สวัสดีครับแฟนผีทุกท่าน บอลปิดฤดูกาลไปเงียบเหงากันมั้ยครับ ? ... เป็นที่รู้กันว่าฤดูกาลนี้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ของเราจบในอันดับ 4 ของตารางคว้าตั๋วไปเล่นฟุตบอลยุโรปได้ตามเป้าหมายที่หลุยส์ ฟาน กัล กล่าวไว้ตั้งแต่มารับงานกุนซือของทีม
แน่นอนครับ เป็นที่รู้กันอีกนั่นแหละว่าในฤดูกาลหน้าความคาดหวังของพลพรรคปีศาจเเดงสูงขึ้นกว่าฤดูกาลที่ผ่านมามากนัก ดูได้จากการให้สัมภาษณ์ของฟาน กัล และ นักเตะในทีม พวกเขาไม่ได้มองแค่พื้นที่ฟุตบอลยุโรปอีกต่อไป ทุกคนต่างพูดถึงตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกกันทั้งสิ้น
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ทำให้เกิดสกุ๊ปนี้ขึ้นมานั่นคือเหล่านักเตะหลายๆคนที่พาทีมคว้าอันดับ 4 ในปีนี้ พวกเขาจะดีพอสำหรับทีมของเราในฤดูกาลหน้าที่จะลงเล่นด้วยการเดิมพันตำแหน่งเเชมป์ลีกหรือเปล่า ?? โดย สกุ๊ปนี้ผมจะขอพูดถึงนักเตะที่มักจะได้ลงสนามเป็น 11 ตัวจริงนะครับพวกดาวรุ่งหรือตัวสำรองอดทนก็เป็นอันที่รู้กันดังนั้นผมจึงขออนุญาตข้ามในส่วนนี้ไปก็แล้วกันครับผม
1. มารูยาน เฟลไลนี่
พี่ฟูที่ทำท่าจะหมดอนาคตในตอนแรกกลับมาเกิดใหม่ได้อย่างเต็มตัวในฤดูกาลที่ผ่านมา ...เขามีจุดเด่นอยู่ที่การเล่นลูกกลางอากาศและความดุดันในการจบสกอร์ โดยเมื่อในฤดูกาลที่ผ่านมา เฟลไลนี่ ทำประตูได้ 6 ประตูจากการลงเล่น 27 เกม
ถึงแม้ว่าสถิติการเล่นลูกลางอากาศของพี่ฟูจะมีเปอร์เซ็นสำเร็จสูงถึง 74% แต่ทว่าเท่านั้นมันยังไม่เพียงพอ เมื่อจุดอ่อนของเขาก็มีอยู่ไม่น้อยอาทิเช่น เขาเป็นนักเตะที่ช้า , เข้าบอลเสี่ยงต่อการโดนใบแเดง และที่สำคัญคือการเล่นบอลกับเท้าและการครองบอลที่ยังต้องปรับปรุง ซึ่งสองสิ่งนี้เป็นสกิลที่จำเป็นอย่างมากในระบบของฟาน กัล ที่เน้นการครองบอลกับพื้นมากกว่าโยนยาว(จากผลงานก่อนรับบทกุนซือของแมนฯ ยูฯ) นอกจากนี้นับตั้งแต่เจ้าตัวย้ายมาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกเขายังไม่ได้สามารถคว้ารางวัลได้แม้แต่โทรฟี่เดียว ซึ่งน่าสนใจว่าหลังจากตลาดซื้อขายครั้งนี้หากปีศาจเเดงคว้าตัวกองกลางระดับท๊อปมาเสริมทัพได้สำเร็จ สถานการณ์ของเฟลไลนี่จะเป็นอย่างไร ?
2. บิคตอร์ บัลเดส
บิคตอร์ บัลเดส ย้ายมาร่วมทัพแบบฟรีๆในช่วงตลาดซื้อขายหน้าหนาวที่ผ่านมาแต่ทว่าเขาไม่ได้โอกาสลงสนามมากนักเนื่องจากมีดาบิด เด เคอา ขวางทางอยู่ แต่ในฤดูกาลหน้าอาจเป็นโอกาสพิสูจน์ตัวเองของเขา หลังจากที่มีเปอร์เซ็นสูงเหลือเกินที่ปีศาจเเดงจะต้องเสีย เด เคอา ให้กับ เรอัล มาดริด
เรื่องดีกรีเราคงไม่ต้องพูดถึงกันมากมาย บัลเดส กวาดมาทุกแชมป์ที่เขาได้ลงเเข่งขันในสมัยที่เขาอยู่กับ บาเซโลน่า ... แต่ที่อังกฤษนั้นแตกต่างออกไปเขายังคงเป็นมือใหม่ที่ยังไม่โดนฟุตบอลอังกฤษรับน้องเเบบเต็มๆ อย่างที่เราเห็นๆกัน ผู้รักษาประตูที่ย้ายมาค้าเเข้งในพรีเมียร์ลีกปีแรกมักจะมีปัญหากับลูกกลางอากาศซึ่งเป็นส่วนสำคัญในเกมบุกของเหล่าทีมระดับเล็กจนถึงระดับกลางๆของพรีเมียร์ลีกดังที่เราได้เห็น เด เคอา เหวอเป็นประจำในช่วงปีแรกของเขา ซึ่งในฤดูกาลหน้าเราอาจจะได้พิสูจน์ความสามารถขอ บัลเดส ในข้อนี้
3. อันโตนิโอ วาเลนเซีย
หลายท่านอาจต้องร้องเห้ยเมื่อเห็นชื่อของ วาเลนเซีย ในสกุ๊ปนี้ ... ใจเย็นๆครับ เจ้ารถด่วนทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมสำหรับการรับบทบาทเเบ็คขวาจำเป็น เขามีทั้งวินัย , ความแข็งแกร่ง และ ความเข้าใจในเกม ซึ่งนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เบียด ราฟาเอล ดา ซิลวา จนกระเด็นเป็นตัวรอง
แต่ด้วยความที่ไม่ใช่ตำแหน่งที่ถนัดของเขามันทำให้น่าสนใจว่าเขาจะรับบทบาทนี้ในระยะยาวได้หรือไม่ ? ... เขายังมีจุดอ่อนอยู่บ้างในเรื่องของการเติมเกมรุกเเละการเปิดบอลจังหวะสุดท้ายซึ่งผมเชื่อว่าแฟนผีทุกคนหวังเหลือเกินว่าเขาจะสามารถแก้จุดอ่อนของเขาได้ในฤดูกาลหน้า
4. ฟิล โจนส์
ลงสนามไปทั้งหมด 22 เกมในฤดูกาลที่ผ่านมา ยามใดที่โจนส์ไร้ปัญหาอาการบาดเจ็บเขามักจะถูกหลุยส์ ฟาน กัล การันตีการได้ลงสนามในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ซึ่งถือว่าเขาก็ทำหน้าที่ได้แค่ในระดับพอใช้เท่านั้น นอกจากความแข็งแรงและความขยันทุ่มเทเเล้ว สิ่งที่โจนส์ ยังขาดอีกเยอะนั่นคือความนิ่งและการตัดสินใจ ซึ่งมีหลายครั้งที่สองสิ่งนี้ของเขามักจะสร้างความกดดันให้กับแนวรับของทีมตัวเอง นั่นคือสิ่งที่เขาต้องรีบแก้ไขให้ได้โดยด่วนเพราะตอนี้ดูเหมือนว่าคริส สมอลลิ่ง เซ็นเตอร์คู่หูของโจนส์จะมีพัฒนาการที่เห็นได้ชัดกว่าเขาเสียเเล้ว
ยิ่งในฤดูกาลหน้ายูไนเต็ดมีคิวต้องเตะฟุตบอลยุโรปทำให้น่าสนใจว่า โจนส์ จะสามารถรับมือกับเหล่าแนวรุกที่อันตรายกว่าพรีเมียร์ลีกได้ดีมากน้อยแค่ไหน นอกจากนี้สถานการณ์ของเขาในการการีนตีตัวจริงคงเป็นเรื่องยากกว่านี้หาก ยูไนเต็ด ซื้อตัวกองหลังระดับท๊อปเช่น นิโคลัส โอตาเมนดี้ และ แมตส์ ฮุมเมิลส์ มาเสริมทัพในซัมเมอร์นี้
5. แอชลี่ย์ ยัง
"จารย์ยัง" ยึดตำแหน่งตัวจริงได้อย่างน่าเซอร์ไพรส์เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา เขาลงสนามไปทั้งหมด 26 เกมทำไป 5 ประตูและอีก 5 แอสซิสต์ ความขยันและความเข้าใจเกมทำให้ ยัง เบียด ดิ มาเรีย หลุดไปเป็นตัวสำรองได้อย่างน่าชื่นชม
แต่ในฤดูกาลนี้มันจะต่างออกไปอย่างแน่นอน เขาจะต้องแย่งชิงตำแหน่งตัวจริงกับ ดิ มาเรีย ในเวอร์ชั่นเสือลำบากที่ต้องการพิสูจน์ตัวเองว่าเขานั้นมีดีสำหรับตำแหน่งตัวจริง อีกทั้งยังมี เมมฟิส เดอปาย ปีกตัวใหม่ที่มากับความมั่นใจและทะเยอทยานอย่างเต็มเปี่ยว น่าสนใจว่า อาจารย์ยังจะรักษามาตรฐานเดิมและยึดตำแหน่งตัวจริงได้อีกหรือเปล่า ... นั่นคือสิ่งที่เขาต้องพิสูจน์ในฤดูกาลหน้า
สำหรับวันนี้เอาไว้แค่นี้ก่อนแล้วครับนะครับ ไว้พรุ่งนี้เรามาต่อกันที่พาร์ท 2 ครับผม ... สำหรับวันนี้สวัสดีครับ