ป้ายว่าง

บทสัมภาษณ์พิเศษ : บิ๊กตอร์ บัลเดส

Doosh 2015-01-09 14:24:47 บทสัมภาษณ์พิเศษ
บทสัมภาษณ์พิเศษ : บิ๊กตอร์ บัลเดส

       บิ๊กตอร์ บัลเดส ให้สัมภาษณ์กับ สจ๊วร์ต การ์ดเนอร์ พิธีกรของเอ็มยูทีวีทันทีหลังจากเซ็นสัญญากับแมนฯยูไนเต็ด นี่คือบทสัมภาษณ์เต็มครั้งแรกของมือกาวสเปนที่ถูกเผยแพร่ออกมาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในรายการ "Thursday Focus" ของทางสถานี

คุณรู้สึกอย่างไรในการเป็นผู้เล่นของแมนฯยูฯ?

       สำหรับผมเป็นสิ่งที่น่ายินดีที่ได้เซ็นสัญญากับทีม มันเป็นช่วงเวลาในการฟื้นฟูสภาพร่างกายที่ค่อนข้างหนัก และสิ่งแรกที่ผมอยากจะพูดคือขอบคุณ หลุยส์ ฟาน กัล ที่ให้โอกาสผมได้ทำงานร่วมกับเขาและทีมของเขาอีกครั้ง การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้สำคัญจริงๆสำหรับผม เพราะว่าอาการบาดเจ็บที่ผมได้รับรุนแรงมาก สโมสรนี้และทุกๆคนช่วยผมไว้ พวกเขาดูแลผม ดังนั้นผมรู้สึกสำนึกบุญคุณทุกๆคนและผู้จัดการทีมที่ให้โอกาสผมได้เป็นนักเตะของแมนฯยูฯ

ความประทับใจแรกๆของคุณที่มีต่อสโมสรและนักเตะในทีมคืออะไร?

      วันแรกที่ผมได้มาที่สนามซ้อม ผมเห็นตัวอักษรขนาดใหญ่สีแดงของคำว่า "แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด" สำหรับผมนี่เป็นเหมือนฝัน ผมเล่นให้บาร์ซ่ามาหลายปีและนั่นก็เป็นสโมสรที่ใหญ่มากเช่นกัน ซึ่งผมรักบาร์ซ่ามาก ผมคิดว่าที่นี่ก็น่าจะเป็นเหมือนกัน เป็นสโมสรที่ใหญ่มีแฟนคลับทั่วโลก ผมรู้สึกว่ามีแฟนแมนฯยูฯตลอดเวลาตอนที่ผมอยู่ในกลางเมืองแมนเชสเตอร์ ผมคิดว่านี่เป็นเหมือนครอบครัว เป็นความรู้สึกเดียวกับที่ผมได้รับเหมือนตอนที่อยู่บาร์ซ่า สำหรับผมเป็นเรื่องที่ดีมากและผมยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวยูไนเต็ดแห่งนี้

พูดถึงอาการบาดเจ็บหน่อย ตอนนี้คุณฟิตเต็มร้อยหรือยัง?

      ผมก็หวังอย่างนั้นนะ ผมพอใจมากๆกับการฟื้นฟูสภาพร่างกายและมีความสุขที่ได้กลับมาลงสนามอีกครั้ง นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ผมสบายใจที่สุดและสำคัญกับครอบครัวผมอย่างยิ่ง มันเป็นสิ่งที่ดีมากๆกับตัวผม

มีนักเตะหลายคนที่พูดสเปนได้ในทีม เรื่องนี้เป็นประโยชน์กับคุณบ้างมั้ย?

      แน่นอน, แน่นอน ผมคิดว่านั่นเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการฟื้นฟูสภาพร่างกายของผม การมีเพื่อนร่วมทีมชาติที่พูดสเปนเป็นประโยชน์กับผมมาก แต่อย่าง เวย์น รูนี่ย์ กัปตันทีมของเราก็เช่นกันทำให้ผมประทับใจในวันแรกที่ผมมาที่สนามซ้อม ผมไม่ขออะไรอีกแล้ว ผมรู้สึกสำนึกบุญคุณสโมสรแห่งนี้จริงๆ

ฟาน กัล ให้โอกาสคุณได้ลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ของบาร์เซโลน่า เขามีความสำคัญมากแค่ไหนในการเริ่มต้นอาชีพการค้าแข้งของคุณ?

