พรีวิวพรีเมียร์ลีก เชลซี vs แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

      เวลาเเข่งขัน วันที่ 18 เมษายน 2558

      สนาม สแตมฟอร์ด บริดจ์

      ถ่ายทอดสด CTH Stadium 4

      เกมบิ๊กแมตช์อย่างต่อเนื่องของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด หลังจากเพิ่งซัดกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึก แมนเชสเตอร์ ดาร์บี้ มาหมาดๆ เกมนี้พวกเขาจะต้องบุกไปเยือนเชลซีทีมจ่าฝูงของตารางด้วยเงื่อนไขที่บีบบังคับให้ ปีศาจเเดง ต้องบุกไปฝัง เชลซี คาถิ่นให้ได้ หากพวกเขายังอยากจะลุ้นอันดับที่ 2 หรือตำแหน่งแชมป์เปี้ยนส์ในปีนี้ ซึ่งตามทฤษฐีแล้ว ยูไนเต็ด ยังมีโอกาสอยู่ !

      สภาพความพร้อมของทั้งสองทีม

      แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

      เป็นที่ฮือฮาเมื่อหัวค่ำที่ผ่านมาหลังจากที่ หลุยส์ ฟาน กัล ได้ออกมายืนยันว่าในเกมนี้พวกเขาจะต้องขาด 4 กำลังหลักในช่วงที่ทีมกำลังพีคแบบสุดๆอย่าง ดาลี่ย์ บลินด์(ข้อเท้า) , ไมเคิล คาร์ริค(ต้นขา) , มาร์กอส โรโฮ(สะโพก) และ ฟิล โจนส์(ข้อเท้า) ซึ่งส่งผลเสียหายอย่างรุนเเรงโดยเฉพาะในเกมรับ รวมถึง จอนนี่ อีแวนส์ ที่ยังไม่พ้นโทษแบนอีกด้วย

      สำหรับในเกมรุกพวกเขาจะได้ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ กองหน้าชาวดัตช์ที่ทำไป 11 ประตูในฤดูกาลนี้กลับมาช่วยทีมหลังจากที่ผ่านความฟิตเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว

      เชลซี

      ลูกทีมของ โจเซ่ มูริญโญ่ จัดว่าฟูลทีมเลยทีเดียวจะขาดแต่เพียง ดิเอโก้ คอสต้า กองหน้าทีมชาติสเปนที่เป็นดาวซัลโวของทีม (19 ประตู) ที่เจ็บยาวจนอาจจะต้องรูดม่านซีซั่นนี้ โดยในตำแหน่งนี้คาดว่า มูริญโญ่ จะใช่ โรอิก เรมี่ กองหน้าชาวฝรั่งเศสที่มีผลงานการเป็นซุปเปอร์ซับมาตลอดในระยะหลังลงทำหน้าทีเป็นกองหน้าตัวเป้าในเกมนี้

      คีย์แมนของทั้ง 2 ทีม

      เชลซี : เอเเด็ง อาซาร์

      ไม่ต้องบรรยายสรรพคุณสำหรับปีกตัวจี๊ดรายนี้ เขาเป็นกำลังในแนวรุกของสิงห์โตน้ำเงินครามที่หาตัวจับได้อย่างยากยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการเลี้ยง , แอสซิสต์ และ การจบสกอร์ เขาทำหน้าที่ได้อย่างเฉียบขาด หากเกมนี้ปีศาจเเดงหวังจะมีแต้มกลับบ้านต้องปิดตายอาซาร์ให้อยู่หมัด และหากทำได้ความอันตรายของแนวรุกเชลซีจะลดลงไปเยอะเลยทีเดียว

      เเมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : มารูยาน เฟลไลนี่

      ดาวเตะหัวฟูก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะในแนวรุกที่ปีศาจเเดงจะขาดไม่ได้ เขามีส่วนอย่างมากในสำหรับชัยชนะ 6 เกมหลังสุดของทีม ความแข็งแกร่งในลูกกลางอากาศที่ทำได้ดีทั้งในเกมรับและเกมรุก อีกทั้งสกิลหัวเรดาร์ที่สามารถโหม่งชงให้เพื่อนรวมถึงการพักบอลของเขาก็คอยสร้างโอกาสให้กับแนวรุกคนอื่นๆอยู่บ่อยครั้ง และข้อสุดท้ายความขยันในการไล่เพรสซิ่งผู้เล่นฝั่งตรงข้ามตั้งแต่ในเเดนของศัตรูของเขาช่วยเเบ่งเบาภาระของแนวรับได้อย่างมากมายเลยทีเดียว

      วาทะก่อนเกมจากกุนซือทั้งสองทีม

      เชลซี : โจเซ่ มูริญโญ่

      "ผมคิดว่านั่นเป็นเพราะพวกเราน่าเบื่อ เราเป็นจ่าฝูงของลีกตั้งแต่วันแรก"

      "นั่นคือบางสิ่งที่ผู้คนในประเทศนี้ไม่ค่อยจะชอบสักเท่าไหร่"

      แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด : หลุยส์ ฟาน กัล

      "การคว้าแชมป์ลีกไม่ใช่เรื่องที่เป็นเหตุเป็นผลแต่ก็อาจเกิดขึ้นได้ เป็นเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้นมากกว่าซึ่งผมไม่เชื่อในเรื่องที่อาจจะเกิดขึ้น ผมเชื่อในความเป็นจริง"

      "เราตามเชลซีอยู่แต่ต้องเจอพวกเขา อาร์เซน่อลก็ด้วย ฉะนั้นเราสามารถโยนความกดดันให้เชลซีได้ คุณไม่มีทางรู้ชัดหรอก"

