ลุ๊ค ชอว์ หนึ่งในนักเตะที่ถูกขนานนามว่าเป็นแข้งดาวรุ่งที่น่าจับตามองมากที่สุดบนเกาะอังกฤษในปัจจุบัน ได้เข้าซบแมนฯ ยูไนเต็ดเป็นที่เรียบร้อยแล้วด้วยค่าตัว 27 ล้านปอนด์ ส่งผลดาวเตะวัย 18 ปี กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นวัยเยาว์ที่ค่าตัวแพงที่สุดทันที

          หลังทีมชาติอังกฤษภายใต้การคุมทีมของรอย ฮ๊อดจ์สัน ต้องตกรอบแบ่งกลุ่มในศึกลูกหนังโลก ชอว์ ก็พร้อมที่จะเก็บกระเป๋าโบกมือลา เซาท์แฮมป์ตัน เพื่อเดินทางมาจรดปากกาเซ็นสัญญากับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดทันที ตามหลัง อังเดร์ เอร์เรร่า มิดฟิลด์ชาวสเปนที่เพิ่งชูเสื้อกับทีม "ปีศาจแดง" มาติดๆ

ชีวิตวัยเด็ก

           แข้งใหม่วัยกระเตาะของทีม "ผีแดง" ได้รับการฝึกวิชาจากศูนย์ฝึกเยาวชนของทัพ "นักบุญ" เซาท์แฮมป์ตัน ภายใต้การควบคุมของอดีตกุนซืออย่าง ไนเจล แอ็ดกินส์ และ เมาริซิโอ ปอเชตติโน่ เป็นอย่างดี

           ด้วยฝีมือที่เกินวัยไปมากจึงทำให้หนุ่มแข้งทองรายนี้ได้รับความไว้วางใจให้เป็นหนึ่งในผู้เล่น 11 ตัวจริงของทีม โดย ชอว์ ได้รับโอกาสให้ลงสนามถึง 67 นัด และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมช่วยทีม "นักบุญ" จบอันดับ 8 ของลีกสูงสุดบนเกาะอังกฤษได้สำเร็จ

          เรื่องราวของชอว์กับการโลดแล่นใน สโมสรถิ่น เซนต์ แมรี่ เริ่มต้นในปี 2004 เมื่อเขาเข้ามาคัดตัวเข้าสู่อะคาเดมี่ของทีมแดนตะวันออก หลังเพิ่งจะปล่อยตัวออกจาก "ทีมสิงโตคำราม" เชลซี ด้วยเหตุผลที่ว่าร่างกายของเขาเล็กเกินไป

          ชอว์เล่าถึงเรื่องในอดีตสมัยที่เป็นนักเตะเยาวชนของเชลซีด้วยว่า "เมื่อก่อนผมมีรุปร่างที่เล็กเอามากๆ แต่ผมจำได้ดีตอนที่ผมอายุได้ประมาณ 14-15 ปี ร่างกายของผมก็สูงใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ"

          "ผมจำแทบไม่ได้เลยว่าทำไมเชลซีถึงปล่อยตัวผมออกมา แต่สิ่งผมจำได้อย่างเดียวคือวันแรกที่ผมมาคัดตัวที่ เซาท์แฮมป์ตัน ผมได้รับโทรศัพท์สายตรงจากทางสโมรสรทันทีว่าเขาต้องการตัวผม"

          อย่างไรก็ตาม อาจจะเป็นโชคดีของนักเตะหนุ่มดาวรุ่งที่ได้เข้ารับการฝึกวิชาจากศูนย์ฝึกเยาวชนระดับโลก ที่ผลิตนักเตะระดับท๊อปคลาสมาอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เกเรธ เบล ปีกซุปเปอร์สตาร์ที่ค่าตัวแพงที่สุดในโลกของ เรอัล มาดริด ธีโอ วัลค็อต แห่งอาร์เซน่อล รวมไปถึงกัปตันทีมของทัพ"นักบุญ"เอง อย่าง อดัม ลัลลาน่า

ลงสนามครั้งแรก

           มกราคม ปี 2012 ชอว์ได้รับโอกาสให้ลงสนามเป็นครั้งแรกใน เอฟเอ คัพ รอบ 4 เกมที่เสมอกับมิลวอล ซึ่งขณะนั้นเขาเพิ่งจะมีอายุเพียงแค่ 16 ปี โดยถูกเปลี่ยนตัวให้ลงมาแทน เจสัน พันเชียน นั่นคือครั้งแรกที่ทำให้ ชอว์ ถูกจับตามองจากแฟนๆนักบุญ และหลายๆสโมสรในแชมป์เปี้ยนชิพ

          แม้โอกาสที่แบ็คซ้ายวัยกระเตาะได้ลงสนามมีเพียงน้อยนิด แต่ปราการหลังรายนี้สามารถทำให้โค้ชของทีมประทับใจในสนามซ้อมจนได้รับความไว้วางใจให้ลงเล่นเป็นตัวจริงในศึกชิงถ้วย คาร์ลิ่ง คัพ เกมที่ เซาท์แฮมป์ตัน เขี่ย สตีฟเนจ ตกรอบไปในฤดูกาล 2012/2013 โดยถือเป็นเกมแรกในฐานะผู้เล่นตัวจริงของชอว์อีกด้วย

