เขาอาจจะไม่เคยพาทีมชาติอังกฤษประสบความสำเร็จ และก็ไม่แน่ใจเช่นกันว่าความประพฤติของของเรียกว่ามืออาชีพได้หรือเปล่า แต่ที่เเน่ๆ เวย์น รูนี่ย์ ยังคงเป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอังกฤษในยุคของเขา เขาจะได้รับเกียรติรับใช้ทีมชาติครบ 100 นัด ในเกมที่จะพบกับสโลเวเนียในวันนี้ และเราจะมาย้อนดูกันว่าเขามีเหตุการณ์อะไรที่น่าจดจำที่สุดตลอดการรับใช้ทัพสิงโตคำรามบ้าง
นัดที่ 15
17 มิถุนายน 2004 ที่ โปรตุเกส
อังกฤษ vs สวิตเซอร์แลนด์ ยูโร 2004 รอบแบ่งกลุ่ม
ตอนนั้นเขายังเป็นเพียงดาวรุ่งอายุ 18 ปีเท่านั้น สังเวียนยูโร 2004 กลายเป็นสังเวียนใหญ่สำหรับเขาในเกมระดับชาติ ในเกมนี้เขาทำประตูได้ และช่วยให้ทัพสิงโตคำรามเอาชนะสวิตเซอร์แลนด์ไปได้ 3-0 ด้วยการโหม่งไป1 ลูก และลูกยิงไกลอีก 1 ลูก นัดนั้นเองทำให้เขาพิสูจน์ตัวเองว่าเขาพร้อมที่จะรับบทบาทกองหน้าของทีมชาติอังกฤษตามรอยของ แกรี่ ลินิเกอร์ , อลัน เชียร์เรอร์ และ ไมเคิล โอเว่น
นัดที่ 33
1 กรกฎาคม 2006 ที่ เยอรมัน
อังกฤษ vs โปรตุเกส ฟุตบอลโลก 2006 รอบสุดท้าย
ทีมชาติอังกฤษหมายมั่นปั้นมือเป็นอย่างยิ่งว่าทัวร์นาเม้นต์นี้จะเป็นสิ้นสุดการรอคอยโทรฟี่ใหญ่ที่พวกเขารอมาถึง 40 ปี เหตุการณ์ที่น่าสนใจเกิดขึ้นเมื่อเกมผ่านไปได้ 60 นาที เวย์น รูนี่ย์ เข้าไปงัดอีรุงตุงนังกับ ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ่ และ วาซซ่า ก็ได้ฝากรอยย่ำไว้ที่ต้นขาของ คาร์วัลโญ่ ท่ามกลางสถานการณ์ที่วุ่นวายผู้เล่นโปรตุเกสเริ่มประท้วง และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ก็จัดแจงบอกกับผู้ตัดสินเรียบร้อยเเล้วจึงทำให้ รูนี่ย์ โดนใบแดงออกจากสนามอย่างอัปยศ แม้ว่าอังกฤษจะเหลือ 10 คนหลังจากนั้นแต่ก็ยันโปรตุเกสไว้ได้จนหมดเวลา 120 นาที (รวมต่อเวลา) แต่สุดท้ายก็แพ้จุดโทษให้กับโปรตุเกสไปในที่สุด
นัดที่ 40
17 ตุลาคม 2007 ที่รัสเซีย
รัสเซีย vs อังกฤษ ยูโร 2008 รอบคัดเลือก
หลังจากที่สิงโตคำรามทำได้แค่เสมอกับมาซิโดเนีย และ แพ้ให้กับ โครเอเชีย พวกเขาเดินทางไปรัสเซียด้วยจุดมุ่งหมายเดียวนั่นคือ 3 แต้มเพื่อกลับไปร่วมศึกยูโร 2008 ที่ออสเตรีย และ สวิตเซอร์แลนด์ เป็นเจ้าภาพร่วมกันให้ได้ รูนี่ย์ ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็จัดการวอลเล่ย์ระยะ 20 หลาให้อังกฤษออกนำไปก่อน ซึ่งทำให้พวกเขาเต็มไปด้วยความหวังที่จะเข้ารอบ แต่เเล้วสวรรค์ก็ต้องล่มเมื่อ โรมัน พาฟลูเชนโก้ จัดการเบิ้ล 2 ประตูให้รัสเซียพลิกกลับมาแซงชนะ 2-1 เหตุการณ์ในนัดนี้ทีให้อังกฤษไมผ่านรอบคัดเลือกในที่สุด ช่างเป็นเหตุการณ์ที่ยากจะลืมเสียจริงๆ
นัดที่ 83
2 มิถุนายน 2013 ที่บราซิล
บราซิล vs อังกฤษ เกมกระชับมิตร
มันเป็นเกมกระชับมิตรเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับเจ้าภาพบราซิลที่จะต้องจัด ฟุตบอลโลก 2014 ให้ออกมาโดดเด่นที่สุด เกมนี้ทุกสื่อคาดว่าบราซิลน่าจะเป็นฝ่ายปูพรมถลุงใส่สิงโตคำรามเป็นแน่แท้ แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน รูนี่ย์ ก็ลางบอลมาจากครึ่งสนามและยิงไกลระยะ 25 หลา ผ่านมือ จูลิโอ เซซาร์ เข้าประตูไปอย่างสวยงาม แต่สุดท้ายทั้งสองทีมก็เสมอกันไป 2-2 แม้จะไม่ใช่เกมที่มีความหมายอะไรมากนัก แต่รูนี่ย์ ก็ได้ยิงประตูที่น่าตื่นตาตื่นใจที่เขาไม่ได้ทำให้เห็นมาเป็นเวลาหลายปี
นัดที่ 94
19 มิถุนายน 2014 ที่บราซิล
อุรุกวัย vs อังกฤษ ฟุตบอลโลก 2014
สำหรับแฟนบอลทั่วไป ทัวร์นาเมนต์นี้อาจจะทำลายฤดูร้อนของแฟนบอลอังกฤษ แต่สำหรับรูนี่ย์ แม้ว่าทีมชาติอังกฤษจะแพ้อุรุกวัยไป 1-2 แต่มันกลับมีความสำคัญกับเขาอย่างมากเพราะแม้ว่าเขาจะติดทีมชาติมาเเล้วถึง 93 นัดแต่ทว่าเขากลับทำประตูไม่ได้แม้แต่ประตูเดียวในฟุตบอลโลก นั่นเองอาจทำให้เขาเป็นนักเตะที่ย่ำแย่และไม่อาจทาบตำนานอย่าง เซอร์ บ๊อบบี้ ชาร์ลตัน หรือ บ๊อบบี้ มัวร์ ในเกมดังกล่าวเขาพยายามสู้อย่างเต็มที่ และสุดท้ายความพยายามก็เห็นผลเมื่อเขาทำประตูได้ในเกมนี้ และเป็นประตูแรกในศึกฟุตบอลโลกที่เขาทำได้ แม้จะเป็นเรื่องเล็กแต่คงไม่สวยแน่หากในอนาคตเขาเป็นนักเตะที่ติดทีมชาติมากที่สุดในประวัติศาสตร์แต่ไม่สามารถทำประตูในฟุตบอลโลกได้