ฟีฟ่า ได้คาดหวังไว้ว่าผลการตัดสินใจจะสามารถสรุปออกมาได้ภายในวันพรุ่งนี้ เกี่ยวกับหัวข้อการเปลี่ยนระบบการหมุนเวียนการจัดรายการ ฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ระหว่างทวีป

        การตัดสินใจครั้งนี้จะทำให้เป็นการเปิดโอกาสให้กับประเทศ อังกฤษ ในการยื่นข้อเสนอขอเป็นเจ้าภาพในปี 2018 แต่ก็ถือว่าไม่ง่ายนักเนื่องจากยังมีคู่แข่งสำคัญๆอีกหลายประเทศ เช่น รัสเซีย, จีน, ออสเตรเลีย, อเมริกา หรือ เม็กซิโก รวมไปถึงกลุ่มประเทศ เบเนลักซ์* ที่ประกอบด้วยประเทศ เบลเยี่ยม, เนเธอร์แลนด์ และ ลักแซมเบิร์ก

       บอร์ดบริหารของ ฟีฟ่า จะทำการจัดประชุมหารือกันที่เมือง ซูริกส์ ประเทศ สวิสเซอร์แลนด์ในวันนี้ (29 ตุลาคม) โดยมีหัวข้อการประชุมอีกหลายเรื่อง รวมไปถึงการให้มีตัวแทนมากกว่าหนึ่งประเทศในทวีปเดียวกันสามารถร่วมขอสิทธิเป็นเจ้าภาพได้

        ภายใต้ระบบการหมุนเวียนที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ฟุตบอลโลกครั้งที่จะถึงนั้นจะไปจัดที่ทวีป แอฟฟริกา ในปี 2010 (ประเทศแอฟฟริกาใต้ ได้สิทธิในการจัดการแข่งขัน), ทวีปอเมริกาใต้ ในปี 2014 และหากระบบการหมุนเวียนนี้ยังคงใช้อยู่ เจ้าภาพในปี 2018 จะมาจากประเทศในแถบ อเมริกาเหนือ และ อเมริกากลาง หรือ ประเทศในแถบ แคริเบี้ยน

        อย่างไรก็ตามประธานใหญ่ ฟีฟ่า เซบพ์ แบล็ตเตอร์ กำลังวิตกกังวลเกี่ยวกับรายของ บราซิล ที่ตอนนี้เป็นเพียงประเทศเดียวที่เสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพในแถบทวีป อเมริกาใต้ และรู้สึกลังเลในการให้ความช่วยเหลือสนับสนุนเนื่องจากมีเพียงประเทศเดียว

        แบล็ตเตอร์ กล่าวว่า "ความคิดผมก็คือ เราควรที่จะเปิดตลาดให้กว้างขึ้น และทำให้การแข่งขันฟุตบอลโลกได้เป็นส่วนหนึ่งของทุกๆคน ยกเว้นกลุ่มประเทศในทวีปที่เพิ่งจัดการแข่งขันไป นั่นก็หมายความว่า ประเทศในทวีปอเมริกาใต้จะไม่สามารถเสนอตัวขอเป็นเจ้าภาพได้ในปี 2018 นั่นเอง"

        แต่ทางประธาน ฟีฟ่า เองก็ต้องเข้าหารือกับกลุ่มประเทศหลัก 23 ประเทศสมาชิกในการทำความเข้าใจ และตกลงกันในเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง เพื่อหาข้อสรุปให้ได้เสียที