สวัสดีครับมิตรรักแฟนผีทุกท่าน ... เช่นเคยครับกับสัปดาห์นี้ ปีศาจเเดงของเราจบสัปดาห์แบบหงอยๆด้วยการบุกไปเสมอโคตรทีมของยุโรปอย่าง เคมบริดจ์ !! 0-0 ในศึกเอฟเอ คัพ
ไม่รู้หลายๆท่านรู้สึกยังไงนะครับ แต่ในฐานะที่ผมเองก็ติดตามทีมอย่างใกล้ชิดในช่วงฤดูกาลนี้ บอกเลยผลสกอร์ และรูปเกมแบบนี้ผมเห็นจนรู้สึกชินซะเเล้วสิครับ ไม่ว่าจะเจอทีมใหญ่ทีมเล็กทำไมรูปเกมมันถึงออกมาแนวนี้ไปซะทุกที
ช่างมันเถอะครับ คิดซะว่ายังไงก็ยังไม่ตกรอบในขณะที่ ทีมเต็งทีมอื่นๆอย่าง เชลซี และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ โบกมือหยอยๆ ด่วนจากกันไปเร็วเหลือเกิน เล่นซะผมนี่หัวเราะคริๆในลำคอกันเลยทีเดียว
สถานการณ์เช่นนี้ส่งผลให้โอกาสในการคว้าแชมป์ถ้วยใบนี้ของยูไนเต็ดเปิดกว้างขึ้นอีกโข ลำพังหากไอ้สองทีมนี้เข้ารอบ แล้วทีมงานผู้จับฉลากเกิดมือดีจับทีมรักของเราไปเจอกับทีมไหนสักแน่นอนว่าแฟนผีหลายท่านคงแอบทำใจล่วงหน้ากันไว้อย่างแน่นอน
ผ่านมาเเล้วผ่านไปครับ ถ้ายังไม่ตกรอบก็ต้องสู้กันใหม่ในเกมรีแมตช์ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ถ้ายังไม่เข้ารอบอีกละก็ไม่มีเงาหัวเหลืออยู่แน่นอนสำหรับหลุยส์ ฟาน กัล อัจฉริยะจอมเซอร์ไพรส์จอมเขี้ยวจอมเฮี้ยบจอมแท็คติก จอมต่างๆนาๆที่ใครหลายคนตั้งให้
นับตั้งแต่ฟาน กัล เข้ามาคุมทีมปีศาจเเดงนี่ก็ผ่านมาจะครึ่งปีแล้วนะครับทุกท่าน แม้อันดับในตารางจะยังไม่ถือว่าน่าเกลียดแต่หากใครได้ดูการถ่ายทอดสดทุกนัดๆ เชื่อว่าคงต้องอุทานออกมาเป็นเสียงเดียวกันว่า "มันมีอะไรพัฒนาขึ้นบ้างวะ ?"
น่าแปลกใจกับการทุ่มเม็ดเงินไปกว่า 150 ล้านปอนด์ ของกุนซือชาวดัตช์ พร้อมกับ 3-5-2 ที่เเสนจะภูมิใจนำเสนอของเขาที่ก่อนเปิดฤดูกาลวาดฝันไปต่างๆนาๆว่าจะกวาดแชมป์นู่นแชมป์นี่เต็มไปหมด แต่เมื่อลงสนามจริงต้องบอกว่าผลงานค่อนไปทาง "ห่วยแตก" เลยก็ว่าได้
จะด้วยปัญหาบาดเจ็บหรืออะไรก็ตามปีนี้ยูไนเต็ดใช้นักเตะลงสนามในเกมลีกทั้งหมดไป 37 คน ! โอโหยเอาแค่สถิตินี้พอครับ แค่นี้ก็พอจะบอกได้ว่าทำไมทีมมันถึงไม่ลงตัวเสียที สิ่งที่เราๆท่านๆอยากจะเห็นก็คือ การเดินหน้าบุกล่าฆ่าไม่เลี้ยงตามสไตล์ของปีศาจเเดงที่เราเคยเห็น แต่กลับได้เห็นการป้ายบอลจากซ้ายไปขวาไปมา คิดอะไรไม่ออกก็ส่งคืนหลัง เห้อ
น่าเห็นใจฟาน กัล หรือเปล่าที่ต้องมารื้อระบบทีมใหม่หรือไม่ ?? ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ผมเชื่อว่าการหา 11 ตัวจริงที่ลงสนามสม่ำเสมอมันไม่น่าใช่เรื่องยากเกินสมองของเขาหรอกนะครับ ผมเองไม่เถียงหรอกว่าการโรเตชั่นเป็นการทำให้นักเตะสดใหม่อยู่ตลอด แต่มันจะมีประโยชน์อะไรหากนักเตะฟิตเปรี๊ยะ! แต่พอลงเป็นทีมกลับเล่นไม่ต่างจากทีมกลางตารางหาความเข้าขาไม่เจอซะอย่างนั้น
จากสถิติการส่งผู้เล่นลงสนามของยูไนเต็ดมีเพียง 2 เกมเท่านั้นที่ ฟาน กัล จัด 11 ตัวจริงเป็นผู้เล่นชุดเดิมติดต่อกันเพียง 2 นัดเท่านั้นเอง มันน่าจะเป็นแพทเทิร์นง่ายๆที่ทีมไหนก็ใช้กัน มี 11 ผู้เล่นตัวจริงที่ดีที่สุด 1 ชุด ที่เหลือก็สับเปลี่ยนกันบ้างตามโอกาส แต่ ฟาน กัล ออกแนวลองทีมไปเรื่อยเปื่อยหาแก่นสารไม่ได้ ยกตัวอย่างเช่น เอารูนี่ย์นี่ยิงประตูมากที่สุดในทีมไปเล่นกองกลาง , คาร์ริคตัวคุมเกมที่ดีที่สุดของทีมไปเล่นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ , ดิ มาเรีย ผู้เปี่ยมแน่นไปด้วยสกิลก็ถูกโยกไปเล่นกองหน้า ยังไม่รวมถึงดาลี่ย์ บลินด์ ที่จับฉ่ายสุดๆในฤดูกาลนี้ ละอื่นๆอีกมากมายที่ ฟาน กัล มักจะมีเซอร์ไพรส์เสมอๆ
เอาเถอะครับ ตอนนี้ทีมอยู่ในโซนลุ้นตั๋วยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก แถมยังอยู่ในวงโคจรการลุ้นแชมป์ เอฟเอ คัพ ติมากไปก็ใช่ที่ แต่อยากให้แกช่วยมองอะไรที่มันง่ายๆบ้างก็ดีครับ บางทีแกก็คิดมากเกินไปกับปรัชญาฟุตบอลของแก คิดจนหน้าเหี่ยวเหนียงยานหมดเเล้วเด้อออ
ปิดท้ายง่ายๆกันตรงนี้เลยเเล้วกันนะครับ อยากฝากถึง ฟาน กัล ซะหน่อยรีบๆทำทีมให้เข้าที่เข้าทางเสียที เวลาก็ล่วงเลยมาซะขนาดนี้แล้วอย่างน้อยช่วยทำให้แฟนๆได้รู้บ้างว่าใครคือ 11 ตัวจริงที่ดีสุดของทีมเรา ให้แฟนๆได้ดูบอลอย่างเอ็นเตอร์เทนกันบ้าง ก่อนที่น้าฟาน กัล แกจะโดนไล่ออกไปเขียนหนังสือเกี่ยวกับปรัชญาอยู่ที่บ้านเสียก่อน