       "เราเคยเห็นในพรีเมียร์ลีกซีซั่นก่อนๆมันจึงเป็นไปได้แต่ไม่สมเหตุสมผล ผมว่าเชลซีจะพอใจกับผลเสมอ"

      ฟอร์ม 5 เกมหลังสุดของทั้ง 2 ทีม

      เชลซี

      12/04/15 ชนะ ควีนส์ ปาร์ค เรนเจอร์ส 1-0 (เยือน)
      05/04/15 ชนะ สโต๊ค ซิตี้ 2-1 (เหย้า)
      22/03/15 ชนะ ฮัลล์ ซิตี้ 3-2 (เยือน)
      15/03/15 เสมอ เซาธ์แฮมป์ตัน 1-1 (เหย้า)
      12/03/15 เสมอ ปารีส แซงต์ แชร์กแม็ง 1-1 (เหย้า)

      แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

      12/04/15 ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 4-2 (เหย้า)
      4/4/15 ชนะ แอสตัน วิลล่า 3-1 (เหย้า)
      21/03/15 ชนะ ลิเวอร์พูล 2-1 (เยือน)
      15/03/15 ชนะ สเปอร์ส 3-0 (เหย้า)
      10/03/15 แพ้ อาร์เซน่อล 1-2 (เหย้า)

      สถิติการพบกัน 5 เกมหลังสุดของทั้งคู่

      26/10/14 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-1 เชลซี
      19/01/14 เชลซี 3-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
      27/08/13 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-0 เชลซี
      05/05/13 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 0-1 เชลซี
      01/04/13 เชลซี 1-0 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

      สถิติที่น่าสนใจก่อนเกมในคืนนี้

      - เชลซีไม่เคยพ่ายแพ้ให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เลยตลอดการเจอกัน 4 เกมหลังสุด อีกทั้งพวกเขายังเสียประตูให้กับปีศาจเเดงเพียง 2 ประตูเท่านั้น

      - เชลซี เป็นเพียงทีมเดียที่สามารถชนะแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้มากกว่าตลอดการเจอกันทั้งหมด โดยแบ่งเป็น เชลซี ชนะ 15 ครั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ 13 ครั้ง และ เสมอกัน 17 ครั้ง

      - แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะเชลซีได้เพียง 6 เกมเท่านั้นในการเจอกันในลีก 23 เกมหลังสุด

      - ปีศาจเเดง สามารถบุกมาชนะ เชลซี ถึงถิ่นสแตนฟอร์ด บริดจ์ ได้เพียง 5 เกมเท่านั้น และหนล่าสุดเกิดขึ้นใรปี 2002 (ยูไนเต็ด 3-2 เชลซี)

      - การเจอกันของทั้งคู่ใน 5 เกมหลังสุดมีนักเตะโดนใบเเดงไล่ออกจากสนามถึง 5 คน ประกอบด้วย บาติสลาฟ อิวาโนวิช (2 ครั้ง) , เฟร์นันโด ตอร์เรส , เนมันย่า วิดิช และ ราฟาเอล ดา ซิลวา

      11 ตัวจริงที่คาดว่าจะได้ลงสนาม

     เชลซี (4-2-3-1) : ธิโบต์ คูร์ตัว : บาติสลาฟ อิวาโนวิช , แกรี่ เคฮิลล์ , จอห์น เทอร์รี่ , เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า , เนมันย่า มาติช , เชส ฟาเบรกัส , วิลเลี่ยน , ออสก้าร์ , เอเเด็ง อาซาร์ , และ โรอิก เรมี่

      แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา , อันโตนิโอ วาเลนเซีย , คริส สมอลลื่ง , แพ็ดดี้ แม็คเเนร์ , ลุค ชอว์ , อันเดร์ เอร์เรร่า , เวย์น รูนี่ย์ , ฆวน มาต้า , มารูยาน เฟลไลนี่ , แอชลี่ย์ ยัง และ ราดาเมล ฟัลเกา

      ทรรศนะจากทีมงาน Glory-Manutd.com

      เกมซุปเปอร์บิ๊กแมตช์เกมนี้ตั้งอยู่บนเงื่อนไขง่ายๆของ เชลซี ที่ขอเพียงไม่แพ้เท่านั้นเพราะพวกเขาจะยังมีโอกาสคว้าแชมป์สูงเลยทีเดียว ผิดกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่หากแพ้เกมนี้ปีศาจเเดงจะหมดลุ้นแชมป์ในทันที รวมถึงการชิงอันดับ 2 ของกับอาร์เซน่อลก็จะน้อยลงไปด้วย

      รูปเกมคงเป็นแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่บุกเข้าใส่ตามเงื่อนไขที่ได้กล่าวไว้ข้างบน แต่การขาด บลินด์ , คาร์ริค , โรโฮ , โจนส์ น่าจะทำให้เกมรุกและรับของพวกเขาจะอ่อนลงอย่างแน่นอน

      ในส่วนของเชลซีนั้นดูแบบเผินๆแม้พวกเขาจะกวาดชัยในเกมลีกถึง 4 เกมรวดแต่ล้วนเเล้วแต่เป็นการชนะเเบบกระท่อนกระแท่นทั้งนั้น เกมนี้ลูกทีมของมูริญโญ่อาจจะประมาทและผ่อนคันเร่งจนก่อให้เกิดความผิดพลาดก็เป็นได้เพราะโอกาสคว้าแชมป์ของพวกเขานั้นสูงลิบลิ่วในตอนนี้

      ทั้งหมดทั้งมวลที่ได้กล่าวมาทางทีมงานจึงขอลงความเห็นว่าเกมนี้มีโอกาสอย่างมากที่จะออกหน้าเสมอแบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่นไปในที่สุด

      สกอร์ที่คาด เชลซี 1-1 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด