สวัสดีครับแฟนปีศาจแดงทุกท่าน คืนนี้เเล้วนะครับจะเป็นคืนที่ ยูไนเต็ด จะต้องออกไปทำศึกแมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ ด้วยการไปเยือน แมนฯ ซิตี้ ที่ เอติฮัด สเตเดี้ยม
งานนี้ก่อนแข่งหลายท่านคงหนักอกหนักใจพอสมควรเนื่องจากสถิติ 2-3 ปีหลังมานี้รู้สึกว่า "เพื่อนบ้านที่น่ารำคาญ" จะทำได้ดีกว่า ยูไนเต็ด ได้อย่างชัดเจน อย่างที่รู้กันการเจอกัน 6 เกมหลังสุดเป็นเรือใบสีฟ้าที่คว้าชัยชนะไปได้ถึง 5 เกมเลยทีเดียว
เหล่านักเตะผีแดงและทีมสต๊าฟต้องปลุกใจกันชุดใหญ่แล้วล่ะครับ หลายนัดหลังที่ได้ชมการดวลแข้งของทั้งคู่ เหมือนไม่ใช่แค่คุณภาพนักเตะของเราเท่านั้นที่สู้ไม่ได้ แต่ดูเหมือนเรื่องสภาพจิตใจเองก็เป็นอีกปัญหาหนึ่ง สังเกตจากการลงเล่นและความกระตือรือร้นเหมือนนักเตะผีแดงพร้อมจะลงไปมอบคะแนนให้คู่แข่งอย่างไรก็ไม่รู้ เหมือนว่าสปิริตแห่งผู้ชนะนั้นหายไปพร้อมๆกับชายที่ชื่อว่า อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน
เอาเถอะครับ อดีตก็ผ่านมาเเล้ว อนาคตก็ยังมาไม่ถึง เราจัดการอะไรกับมันไม่ได้หรอก มีแต่เรื่องปัจจุบันเท่านั้นที่เราจะสามารถกำหนดทิศทางของมันได้ ปีนี้เราก็ได้แต่หวังว่า โค้ชใหม่ แท็คติกใหม่ และผู้เล่นใหม่ๆ จะเข้ามาแก้ไขปัญหาการแจกเเต้มในเกมบิ๊กแมตช์ที่เป็นมาตลอดในระยะหลัง
เราเห็นอะไรบ้างจากการแจกแต้มกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ตลอด 2-3 ปี มานี้ เราจะลองยกตัวอย่างมาให้ดูกันครับ
1. วันที่ 23/10/11 เกม 1-6 ฟ้าผ่ากลางโอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นเกมที่ค่อนข้างยับเยินยู่ยี่ของจริงนะครับเกมนี้ ต้องยอมรับซิตี้ในตอนนั้นแข็งแกร่งเหลือเกิน ณ เวลานั้น ยายา ตูเร่,ดาบิด ซิลวา,มาริโอ บาโลเตลลี่ และ กุน อเกวโร่ เหมือนนัดกันองค์ลงจริงๆ แนวรับของยูไนเต็ด ณ ตอนนั้นหมดปัญญาจะต้านทานได้เลย แต่สิ่งที่น่าผิดหวังคือนอกจากในเกมรับจะโหลยโท่ยแล้ว ในเกมรุกยูไนเต็ดแทบไม่ได้ทำอะไรให้ระคาย โจ ฮาร์ทได้เลย มีเพียงลูกยิงเหนือความคาดหมายของ ดาร์เรน เฟล็ทเชอร์ เท่านั้นที่เป็นความประทับใจเดียวในเกมนี้
2. วันที่ 26/03/14 โดนบุกมาฝังคาบ้านอีก 0-3 เป็นเกมที่แสดงให้เห็นถึงสภาพจิตใจของนักเตะปีศาจแดงอย่างแท้จริง ถ้ายังจำกันได้ ณ เวลาในตอนนั้นยูไนเต็ดต้องคว้า 3 แต้มเท่านั้นเพื่อมีลุ้นโควต้าแชมเปี้ยนส์ลีก แต่เมื่อถึงเวลาลงสนามไม่ถึง 1 นาทีก็โดนซิตี้บุกมานำไปก่อน ... สุดท้ายนำไปสู่ความพ่ายแพ้ 0-3 แบบสู้ไม่ได้อีกตามเคย และเหล่านักเตะผีแดงไม่ได้แสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะคว้าชัยชนะให้แฟนได้เห็นเลยในเกมนั้น
3. วันที่ 22/09/13 ยูไนเต็ด บุกไปถึงถิ่น เอติฮัด สเตเดี้ยม และโดนสอนบอลกลับมาอย่างชอกช้ำด้วยสกอร์ 1-4 โดยที่ทั้งเกมเป็นการสนุกฝั่งเดียวของแมนฯ ซิตี้ จริงๆ พวกเขาฉีกแนวรับของปีศาจแดงจนเปื่อยยุ่ย เป็นอีกครั้งที่โดนนำไปตั้งแต่ต้นเกมแล้วออกอาการ"ใจเสาะ" ซิตี้บุกเเล้วบุกอีกในขณะที่ยูไนเต็ดทำได้เพียงแค่สาดบอลไปให้พ้นหน้าประตู ชัดเจนไหมครับ ?? เรื่องความมุ่งมั่นที่จะชนะของทั้งสองทีม เกมนั้นมีประตูปลอบใจจากฟรีคิกของเวย์น รูนี่ย์ ในช่วงท้ายเกม แต่ก็สายเกินไปที่จะกลับมาสู่เกมซะเเล้ว
อย่างที่เห็นจากที่ยกตัวอย่างไปนะครับ ในเกมดาร์บี้แมตช์ที่มีความกดดันนั้นสูงมาก แท็คติกอาจจะสำคัญก็จริง แต่สภาพจิตใจนั้นมันสำคัญยิ่งกว่า เพราะในเกมแบบนี้มันออกได้ทุกหน้า คุณอาจจะโดนนำไปก่อนตั้งแต่ต้นเกม หรือ โดนนำขาดลอยไปตั้งแต่ครึ่งแรก มันก็เหลือแค่สองทางเลือกระหว่าง "ปล่อยๆมันไปเถอะยังไงก็ตามไม่ทันเเล้ว" หรือ "เห้!! ถ้าคิดว่าแพ้แล้วเราจะลงสนามต่อไปเพื่ออะไร เค้ายิงเราได้เราก็ต้องยิงเขาได้เหมือนกัน เอาหน่อยเว้ย !!"
คุณคิดว่าอะไรสำคัญกว่ากันระหว่าง แท็คติกของกุนซือ กับ สภาพจิตใจขอนักเตะ ? ฝากไว้เท่านี้แหละครับ :D