      ผมพูดเสมอว่าผู้จัดการทีมที่สำคัญที่สุดคือ หลุยส์ ฟาน กัล เมื่อคุณเป็นนักเตะเยาวชนคุณมีทางเลือกแรกหรือโอกาสแรกที่จะเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ของบาร์ซ่า และ ฟาน กัล ก็มอบโอกาสนั้นให้กับผมตอนอายุ 20 ปี ผมจึงคิดว่านี่เป็นบุคคลที่สำคัญที่สุดในอาชีพการค้าแข้งของผม ตอนนี้เราได้กลับมาร่วมงานอีกครั้ง เขาให้อีกหนึ่งโอกาสกับชีวิตผม สำหรับตัวผมนี่เป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้เล่นภายใต้การคุมทัพของ หลุยส์ ฟาน กัล และเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากที่จะแสดงให้เขาเห็นถึงศักยภาพที่ผมสั่งสมมา

ตอนนี้คุณได้ทำงานร่วมกับ ดาบิด เด เคอา คุณได้ช่วยพัฒนาอะไรให้เขาบ้างที่ยูไนเต็ด?

      ที่ผมคิดนะ ผมว่า ดาบิด เป็นผู้รักษาประตูที่ดีที่สุดในโลกเลยตอนนี้ ฟอร์มในทุกๆการซ้อมและทุกๆเกมที่เขาเล่นแสดงให้ทุกคนเห็นแล้วว่าคลาสส์ของเขาสูงมาก เขามีปีที่ยิ่งใหญ่และนี่เป็นสิ่งที่ดีมาก ผมคิดว่าเขาดีที่สุดในโลกเลย"

คุณจะลองแข่งกับเขาดูมั้ย?

      ผมอยู่ที่นี่เพื่อช่วยเหลือทุกคน ซึ่งในอาชีพการค้าแข้งของผมก็เป็นอย่างนี้มาตลอด ผมเล่นเพื่อช่วยเพื่อนร่วมทีม, โค้ชและทุกคน ผมเป็นส่วนหนึ่งของทีมและผมก็ไม่ใช่คนชอบมีปัญหา ยามใดที่ผมได้เล่น ผมคิดเสมอว่าต้องเล่นให้ดีและช่วยเพื่อนร่วมทีมคนอื่นให้ดีที่สุด ช่วยพวกเขาให้ชนะในเกมการแข่งขัน

คุณคว้าแชมป์มาแล้วมากมาย แล้วความทะเยอทะยานในตอนนี้ของคุณคืออะไร?

      ก็เป็นแชมป์เหมือนเดิมนั่นแหละ! การคว้าแชมป์เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด คุณต้องการคว้าแชมป์และร่วมฉลองช่วงเวลาพิเศษกับแฟนบอล, ครอบครัวและเพื่อนร่วมทีม สิ่งนี้เป็นเรื่องที่ดีมากและความทะเยอทะยานของผมคือชนะในทุกๆเกมและทุกๆถ้วย

คุณเคยมาเล่นที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด มาแล้วครั้งหนึ่งสมัยอยู่กับบาร์เซโลน่า นั่นทำให้คุณคิดอยากจะเป็นนักเตะแมนฯยูฯด้วยหรือเปล่า?

     แน่นอน เหมือนฝันที่เป็นจริงเลยสำหรับผม นอกจาก คัมป์ นู ผมคิดว่าสนามแห่งนี้เจ๋งมาก เมื่อคุณได้เล่นที่นี่คุณจะได้เห็นบรรยากาศแฟนบอล มันทำให้คุณรู้สึกดี สนามแห่งนี้มีความสำคัญกับนักเตะ และเป็นประวัติศาสตร์ที่สำคัญของสโมสร ตอนนี้ผมเป็นแข้งผีแดงแล้ว การที่ผมจะได้เล่นที่สนามแห่งนี้ทำให้ผมตื่นเต้นมาก

คุณอาศัยในเมืองบาร์เซโลน่ามานานมาก แล้วคุณปรับตัวอย่างไรในการอยู่ที่อังกฤษหรือแมนเชสเตอร์?

     ที่นี่หนาวและก็ฝนตกตลอดเลย (หัวเราะ!) แต่สิ่งที่แตกต่างกันมากที่สุดคือเรื่องของแสง ในสเปนตอน 1 ทุ่มเราจะนั่งสังสรรค์กับเพื่อนๆเพราะพระอาทิตย์ยังไม่ตก แต่ที่นี่ไม่ได้เป็นอย่างนั้น มันเป็นไปไม่ได้เลย แค่บ่าย 3 โมงก็มืดแล้ว (หัวเราะ!) นี่เป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับผม แต่ช่วงสองเดือนครึ่งที่ผมอยู่ที่นี่ผมว่าผมชินกับเรื่องพวกนี้แล้ว มันไม่หนาวอีกต่อไปแล้ว เรื่องฝนตกก็ไม่มีปัญหาอะไร ตอนนี้ผมเป็นพลเมืองแมนเชสเตอร์เรียบร้อยแล้ว

Ads



Related Post