          ไม่นาน เซาท์แฮมป์ตันก็หวนคืนสู่ ลีกสูงสุดของเกาะอังกฤษอีกครั้ง และถือเป็นโอกาสที่ดีของ ลุก ชอว์ เพื่อที่จะสัมผัสบรรยากาศของลีกที่ขึ้นชื่อว่าแกร่งที่สุดในโลก โดยในฤดูกาลนี้ ชอว์ ได้ลงสนามในฐานะตัวจริงของทีมถึง 28 นัด ช่วยสโมสรถิ่น เซนต์ แมรี่ รอดตกชั้นได้อย่างยอดเยี่ยม

          ซีซั่น 2013/14 ถือเป็นฤดูกาลที่ทำให้เจ้าหนูคนนี้แจ้งเกิดได้อย่างแท้จริง หลังได้รับความไว้วางใจให้ลงสนามเป็นตัวจริงถึง 41 นัดรวมทุกถ้วย และพลาดการเล่นในพรีเมียร์ ลีก เพียงแค่ 3 เกมเท่านั้น

          บางทีการลงสนามของหนุ่มน้อยคนนี้อาจเป็นผลให้ เซาท์แฮมป์ตัน กลายเป็นทีมชั้นนำบนเกาะอังกฤษ ด้วยการจบอันดับ 8 ของตารางพรีเมียร์ ลีก และตามหลังทีมอัน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้นสังกัดใหม่ของเขาเพียงแค่ 8 เเต้มเท่านั้น

เกียรติยศในเกมทีมชาติ

          ชอว์เพิ่งจะประเดิมสนามให้กับทัพ "สิงโตคำราม" เป็นเกมแรกเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา จากนัดกระชับมิตรกับทีม "โคนม" เดนมาร์ก แบ็กซ้ายพรสวรรค์ได้ออกมาให้สัมภาษณ์หลังจบเกมว่า "ว้าวว ผมเพิ่งจะอายุ 18 เองนะ แต่ผมได้เล่นพรีเมียร์ลีกไปแล้วกว่า 50 นัด และตอนนี้ผมติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ มันเป็นสิ่งที่ยากมากที่นักเตะอายุ 18 จะมาคุยโม้แบบที่ผมทำได้ ผมสุดแสนจะภูมิใจเลยทีเดียว"

          จากฟอร์มการเล่นอันร้อนแรงราวกับเป็นแข้งดังระดับโลก ทำให้ รอย ฮ๊อดจ์สัน เรียกแบ๊คซ้ายหนุ่มน้อยวัย 18 ปีคนนี้ เข้ามาเป็นแทนที่ แอชลี่ โคล เพื่อลงสนามลุยศึกมหากาพย์ลูกหนังโลกที่ บราซิล
โดยการติดทัพ"สิงโตคำรามของ ชอว์ ถือเป็นนักเตะที่เด็กที่สุดรายที่ 3 ต่อจาก ธีโอ วัลค็อต ( 17 ปี ) และไมเคิ่ล โอเว่น ( 18 ปี )

          แม้ว่า ชอว์จะตกเป็นตัวสำรองของ เลย์ตัน เบนส์ ปราการหลังมากประสบการณ์ของ เอฟเวอร์ตัน ในเกมที่ทัพ"ทรีไลอ้อนส์"ต้องพ่ายให้กับ อิตาลี และ อุรุกวัย ก่อนที่กองหลังวัย 18 ปี จะได้รับโอกาสให้ลงสนามเป็นตัวจริงกับในเกมสุดท้ายที่ต้องดวลแข้งกับ คอสตาริก้า จ่าฝูงของกลุ่ม ซึ่งในเกมนี้ชอว์ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเล่นของเขาด้วยการผนึกกำลังกับ ฟิลด์ โจนส์ และคริส สมอลลิ่ง เก็บคลีนชีทได้สำเร็จ และตอนนี้ ชอว์ ได้กลายเป็นความหวังของคนอังกฤษทั้งประเทศว่าจะนำความสำเร็จมาสู่ทัพ "สิงโตคำราม" ในทัวนาเม้นต์ชิงจ้าวยุโรปอีก 2 ปีข้างหน้า

          ริ๊คกี้ แลมเบิร์ต หัวหอกร่างโย่ง อดีตเพื่อนร่วมทีมของแข้งวัยกระเตาะได้ออกมากล่าวว่า "เมื่อลุ๊คอยู่ในสนาม เขาทำให้เพื่อนร่วมทีมทำอะไรได้ง่ายไปหมด เขาได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาทำอะไรได้บ้าง ถึงแม้จะเป็นระยะเวลาอันสั้นๆก็ตาม เค้าสมควรได้รับโอกาสให้เป็นตัวจริง เรารู้สึกสบายใจหากมีเขาอยู่ในสนาม ชอว์เป็นผู้เล่นที่ครบเครื่องเอามากๆ"

          แลมเบิร์ต ทิ้งท้ายด้วยว่า"มีผู้เล่นเพียงไม่มีคนเท่านั้นที่จะสามารถผ่านเขาไปได้ ขนาดปีกที่ว่าดีที่สุดในอังกฤษก็ยังไม่สามารถผ่านเขาไปได้ หากไม่บอกคงไม่เชื่อว่าเจ้าปราการหลังจอมถึกคนนี้อายุแค่ 18 ปีเท่านั้น"