พรีวิวศึก เอฟเอ คัพ รอบ 4

เคมบริดจ์ (12, ลีก ทู) vs แมนฯ ยูไนเต็ด (4, พรีเมียร์ลีก) ... (02.55)

สนาม : เดอะ อาร์ ค็อสติงส์ แอ็บเบย์
ถ่ายทอดสด : CH7

ผลการพบกันของทั้งสองทีม
ไม่เคยพบกัน

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

เคมบริดจ์
17/01/15 ชนะ นิวพอร์ท 4-0 (เหย้า)
10/01/15 ชนะ คาร์ไลส์ 1-0 (เยือน)
03/01/15 ชนะ ลูตัน 2-1 (เหย้า) เอฟเอ คีพ 
28/12/14 แพ้ สตีฟเนจ 2-3 (เยือน) 
26/12/14 แพ้ เซาท์เอนด์ 0-1 (เหย้า)

แมนฯ ยูไนเต็ด
17/01/15 ชนะ ควีนส์ปารืค 2-0 (เยือน) 
11/01/15 แพ้ เซาท์แฮมป์ตัน 0-1 (เหย้า) 
04/01/15 ชนะ เยโอวิล ทาวน์ 2-0 (เยือน) เอฟเอ คัพ 
01/01/15 เสมอ สโต๊ค ซิตี้ 1-1 (เยือน) 
28/12/14 เสมอ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ 0-0 (เยือน)

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุดในรายการนี้

เคมบริดจ์
03/01/15 ชนะ ลูตัน 2-1
17/12/14 ชนะ แมนส์ฟิลด์ 1-0 (เยือน) 
06/12/14 เสมอ แมนส์ฟิลด์ 2-2 (เหย้า) 
08/11/14 ชนะ ฟลีทวู้ด ทาวน์ 1-0 (เหย้า)
08/12/13 แพ้ เชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด 0-2 (เหย้า)

แมนฯ ยูไนเต็ด
04/01/15 ชนะ เยโอวิล 2-0 (เยือน) 
05/01/14 แพ้ สวอนซี ซิตี้ 1-2 (เหย้า)
01/04/13 แพ้ เชลซี 0-1 (เยือน)
10/03/13 เสมอ เชลซี 2-2 (เหย้า)
19/02/13 ชนะ เร้ดดิ้ง 2-1 (เหย้า)

สภาพทีมล่าสุดของทั้งสองทีม

     เคมบริดจ์ ทีมจากลีก ทู จับติ้วชนตอแมนฯ ยูไนเต็ด ในรอบ 4 โดยที่ผ่านมา พวกเขาค่อนข้างโชคดี เมื่อผ่านทีมระดับใกล้เคียงกันมาตั้งแต่รอบแรก เริ่มจากชนะฟลีตวู๊ด ทีมจากลีก วัน ก่อนจะเฉือนแมนส์ฟิลด์ และ ลูตัน สองคู่ต่อสู้จากลีก ทู ในรอบ 2 และ 3 ตามลำดับ ส่วนจุดที่แฟนบอลสนใจก็คือ ลุค แชดวิค (19 นัด 1 ประตู) ซึ่งเป็นอดีตนักเตะ "ปีศาจแดง" มีลุ้นลงบู๊กับทีมเก่า แต่ต้องเช็กความฟิตในนาทีสุดท้ายอีกครั้ง เช่นเดียวกับกองหน้าอย่าง ร็อบบี้ ซิมพ์สัน (19 นัด 3 ประตู)

     อย่างไรก็ดี ไมเคิ่ล เนลสัน (17 นัด 3 ประตู) ปราการหลังตัวหลัก สลัดคราบเดี้ยง พร้อมคุมหลังบ้าน รวมถึง คาเมรอน แม็คกีแฮน ผู้เล่นตัวยืมจากนอริช ก็ได้รับอนุญาติให้ลงสนามรายการนี้ โดยจะประสานงานกับ ไรอัน โดนัลด์สัน (19 นัด 4 ประตู), ทอม เอลเลียต (16 นัด 5 ประตู) และ ไรอัน เบิร์ด (15 นัด 4 ประตู) ทั้งนี้อีกกลุ่มที่จะวืดแน่ๆก็คือ จอร์แดน ชีโดซี่ (-), จอนนี่ ฮันท์ (-) และ มัตเตโอ ลานโซรี่ (-) เนื่องจากติดคัพ-ไท

     หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือชาวดัตช์ พาทีมพ่ายนัดเดียวในรอบ 13 เกมท้าย จะนำทัพ "อสูรแดง" บุกรังเคมบริดจ์ โดยปราศจาก แอชลี่ย์ ยัง ปีกผิวสี และสองกองหลังอย่าง จอนนี่ อีแวนส์ (10 นัด) และ คริส สมอลลิ่ง (12 นัด 1 ประตู) ที่กอดคอเดี้ยง แต่อีกหนึ่งแนวรับ ลุค ชอว์ (10 นัด) ผ่านความฟิต พร้อมเป็นตัวเลือก เช่นเดียวกับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ (20 นัด 8 ประตู) ดาวยิงเทคนิคสูง ก็หายเจ็บเตรียมล่าตาข่าย ส่วนฟูลแบ็กขวาอย่าง ราฟาเอล (9 นัด) เพิ่งกลับมาซ้อมได้ไม่นาน จึงต้องประเมินความฟิตก่อนเกม

     ทั้งนี้ ฟาน กัล อาจพัก ดาบิด เด เคอา นายด่านเบอร์หนึ่ง และเปิดทางให้ บิคตอร์ บัลเดส ลงเฝ้าเสาบ้าง ขณะเดียวกัน บรรดาตัวสำรองในเกมลีกนัดล่าสุดทั้ง แพ็ดดี้ แม็คแนร์, อันเดร์ เอร์เรร่า, มารูยาน เฟลไลนี่, อัดนาน ยานาซาย และ เจมส์ วิลสัน มีลุ้นออกสตาร์ททั้งหมด

รายชื่อนักเตะที่คาดว่าจะลงสนาม

เคมบริดจ์ (4-4-2) ; คริส ดันน์ ; ริชาร์ด เทต, ไมเคิ่ล เนลสัน, จอช คูลสัน, เกร็ก เทย์เลอร์ ; เลียม ฮิวจ์ส, ทอม แชมเปี้ยน, คาเมรอน แม็คกีแฮน, ไรอัน โดนัลด์สัน ; ทอม เอลเลียต, ไรอัน เบิร์ด

แมนฯ ยูไนเต็ด (3-5-2) : บิคตอร์ บัลเดส ; ฟิล โจนส์, แพ็ดดี้ แม็คแนร์, มาร์กอส โรโฮ ; ราฟาเอล, อันเดร์ เอร์เรร่า, มารูยาน เฟลไลนี่, เวย์น รูนี่ย์, ลุค ชอว์ ; อังเคล ดิ มาเรีย, ราดาเมล ฟัลเกา

ทรรศนะ BlueSevenZ

      ศึกฟุตบอล เอฟ เอ คัพ คืนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด จะได้เจอทีมจาก ลีกทู มาตรฐานนั้นต่างกันเยอะแต่บอลนัดเดียวอะไรก็เกิดขึ้นได้ เจ้าบ้านล่าสุดฟอร์มดีชนะมา 3 เกมรวดอีกทั้งเล่นที่นี่ในรายการนี้ไม่แพ้คาบ้านเกิน 2 ประตูตั้งแต่ปี 2007 อีกทั้งฝั่ง แมนฯยูฯ เองก็เห็น ๆ เลยว่าเกมเยือนปีนี้ฟอร์มถือว่าไม่แจ่มเท่าไรหากเทียบกับเกมในบ้าน

      เกมนี้เจ้าถิ่นได้เปรียบที่เสียงเชียร์แฟนบอลแถมนักเตะส่วนสูงมีเกิน 190 กันหลายรายคาดว่าน่าจะใช้แผนบอมบ์เข้าใส่ คาดว่าทาง ฟาน กัล นั้นวางแผนมาแล้วและอาจจะหมุนเวียนนักเตะหลายรายในเกมนี้แต่ก็ยังมีนักเตะแกนหลักอยู่ มองแล้วเกมนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด นั้นจะชนะได้ตามทรงที่เหนือกว่าแต่สกอร์ออกมาไม่น่าจะขาดเท่าไร   

ผลที่คาด : แมนฯ ยูไนเต็ด บุกชนะ 1-0, 2-0

อัตราความมั่นใจ : 8/10