พรีวิว พรีเมียร์ ลีก ยู-21 : แมนฯยูฯ (5) -vs- ลิเวอร์พูล (10)
สนาม : เล สปอร์ตส์ วิลเลจ
เวลา : 02.00 น.

สถิติในการพบกัน 5 เกมหลัง

23/08/14 ลิเวอร์พูล เสมอ แมนฯยูฯ 1-1
03/05/14 ลิเวอร์พูล แพ้ แมนฯยูฯ 0-1
20/08/13 แมนฯยูฯ แพ้ ลิเวอร์พูล 2-4
15/05/13 แมนฯยูฯ ชนะ ลิเวอร์พูล 3-0
07/05/13 แมนฯยูฯ เสมอ ลิเวอร์พูล 1-1

ฟอร์ม 5 นัดหลังสุด

แมนฯยูฯ

10/01/15 เสมอ นอริช ซิตี้ 1-1 (เยือน)
02/12/14 แพ้ เซาท์แฮมป์ตัน 0-1 (เยือน)
09/11/14 เสมอ เสมอ เชลซี 1-1 (เยือน)
04/11/14 แพ้ เลสเตอร์ 2-3 (เหย้า)
25/10/14 ชนะ เวสต์แฮม 2-1 (เยือน)

ลิเวอร์พูล

18/12/14 เสมอ นอริช ซิตี้ 1-1 (เยือน)
01/11/14 ชนะ สเปอร์ส 2-1 (เหย้า)
26/10/14 แพ้ ฟูแล่ม 2-3 (เยือน)
17/10/14 แพ้ เซาท์แฮมป์ตัน 1-3 (เหย้า)
26/09/14 แพ้ แมนฯซิตี้ 3-4 (เหย้า)

ความพร้อม

       ลูกทีมของ วาร์เรน จอยส์ มีโอกาสกลับขึ้นไปรั้งที่ 1 หากเก็บชัยในเกมวันนี้ได้ แต่ก็ต้องลุ้นให้ผลของคู่อื่นเป็นใจด้วย แม้ว่าฟอร์มการเล่นของแข้งเยาวชนปีศาจในลีกจะไม่ดีไร้ชัยมา 4 เกมติด แต่ความได้เปรียบในวันนี้คือทีมจะได้กลับมาเล่นในรังตัวเองเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งผลงาน 3 เกมหลังคว้าชัยมาได้ถึง 2 นัดและ 2 เกมที่ว่าเป็นการถล่มยับคู่แข่งแบบไม่เสียประตูอีกต่างหาก

       นอกจากนี้เรื่องสภาพความฟิตของนักเตะก็ค่อนข้างพร้อมเพราะได้พักเต็มๆ หลังจากเกม แมนเชสเตอร์ ซีเนียร์ คัพ ที่ต้องออกไปเยือน โบลตัน เมื่อสัปดาห์ก่อนถูกยกเลิก อีกทั้งความกระหายเกมวันนี้ก็เต็มสูบเพราะตั้งแต่เปลี่ยนศักราชใหม่แข้งยู-21 มีเกมให้เล่นเพียงนัดเดียวเท่านั้น

       ขุมกำลังหลักในเกมนี้มีเปลี่ยนหน้าไปจากเกมที่เสมอกัน 1-1 เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ท็อม ลอว์เรนส์ ที่ยิงประตูในเกมนั้นได้ย้ายไปร่วมทีม เลสเตอร์ เรียบร้อยแล้ว เช่นเดียวกับ วิล คีน ที่ย้ายซบ เชฟฯเว้นส์ฯ แบบยืมตัว ทำให้ตำแหน่งผู้นำในเกมรุกจะถูกส่งมาที่ แอชลี่ย์ เฟล็ทเชอร์ แทน ขณะที่ นิค พาว เป็นอีกตัวเลือกในจุดนี้ ส่วน ท็อม ธอร์ป กัปตันทีมยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้า

       ทางด้าน ลิเวอร์พูล ของกุนซือ ไมเคิ่ล บีล ก็ร้างลาเกมมาตั้งแต่วันที่ 17 ธันวาคมปีที่แล้ว โดยเกมนั้นออกไปเสมอ นอริช ซิตี้ 1-1 ส่งผลให้ทีมไม่แพ้ใคร 2 เกมติดแล้ว เป็นผลงานที่ค่อนข้างดีเพราะก่อนหน้านั้นแพ้มา 3 เกมติด ขณะที่ทริปเยือนปีนี้ถือว่าทำได้ดีเพราะชนะ 2 เสมอ 2 และแพ้เพียงเกมเดียวใน 5 ทริปหลังสุด

       อย่างไรก็ตามอันดับในตารางของทีมหงส์แดงยังไม่ดีเท่าที่ควรเพราะอยู่เหนือโซนตกชั้นเพียงอันดับเดียวด้วยการมีสถิติประตูได้เสียที่ดีกว่า ทำให้วันนี้ บีล จำเป็นต้องกระตุ้นลูกทีมให้บุกมาเก็บชัยหรืออย่างน้อยต้องมีแต้มติดมือออกไปให้ได้

ทรรศนะ

       "ศึกแดงเดือด" ชุดเล็กความเข้มข้นในเกมไม่ได้แตกต่างจากทีมชุดใหญ่มากนัก นักเตะทั้งสองทีมต้องการที่จะเก็บชัยชนะให้ได้ในวันนี้ เรื่องแรงจูงใจเดาได้เลยว่ามากแน่นอน ส่วนเรื่องฟอร์มการเล่นดูเหมือนช่วงหลังจะเป็นทีมเยือนที่ทำได้ดีกว่า อีกทั้งแพ้ยากเมื่อต้องเล่นนอกรัง

       ขณะที่ "ผีแดง" เองแม้จะถล่มเอาชนะ นอริช และ ซันเดอร์แลนด์ มาได้ใน 2 จาก 3 เกมเหย้าล่าสุด แต่หนสุดท้ายที่เล่นในบ้านดันผิดฟอร์มพ่าย เลสเตอร์ 2-3 ซะงั้น นอกจากนี้ขุมกำลังหลักๆก็ทยอยออกจากทีมหรือไม่ก็เจ็บ ทำให้ศักยภาพไม่น่าจะดีพอที่จะเด็ดปีกหงส์แดงได้ แต่ด้วยความเป็นบิ๊กแมตช์เชื่อว่าเด็กๆของเราก็คงสู้ไม่ถอยแน่นอน แต่อาจจะไม่แกร่งพอคว้าชัยเท่าน้้นเอง

ผลที่คาด : เสมอสุดมันส์ 2-2