สวัสดีครับผมแฟนผีทุกท่านเป็นอย่างไรกันบ้างครับกับเกมเมื่อคืนนี้ที่สนาม เซนต์ แมร์รี่ ? หลายคนคงส่ายหน้าแล้วพูดพร้อมกันว่า "ชนะได้ยังไงวะ ?"

       ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อนะครับแม้ว่าจะคว้า 3 แต้มในเกมนี้ได้แต่ทว่าเมื่อย้อนสถิติดูแล้วเกมที่ผ่านมาเป็นเกมที่ ยูไนเต็ด มีสถิติที่ห่วยที่สุดในรอบ 11 ปีเลยทีเดียว

       เกมเมื่อคืนนี้ ปีศาจเเดง มาในระบบ 3-5-2 โดย 11 ผู้เล่นตัวจริงได้แก่ ดาบิด เด เคอา , อันโตนิโอ วาเลนเซีย , แพ็ดดี้ แม็คแนร์ , คริส สมอลลิ่ง , มาร์กอส โรโฮ , แอชลี่ย์ ยัง , มารูยาน เฟลไลนี่ , ไมเคิล คาร์รริค , ฆวน มาต้า , เวย์น รูนี่ย์ , และ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่

       พูดตรงๆเมื่อใช่ระบบนี้ทีไรแนวรับไม่เคยเวิร์คเลยซักที อย่างในเกมนี้ แม็คแนร์ , สมอลลิ่ง , และ โรโฮ วิ่งชนตำแหน่งกันไปหมด ดูได้จากลูกที่เสียประตูให้กับเซาธ์แฮมป์ตัน แม้จุดเริ่มต้นจะมาจากการจ่ายบอลพลาดของเฟลไลนี่ แต่หลังจากที่โดนตัดบอลไปได้และโดนลากจี้เข้าหาแนวรับเซ็นเตอร์ฮาล์ฟทั้งสามตัวกลับงงเป็นไก่ตาแตกไม่รู้ใครจะเข้าใครจะซ้อนจนเสียประตูในที่สุด หาก ฟาน กัล คิดจะใช้ระบบนี้แบบยาวๆ เขาคงต้องปรับจูนลูกทีมอีกเยอะ

       ยูไนเต็ด รอดตายอย่างปาฎิหาริย์ด้วยการรับเหมาของโรบิน ฟาน เพอร์ซี่ และการเซฟของ ดาบิด เด เคอา ส่วน นักบุญ ก็ได้ประตูจาก กราเซียโน่ เปลเล่ กองหน้าดาวซัลโวประจำทีม แต่ก็ได้แค่นั้นเมื่อเหล่านักเตะของเซาธ์แฮมป์ตันมีโอกาสตีเสมอหลายต่อหลายครั้งแต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้จึงต้องพ่ายแพ้ไปอย่างน่าเจ็บใจ

      ตลอด 90 นาทีของเกมที่เซนต์ แมร์รี่ เหล่านักเตะปีศาจเเดงมีโอกาสได้ลุ้นทำประตูเพียงแค่ 3 ครั้งเท่านั้น!! อ่านไม่ผิดหรอกครับท่าน 3 ครั้งจริงๆ แถมสถิติดังกล่าวยังเป็นสถิติที่เเย่ที่สุดหากนับรวมทุกทีมในฤดูกาลนี้

      แต่ !! แต่ครับแต่ อะไรกันหรือคือความสำคัญที่สุดของโลกแห่งฟุตบอล การต่อบอล ? ครองเกม ? โอกาสทำประตู ? เกมรุก ? หรือเกมรับ ? ที่กล่าวมาทั้งหมดไม่ใช่หรอกครับล้านทั้งล้านสำหรับทุกคนที่คลั่งไคล้ในกีฬาฟุตบอลล้วนรู้ดี "ชัยชนะ" ต่างหากคือสิ่งที่สำคัญที่สุด

      แม้เกมกับ นักบุญแดนใต้ เหล่าพลพรรคปีศาจแดงจะเล่นได้ห่วยแตกปานใดแต่สุดท้ายไม่ว่าใครหน้าไหนก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า มันคือการคว้าชัยชนะ และ 3 แต้ม ที่แสนล้ำค่าที่พายูไนเต็ดไต่อันดับขึ้นไปอยู่อันดับที่ 3 ได้สำเร็จแถมยังเป็นและเป็นอันดับที่สูงที่สุดนับตั้งแต่เปิดฤดูกาล

      จะด้วยโชคชะตาฟ้าลิขิตอย่างที่ใครๆครหาไว้ก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆผมเชื่อว่ามันไม่ใช่ทั้งหมดหรอก เพราะหากว่ามีแต่ดวง นักเตะคงไม่ต้องลงซ้อม ไม่ต้องวิ่งสู้ฟัดกันลิ้นห้อยแทบทั้งเกมหรอกครับ น้อยๆมันก็ต้องมีเครดิตให้กันบ้าง ใช่ว่ากองหลังเซาธ์แฮมป์ตันจะอัดบอลเต็มข้อเข้าโกลตัวเองซะเมื่อไหร่ ?

      เกมนี้ต้องกราบบูชา โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ จริงๆ วันนี้เขากลับมาเป็นเพชรฆาตเต็มตัวโอกาสยิง 3 ครั้งของทีมในเกมนี้มาจากเขาทั้งหมดมาจากเขาเพียงคนเดียว และโอกาสยิงเข้ากรอบ 2 ครั้งของเขาก็คือ 2 ประตูที่ทำให้ทีมชนะ

      ส่วนตัวของผมคิดว่า ทั้งหมดคือความเด็ดขาดที่ไม่อาจปฎิเสธได้ เป็นคุณภาพไม่ใช่ดวง เป็นฝีมือไม่ใช่ฟลุ๊ค หากปรับจูนเรื่องการครองเกมและเกมรับได้เร็วมากขึ้นเท่าไหร่ โอกาสลุ้นโทรฟี่ในปีนี้ก็มีมากขึ้นเท่านั้นครับ

      ขอทิ้งท้ายด้วยวลีเท่ๆที่เหมาะกับเกมเมื่อคืนนี้ไว้ซักหนึ่งประโยคซึ่งเป็นประโยคที่ โจเซ่ มูริญโญ่ กล่าวถึงความจริงของวงการฟุตบอลว่า "บนโลกนี้ไม่มีใครที่จดจำผู้แพ้ที่เล่นเกมสวยหรอกนะ" ก็ตามนั้นล่ะครับคุณผู้ชม

      เอาเป็นว่าพอแค่นี้ก่อนเเล้วกันนะครับ ไว้ก่อนเกมแดงเดือดในอาทิตย์หน้าทางทีมงาน glory-manutd.com จะจัดสกุ๊ปที่น่าสนใจมาให้แฟนๆได้อ่านกันอีกเช่นเคย สำหรับวันสวัสดีทุกท่านครับผม :D