ฟุตบอล อินเตอร์ เนชั่นแนล แชมเปี้ยนส์ คัพ
แมนฯยูฯ (อังกฤษ) -vs- เรอัล มาดริด (สเปน) ... (03.06 น.)
สนาม : มิชิแกน สเตเดี้ยม
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
06/03/13 แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้ เรอัล มาดริด 1-2 แชมเปี้ยนส์ ลีก
14/02/13 เรอัล มาดริด เสมอ แมนฯ ยูไนเต็ด 1-1 แชมเปี้ยนส์ ลีก
23/04/03 แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ เรอัล มาดริด 4-3 แชมเปี้ยนส์ ลีก
08/04/03 เรอัล มาดริด ชนะ แมนฯ ยูไนเต็ด 3-1 แชมเปี้ยนส์ ลีก
ฟอร์ม 5 นัดล่าสุด
แมนฯยูไนเต็ด
30/07/14 เสมอ อินเตอร์ 0-0 , ชนะจุดโทษ 5-3 (กลาง) แชมเปี้ยนส์ คัพ
27/07/14 ชนะ โรม่า 3-2 (กลาง) แชมเปี้ยนส์ คัพ
24/07/14 ชนะ แอลเอ กาแล๊กซี่ 7-0 (กลาง) อุ่นเครื่อง
11/05/14 เสมอ เซาท์แฮมป์ตัน 1-1 (เยือน)
07/05/14 ชนะ ฮัลล์ 3-1 (เหย้า)
เรอัล มาดริด
30/07/14 แพ้ โรม่า 0-1 (กลาง) แชมเปี้ยนส์ คัพ
27/07/14 เสมอ อินเตอร์ 1-1 (กลาง) แชมเปี้ยนส์ คัพ
25/05/14 เสมอ แอต.มาดริด 1-1 (กลาง) แชมเปี้ยนส์ ลีก
17/05/14 ชนะ เอสปันญ่อล 3-1 (เหย้า)
12/05/14 แพ้ เซลต้า บีโก้ 0-2 (เยือน)
สภาพความพร้อมล่าสุด
หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือดัตช์ตั้งเป้าให้ลูกทีมเก็บชัยชนะในวันนี้ให้ได้แม้ว่าต้องเจอทีม แกร่งที่สุดในกลุ่มอย่าง เรอัล มาดริด แนวรับผีแดงเกมนี้มีเปลี่ยนแน่นอน 1 ตำแหน่งเนื่องจาก คริส สมอลลิ่ง มีอาการบาดเจ็บระหว่างการซ้อมเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา คาดว่า ไมเคิล คีน อาจจะได้ลงมาเป็นสามประสานร่วมกับ อีแวนส์ และ ฟิล โจนส์
ทางด้านแผงห้องเครื่อง ท็อม เคลฟเวอร์ลี่ย์ ที่ออกสตาร์ทเป็นสำรองในนัดที่แล้วน่าจะได้โอกาสลงมาคุมแดนกลางร่วมกับ เอร์เรร่า ที่ยึดตำแหน่งตัวจริงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่วิงแบ็กด้านซ้าย ลุ๊ค ชอว์ คงได้ประเดิมนาทีแรกก่อนแต่ครึ่งหลังอาจจะต้องถอดเอา แอชลี่ย์ ยัง มาเสียบแทน โดยกลางรุก ฆวน มาต้า ยืนประจำการพร้อมป้อนบอลให้คู่ศูนย์หน้า เวย์น รูนี่ย์ และ แดนนี่ เวลเบ็ค เช่นเดิม
