ป้ายว่าง

สกู๊ปพิเศษ : อะไรทำให้"ยูไนเต็ด"กลับมาดุดันได้ขนาดนี้ ??

lnwyok69 2014-09-15 11:44:06 อันเดร์ เอร์เรร่า, ดาลี่ย์ บลินด์, ฟาน กัล, แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
สกู๊ปพิเศษ : อะไรทำให้ยูไนเต็ดกลับมาดุดันได้ขนาดนี้ ??

       หลังสิ้นเสียงนกหวีดยาวที่โอลด์ แทรฟฟอร์ดเมื่อคืนนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถล่ม ทีมเยือน ควีนปาร์ค เรนเจอร์ 4-0 จากชัยชนะในนัดนี้เราได้เห็นยูไนเต็ดในแบบที่เราไม่เคยเห็นมานานเเล้วถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาเสียที อะไรทำให้ผีแดงกลับมาดุดันได้ถึงขนาดนี้เราจะมาลองวิเคราะห์กันดูนะครับ

      1.ระบบ3-5-2 เหมาะกับทีมที่เน้นเกมรับ

      ยูไนเต็ดเปิดเกมด้วยระบบ 4-3-3 ซึ่งเหนือความคาดหมายพอสมควรจากไลน์อัพที่ประกาศก่อนเริ่มเกม  ระบบ 3-5-2 มันไม่เวิร์คเอาเสียเลยในเกมที่ต้องการเปิดเกมบุกเพื่อคว้ามสามแต้มจากทีมเล็กๆ โอเคหลายท่านอาจจะเเย้งว่า ระบบ 3-5-2 พาทีมชาติฮอลแลนด์คว้ามอับดับ 3 ในฟุตบอลโลก แต่อย่าลืมนะครับยามที่ฮอลแลนด์เจอกับทีมเล็กๆ(ออสเตรเลีย,คอสตาริก้า) พวกเขากลับเจาะไม่เข้าและถึงแม้จะชนะก็ชนะอย่างหืดจับไปเสียทุกที ซึ่งมันสวนทางกันกับเวลาพวกเขาเจอทีเจอทีมอย่าง บราซิล หรือ สเปน ที่ฮอลเเลนด์ดักสวนกลับและเผด็จศึกไปได้อย่างขาดลอย

      2.ฟาน กัล ยอมลดทิฐิตัวเองเสียที

      ด้วยคาแร็คเตอร์ที่ดูเป็นคนจริงจัง และมีความมั่นใจในตัวเองสูง จึงเป็นเรื่องแปลกที่กุนซือชาวดัตช์ยอมลดทิฐิของเขาลงได้ และผลตอบแทนก็อย่างที่เห็นๆกัน ระบบหลัง 4 ตัว ทำให้การครองบอลเพิ่มขึ้นอย่าเห็นได้ชัด จังหวะวิ่งตัดหลังของแบ็คขวาและซ้ายมีให้เห็นตลอดเวลา และที่สำคัญ การเข้าทำแต่ละครั้งดูมีจินตนาการและรวดเร็วขึ้น ก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะกองหลังเจ็บหรือเปล่า ฟาน กัล ถึงได้ปรับมาเล่นระบบนี้แฟนๆอย่างเราก็ได้แต่ภาวนาว่าบอสจะเห็นอะไรในเกมนี้บ้าง เพราะผมว่าแผนกองหลัง 4 ตัวมันเหมาะกับเรามากๆในเวลานี้

      3.อังเคล ดิ มาเรีย ตัวเดียวเสียวทั้งลีก

      ไม่ต้องพูดอะไรมากมายถึงคุณภาพของนักเตะคนนี้ เมื่อคืนเห็นได้ชัดว่าเมื่อเขาได้ดวล 1-1 กับคู่แข่ง น้อยครั้งมากที่เขาจะเลี้ยงไม่ผ่าน เห็นฟอร์มการเล่นของ ดิ มาเรีย โดดเด่นขนาดนี้ก็พอโล่งใจเรื่องการปรับตัวไปได้บ้าง แต่ที่แน่ๆเลยหลังจากนี้หากนักเตะใหม่ปรับจูนเข้ากับนักเตะเก่าๆได้ เราจะได้เห็นสปีดเกมที่เร็วขึ้น และการเข้าทำที่ได้น้ำได้เนื้อไม่ใช่โยนบอมบ์วัดดวงอีกต่อไป

      4.บลินด์-เอร์เรร่า จับคู่กันอย่างลงตัว

      ชัดเจนแล้วว่า บลินด์ เหมาะกับตำแหน่งกองกลางมากที่สุดตามที่ แฟรงค์ เดอ บัวร์ เจ้านายเก่าของบลินด์บอกมา บลินด์ก้าวเข้ามาเป็นตัวปิดทองหลังพระอย่างแท้จริงสำหรับเกมเมื่อคืน น้อยครั้งมากที่เขาจะขึ้นไปอยู่บริเวณกรอบเขตโทษของคู่แข่ง สิ่งที่เขาทำคือคอยยืนอยู่หน้ากองหลังและทำลายเกมของคู่ต่อสู้ และนั่นคือสิ่งที่ยูไนเต็ดขาดมาตลอด เมื่อบลินด์คอยตัดเกมให้ อันเดร์ เอร์เรร่า ก็ฉายแสงขึ้นมาทันทีในตำแหน่งตัวคุมเกม บอลสั้นและยาวที่แม่นยำสร้างโอกาสเข้าทำได้ตลอดทั้งเกม แม้จะเป็นเกมที่เจอกับทีมเล็กเเต่ มิดฟิลด์คู่นี้สอบผ่านฉลุย

      แม้จะเป็ยชัยชนะที่สวยงามและน่าพอใจเป็นอย่างมาก แต่ก็อย่าลืมเช่นกันนะครับหนทางยังอีกยาวไกล สิ่งสำคัญที่สุดในเวลานี้คือเราเริ่มมีสัญญาณดีๆบ้างเเล้ว ผมเชื่อว่าแฟนๆทุกคนคงหวังเหลือเกินว่าฟอร์มการเล่นที่เดินหน้าฆ่าไม่เลี้ยงและบุกจนกว่าเสียงนกหวีดยาวจะดังเหมือนที่เราได้เห็นในเกมนี้จะสถิตย์อยู่จนจบฤดูกาล และถึงตอนนั้นเราค่อยมาดูกันอีกทีว่าเร็วไปหรือป่าวที่หลายคนตัดชื่อ "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" ออกจากทีมลุุ้นแชมป์ในปีนี้ !!

Ads



Related Post