิลแวสตร์ เป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวจริงคู่กับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ก่อนจะมีส่วนสำคัญพาขุนพลเร้ดอาร์มี่กลับมาผงาดคว้าแชมป์ลีกเป็นสมัยแรกนับตั้งแต่ปี 2003

      เพียงแค่ 1 ฤดูกาลครึ่ง วิดิช ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของแมนฯยูฯจนเซอร์ อเล็กซ์ ต้องจับเขาเซ็นสัญญาระยะยาวอีก 5 ปี ซึ่ง วิดิช ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเพราะปีต่อมา (2007-08) วิดิชมีส่วนสำคัญพาทีมคว้าแชมปืพรีเมียร์ลีกเป็นสมัยที่สองติดต่อกัน อีกทั้งช่วยให้แมนฯยูฯซิวถ้วยใหญ่อย่าง ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เป็นสมัยแรกนับตั้งแต่ปี 1999

      ผลงานของ วิดิช หลังจากนั้นก็รักษามาตรฐานมาโดยตลอดและไม่เคยเสียตำแหน่งตัวจริงให้ใครอีกนับจากก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักจนได้รับความไว้วางใจจากเซอร์ อเล็กซ์ ให้สวมปลอกแขนกัปตันทีมต่อจาก แกรี่ เนวิลล์ ที่แขวนสตั๊ดไปในฤดูกาล 2010-11 สไตล์การเล่นของกองหลังรายนี้เด่นทั้งการเสียบสกัดบอลที่เด็ดขาดไม่กลัวใคร เล่นลูกกลางอากาศได้ดีมากๆจนกลายเป็นจุดแข็งในแนวรับของแมนฯยูฯ อีกทั้งยังเป็นทีเด็ดในการขึ้นไปทำประตูในลูกเซ็ตพีส การมี วิดิช อยู่ทำให้หลายปีที่ผ่านมาแมนฯยูฯแทบไม่ต้องวุ่นวายกับการหาผู้เล่นในตำแหน่งนี้เลย กองหลังที่ซื้อมาทั้งหลายก็ยังไม่สามารถเบียดยอดกัปตันรายนี้ได้

       ตลอดระยะเวลา 8 ปี 4 เดือนที่ วิดิช ไม่เคยมีเรื่องเสื่อมเสียให้สโมสรต้องหนักใจ มีแต่จะสร้างความประทับใจให้กับเหล่าสาวกผีแดงจนเป็นเรื่องเคยชิน อย่างไรก็ตามในฤดูกาล 2013-14 มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตัวผู้จัดการทีมทำให้ฟอร์มการเล่นของนักเตะผีแดงตกลงไปซึ่ง วิดิช ก็เป็นหนึ่งในนั้น ทำให้เริ่มมีการพูดถึงการเปลี่ยนแปลงทีมและปล่อยผู้เล่นจำนวนมากออกไปเพื่อสร้างขุมกำลังใหม่ ส่งผลให้ วิดิช ที่อายุเริ่มมากแล้วตัดสินใจย้ายไปค้าแข้งกับ อินเตอร์ มิลาน ทีมดังในศึกกัลโช่ เซเรีย อา

      การที่ วิดิช ย้ายไปเล่นให้กับ อินเตอร์ ในฤดูกาลหน้าเชื่อได้เลยแฟนบอลผีแดงส่วนใหญ่รับได้และเข้าใจกับการกระทำนี้ เพราะความสำเร็จรวม 15 รายการกับช่วงเวลาเกือบ 1 ทศวรรษเป็นสิ่งที่ เนมานย่า วิดิช ได้สร้างไว้ให้กับสโมสรที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้และบ่งบอกถึงความทุ่มเทที่มีมาตลอดได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้เจ้าตัวได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในตำนานกองหลังที่ดีที่สุดเท่าที่แมนฯยูฯเคยมีมา ในฐานะแฟนบอลที่เชียร์ผีแดงมาตั้งแต่เด็กรู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณกับสิ่งที่ วิดิช ทำไว้ให้ซึ่งยากจะหาผู้ใดมาแทนที่ และขอให้กัปตันสุดแกร่งของเราโชคดีกับเส้นทางที่เลือก พวกเราพลพรรค "ปีศาจแดง" จะคิดถึงคุณตลอดไป... เนมานย่า วิดิช!!!

 

Ads



Related Post