ส่วนทีมราชันชุดขาว โอกาสในการผ่านไปเล่นในรอบชิงหมดลงไปแล้วหลังจากที่ทีมพลาดท่าพ่าย โรม่า 0-1 ในเกมนัดที่สองของรอบแบ่งกลุ่ม ส่งผลให้มีเพียง 2 แต้มตามหลังแมนฯยูฯจ่าฝูงถึง 4 แต้มยังไงก็หมดสิทธิ์คว้าแชมป์กลุ่มแน่นอน
เมื่อไม่มีอะไรต้องลุ้นแล้ว คาร์โล อันเชล็อตติ เทรนเนอร์จึงตัดสินใจได้ง่ายด้วยการตัดชื่อของ โรนัลโด้ ออกจากทีมเรียบร้อย หลังจากที่เจ้าของรางวัล บัลลง ดอร์ อยู่ในช่วงเรียกความฟิตหลังจากเพิ่งหายจากอาการบาดเจ็บ โดยเจ้าตัวแยกซ้อมอยู่ในขณะนี้และจะเข้าร่วมกลุ่มอีกครั้งหลังจากที่กลับไป สเปน
อย่างไรก็ตามขุมกำลังภาพรวมของ "ราชันชุดขาว" ไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก แกเร็ธ เบล ที่เล่นแบบชิวๆแต่มีประสิทธิภาพจะนำทัพลงสนามแน่นอน โดยมีคู่หูอย่าง ลูก้า โมดริช ช่วยเดินเครื่อง ขณะที่ตำแหน่งผู้รักษาประตู ดีเอโก้ โลเปซ จะได้โอกาสลงเฝ้าเสาบ้าง ส่วนตำแหน่งแบ็กซ้าย ฟาบิโอ โคเอนเตรา ออกจากทีมไปเรียบร้อยแล้วเนื่องจากภรรยาเพิ่งคลอดลูก พื้นที่นี้คาดว่าจะเป็น อัลบาโร่ อาร์เบลัว ที่รับงานไป
รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯยูฯ (3-4-1-2) : ดาบิด เด เคอา - ฟิล โจนส์, จอนนี่ อีแวนส์, ไมเคิล คีน - อันโตนิโอ บาเลนเซีย, ท็อม เคลฟเวอร์ลี่ย์, อันเดร์ เอร์เรร่า, ลุ๊ค ชอว์ (แอชลี่ย์ ยัง) - ฆวน มาต้า (ชินจิ คากาวะ) - เวย์น รูนี่ย์, แดนนี่ เวลเบ็ค (ชิชาริโต้)
เรอัล มาดริด (4-3-3) : อีเกร์ กาซิยาส - ดานิเยล การ์บาฆัล, เปเป้, เซร์กิโอ รามอส, อัลบาโร่ อาร์เบลัว - ชาบี อลอนโซ่, นาโช่ เฟร์นันเดซ, อาเซียร์ อิยาร์ราเมนดี้ - ลูก้า โมดริช, แกเร็ธ เบล, อิสโก้
ทรรศนะ
เกมนี้เหมือน อันเช ไม่ได้เน้นให้นักเตะเล่นกันเต็มที่เท่าไหร่เนื่องจากทีมไม่มีลุ้นเข้ารอบ แล้ว ขณะที่ขุมกำลังก็แหว่งไปจากเดิม ต่างกับแมนฯยูฯที่ดูมุ่งมั่นต่อเนื่อง นักเตะในทีมก็เล่นกันเอาจริงเอาจังเพราะต้องพิสูจน์ตัวเอง ทางด้าน ฟาน กัล เองก็บอกชัดเจนว่าเกมนี้ต้องสามแต้มสถานเดียว ฉะน้้นเรื่องการเดินเกมคงแตกต่างกัน เกมรุกผีแดงเกมนี้น่าจะแรงเหมือนเดิมและได้เจอกองหลังชุดไม่ฟูลทัพแบบนี้เจาะเพลินแน่ แรงจูงใจเกมนี้ต่างกันมาก อีกทั้งความมุ่งมั่นและสมาธิของเกมก็อยู่ที่ขุนพล "เร้ด เดวิลส์" มากกว่า ฉะนั้นแมนฯยูฯดูดีกว่าในวันนี้
ผลที่คาด : แมนฯยูฯ ชนะ 1-0 หรือ 2-1